xs
xsm
sm
md
lg

Binance เปิดเคล็ดลับเซฟใจ เซฟเป๋าตังค์ รับวันวาเลนไทน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



บรรยากาศสุดโรแมนติกของเดือนกุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์นี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ผู้คนทั่วไปที่กำลังมองหาความรัก แต่ก็ยังมีอาชญากรออนไลน์ที่ใช้โอกาสนี้ ในการมองหาช่องทางล่อหลอก ฉกหัวใจและเงินของเราไปด้วยเช่นกัน

ในยุคดิจิทัลนี้ กว่าล้านผู้คนทั่วโลก ได้ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ในการพบปะผู้คนใหม่ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์สุดโรแมนติก อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้จะช่วยเป็นสะพานสื่อรักให้แก่ผู้คน แต่มันก็ยังได้เปิดทางไปสู่ภัยอันตรายที่ไม่อาจคาดคิดได้เช่นกัน

รู้ทันกลโกง ‘อาชญากรรมพิศวาส’ หรือ ‘Romance Scam’

การหลอกลวงที่มาในรูปแบบของคู่เดทออนไลน์ หรือ Romance Scam เป็นการหลอกลวงผ่านอาชญากรที่คาดหวังในสินทรัพย์ โดยคนร้ายจะเข้าหาเหยื่อ ด้วยการปลอมตัวเป็นบุคคลหน้าตาดี บุคลิกน่าดึงดูด เพื่อปั่นป่วนความรู้สึกและหัวใจของคนที่กำลังมองหาความรักให้หวั่นไหว

แต่ความจริงอันโหดร้าย คือบุคคลอันมีเสน่ห์เหล่านี้ เป็นเพียงอาชญากรที่ใช้โปรไฟล์ปลอมที่มาหลอกล่อให้ไว้ใจ เพื่อเป้าหมายในการดูดเงินหรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของเหยื่อนั่นเอง

รักบังตา พาเสียทรัพย์ บทเรียนจาก Romance Scam และบทบาทของคริปโต

การถูกหลอกลวงแบบ Romance Scam เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วทุกมุมโลก อ้างอิงจาก Norton Cyber Safety Insights Report ประจำปี 2023 ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนกว่า 1 ใน 4 ตกเป็นเหยื่อของการหาคู่ออนไลน์หรือ Romance Scam โดยในสหรัฐอเมริกา คณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ (US Federal Trade Commission) ได้รับการร้องเรียนเรื่อง Romance Scam กว่า 11,235 คดีในปี 2016 และเพิ่มขึ้นกว่า 368% ในปี 2020 กับจำนวนคดีที่มากขึ้นกว่าเดิมถึง 52,593 คดี ในระยะเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2022 สถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรง จากสถิติการเกิดเหตุการณ์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30% ในทุกๆปี โดยผู้คนกว่า 70,000 รายตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงนี้ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียสะสมมูลค่ามากถึง 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ

จากรายงานของ FTC คดีร้องเรียนที่เกิดจากการหลอกให้โอนคริปโตมีจำนวนกว่า 34% แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ไม่ใช่ช่องทางหลักของเหล่าคนร้ายที่ก่อ Romance scam อย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะแท้จริงแล้วกิจกรรมที่ผิดกฎหมายภายในโลกคริปโตถือเป็นเพียงส่วนเล็กๆ เมื่อเทียบกับธุรกรรมทั่วโลก อีกทั้ง คดีเหล่านี้กำลังมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากรายงานอาชญากรรมทางคริปโตประจำปี 2024 ของ Chainalysis ที่ชี้ให้เห็นว่าสัดส่วนปริมาณธุรกรรมคริปโตที่ผิดกฎหมายลดลงจาก 0.42% ในปี 2022 เหลือเพียง 0.34% เท่านั้น โดยแรงผลักดันสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง คือผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง Binance ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อป้องกันและต่อกรกับการหลอกลวง พร้อมไปกับการรักษามาตรการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด ควบคู่ไปกับการเพิ่มพูนความรู้ด้านภัยคุกคามแก่ผู้ใช้ ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญที่จะพาเราจับมือร่วมกันต่อกรกับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Binance ในปี 2023 Romance Scam คิดเป็นประมาณ 2% ของกรณีการหลอกลวงทั้งหมด แม้ว่าอาจจะดูเล็กน้อย แต่ความสูญเสียทางการเงินโดยรวมที่เหยื่อประสบนั้น มีมูลค่ามากกว่าหลายสิบล้านเหรียญสหรัฐ หรือนับเป็นความสูญเสียเฉลี่ย 14,000 เหรียญสหรัฐต่อเหยื่อหนึ่งราย เห็นได้ชัดว่า การหลอกลวงเช่นนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในการฉ้อโกงที่ก่อให้เกิดความเสียหายทางการเงินมากที่สุด ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการสร้างความตระหนักรู้และป้องกันระบบนิเวศของคริปโตให้เกิดขึ้น

เผยไต๋กลลวง ฉีกหน้ากากอาชญากร

เอริน ฟราคอลลิ (Erin Fracolli) หัวหน้าหน่วยสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของ Binance เปิดเผยว่า “อาชญากรมักจะติดต่อกับเหยื่อผ่านแอปหรือเว็บไซต์หาคู่เพื่อสร้างความไว้วางใจ โดยเหยื่อจะถูกหลอกให้ลงทุน ด้วยสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนสูง โดยผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมักจะเริ่มต้นจากการลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อย และยังสามารถ "ถอนเงิน" หรือได้รับเงินลงทุนคืนอยู่บ้าง ซึ่งทำให้การลงทุนดูน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว เหยื่อก็จะไม่สามารถถอนหรือเรียกเงินคืนได้อีก หรือบางทีคนร้ายอาจจะยังมีการเรียกร้องเงินเพิ่ม ทั้งในรูปแบบภาษี ค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งหลายคนมักจะรู้ตัวว่าโดนหลอกเมื่ออยู่ในขั้นตอนนี้ หรือเมื่อเริ่มระแคะระคายจนไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการหลอกลวงประเภท จนทราบด้วยตนเองในที่สุด”

การหลอกลวงการลงทุนประเภทนี้เรียกว่า "การแล่เนื้อหมู (Pig Butchering)" ซึ่งอาชญากรจะหลอกล่อด้วย "ผลกำไร" ที่มอบให้ในตอนแรก เพื่อสร้างความไว้วางใจและทำให้เหยื่อลงทุนมากขึ้น โดยเมื่ออาชญากรได้เงินจากเหยื่อจนพอใจแล้วก็จะหายตัวไป ทำให้การติดตามหรือกู้คืนเงินลงทุนกลับมาเป็นไปได้ยาก ดังนั้น "Pig Butchering" จึงสะท้อนให้เห็นว่าอาชญากรจงใจทำให้เราตายใจ เหมือนการเลี้ยงหมูให้อ้วน ด้วยกำไรก่อนที่จะลวงเงินออกไปจนหมด โดยกลยุทธ์เหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในขอบเขตของสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาใช้ในหลากหลายแผนการฉ้อโกงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอีกด้วย

ในบางกรณี อาชญากรเหล่านี้ก็ได้สรรหาวิธีการพร้อมสร้างสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไปเพื่อล่อลวงเงินจากเหยื่อ โดยเหตุผลที่อ้างมีตั้งแต่ความฉุกเฉินทางการแพทย์ เหตุจำเป็นต้องทำการผ่าตัดด่วน ถูกอาชญากรร้ายลักพาตัว หรือแม้แต่เรื่องเล็กน้อย อย่างการซื้อค่าตั๋วเครื่องบินเพื่อให้ได้มีโอกาสไปพบกันแบบซึ่งหน้า

เอริน ฟราคอลลิ กล่าวว่า “เช่นเดียวกับกลโกงอื่นๆ เหยื่อจะไม่ได้มีโอกาสพบเจอกับคนร้ายหรือคนที่ตนเองคิดว่าเป็นคนรักแบบตัวต่อตัว แต่จะมีโอกาสสานสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือการพูดคุยทางโทรศัพท์เท่านั้น หรือหากอาชญากรบางคนมีเล่ห์เหลี่ยมขึ้นหน่อย ก็อาจจะทำการโทรคุยผ่านวิดีโอกับเหยื่อ แต่วิดีโอดังกล่าวก็มักจะมีระยะเวลาเพียงสั้นๆ และมีคุณภาพที่ต่ำจนมองภาพแทบไม่เห็น”

แนวทางการดำเนินงานของ Binance เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้

Binance มุ่งมั่นที่จะสร้างสภาพแวดล้อมของโลกคริปโตที่ปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้งาน ผ่านการร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลก โดยในปี 2023 Binance มีการรวบรวมทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 70 คน เพื่อดำเนินการประมวลผลคำร้องจำนวน 58,000 รายการ ที่มาจากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายทั่วโลกที่ได้ลงทะเบียนไว้กว่า 13,000 ราย ซึ่งล่าสุด Binance ยังได้ทำงานร่วมกับสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) และกระทรวงยุติธรรม (DOJ) ของสหรัฐอเมริกา ในคดีสำคัญที่เกิดจากการฉ้อโกงแบบ Pig Butchering ที่มีมูลค่าความเสียหายถึง 112 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจากความร่วมมือครั้งนี้ นำไปสู่การจับกุมกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมายและเหล่าอาชญากรได้ในท้ายที่สุด

นอกจากนี้ ทีมงานของ Binance ยังได้มีการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่การแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพื้นฐานของบล็อกเชน และมุมมองทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับ การจับและการยึดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยในปี 2023 ทีมฝึกอบรมการบังคับใช้กฎหมายของ Binance ได้ทำการจัดฝึกอบรมทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์มากถึง 120 ครั้ง ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจของ Binance ที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ และการเตรียมพร้อมรับมือกับการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

สัญญาณเตือนภัยกลโกงการหลอกให้รัก และวิธีป้องกันตนเองไม่ให้ตกหลุมพราง

• แชทได้ แต่ห้ามนอกแอป: เมื่อใช้แอปหาคู่ ให้สื่อสารกับฝ่ายตรงข้ามผ่านบริการส่งข้อความที่อยู่ภายในแพลตฟอร์มเท่านั้น เพราะเหล่าอาชญากรมักจะทำการล่อลวงให้เราไปเลือกใช้ช่องทางการสื่อสารส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ โซเชียลมีเดีย หรือการคุยผ่านโทรศัพท์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับจากระบบที่ทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันหาคู่ได้ทำการติดตั้งไว้
 
• โปรไฟล์ปัง ต้องระวังไว้ก่อน: เหล่าอาชญากรมักจะปกปิดตัวตนที่แท้จริง ด้วยการสร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมา พร้อมนำรูปของคนที่มีลักษณะน่าดึงดูดใจ เพื่อให้สะดุดสายตาตั้งแต่แรกเห็น โดยอาชญากรอาจใช้ AI Deepfake เพื่อสร้างตัวตนปลอม แปลงเสียงพูด หรือแม้กระทั่งปลอมวิดีโอ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลนั้นๆ ให้ละเอียด และต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลต่างๆ เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงในการยืนยันตัวตนของคนในรูปโปรไฟล์เพื่อเสริมความมั่นใจ

• ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม: อย่าเร่งรีบในความสัมพันธ์ และควรตั้งคำถามระหว่างการพูดคุย เพื่อเรียนรู้ตัวตนของฝ่ายตรงข้าม รวมถึงหมั่นคอยสังเกตว่าเรื่องราวที่เขาบอกเล่ามีความสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะหากบุคคลดังกล่าวเป็นอาชญากร เราจะได้จับพิรุธได้อย่างทันท่วงที
 
• คนชอบเท เกเรแน่นอน: หากฝ่ายตรงข้ามเบี้ยวนัดบ่อย พร้อมยกเหตุผลร้อยแปดมาอ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดคุยกันมานานแล้ว ให้ปักธงตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเลย

• สายเปย์ ระวังก่อน: หากคนคุยที่พบทางออนไลน์ และยังไม่เคยเห็นหน้ากัน ทักมาขอความช่วยเหลือทางการเงิน หรือชักชวนเพื่อลงทุน ไม่ว่าจะเป็นทางคริปโต โอนเงินผ่านธนาคาร หรือวิธีการใดก็ตาม ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าเป็นมิจฉาชีพแน่นอน
 
• รวยเร็ว ไม่มีจริง: กลลวงอย่างหนึ่งคือการหลอกให้ลงทุน โดยบอกว่ามีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสูง ซึ่งสิ่งไหนที่ดีเกินจริง มักมีภัยร้ายซ่อนอยู่เสมอ

• รักษาข้อมูลให้มิดชิด: อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน หรือรหัสผ่านให้กับบุคคลอื่นเด็ดขาด ถึงแม้ว่าบุคคลดังกล่าวจะแอบอ้างว่าเป็นตัวแทนจากหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือแค่ไหนก็ตาม พร้อมขอแนะนำให้ทุกคนใช้เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน (Password manager) และทำตามแนวทางด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับทั้งตนเองและคนรอบตัว

แม้ว่าการท่องโลกดิจิทัลเพื่อตามหารักแท้จะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่พึงระลึกไว้เสมอว่าไม่ใช่ทุกคนที่อยู่บนโลกออนไลน์จะเป็นคนดี โดยเราสามารถลดความเสี่ยงของการโดนหลอกให้รัก ได้ด้วยความระมัดระวัง หมั่นสังเกตสัญญาณอันตราย เพียงเท่านี้ก็สามารถปกป้องหัวใจและเงินในกระเป๋าได้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น