xs
xsm
sm
md
lg

SJWD ทุ่ม 2.47 พันล้าน ปิด 2 ดีลขยายธุรกิจโลจิสติกส์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์” ทุ่ม 2,470 ล้านบาทปิด 2 ดีลขยายฐานธุรกิจโลจิสติกส์ เข้าซื้อหุ้น Swift ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรรายใหญ่ในมาเลเซีย 20.44% เพื่อเพิ่มศักยภาพให้บริการขนส่งสินค้าข้ามแดน เตรียมต่อยอดผสานความร่วมมือขยายธุรกิจ พร้อมเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นใน ANI จาก 8% เป็น 20.12% คาดรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากทั้ง 2 บริษัทในปีนี้รวม 240 ล้านบาท

นายบรรณ เกษมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมบมจ.เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ (SJWD) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการลงทุน 2 โครงการ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 2,470 ล้านบาท นับเป็นก้าวสำคัญของการเข้าลงทุนธุรกิจโลจิสติกส์ในมาเลเซียและขยายฐานธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ (Air Freight) เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการโลจิสติกส์และซัปพลายเชนแบบครบวงจรในระดับภูมิภาคให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตลอดจนผสานความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์นำความเชี่ยวชาญร่วมมือขยายธุรกิจ

สำหรับการลงทุนทั้ง 2 โครงการ คือ 1. การเข้าซื้อหุ้น 20.44% ในบริษัท Swift Haulage Berhad หรือ SWIFT (สวิฟท์) คิดเป็นวงเงินประมาณ 850 ล้านบาท ซึ่ง SWIFT เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซีย โดย SWIFT ดำเนินธุรกิจโลจิสติกต์มากว่า 10 ปี มีความเชี่ยวชาญการขนส่งทางรถ เช่น การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งสินค้าในประเทศ ขนส่งสินค้าข้ามแดน ขนส่งสินค้า-เคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย เป็นต้น มีการขยายธุรกิจคลังสินค้า รวมถึงเป็นตัวแทนผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้า (Frieght Forwarder) โดยมีรายได้ในปี 2565 ประมาณ 4,825 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 369 ล้านบาท

2. เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน บมจ.เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI) จาก 8% เป็นประมาณ 20.12% ใช้เงินลงทุนราว 1,620 ล้านบาท ซึ่ง ANI เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ 1 ใน 3 ของเอเชียในธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าแก่สายการบินต่างๆ (General Sales Agent หรือ GSA) กว่า 20 สายการบิน ครอบคลุมเส้นทาง 8 ประเทศ เช่น ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม เป็นต้น โดยมีรายได้ในปี 65 ที่ 6,029 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,093 ล้านบาท และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเดือน ธ.ค. 66

แหล่งเงินทุนสำหรับ 2 โครงการจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจ เงินกู้ยืมและการเสนอขายหุ้นกู้ คาดว่าจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากทั้ง 2 บริษัทภายในไตรมาส 1/2567 เป็นต้นไป รวมประมาณ 240 ล้านบาทในปีนี้

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม SJWD กล่าวว่า การเข้าถือหุ้นใน SWIFT เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายฐานธุรกิจโลจิสติกส์และซัปพลายเชนให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นการเพิ่มเครือข่ายการให้บริการในมาเลเซียรวมถึงสิงคโปร์ ทำให้ SJWD มีเครือข่ายการให้บริการครบทุกประเทศในอาเซียนรวมถึงจีนตอนใต้ โดยจะผสานความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งสินค้าข้ามแดนจากประเทศจีน มายังไทย มาเลเซียและสิงคโปร์ เพิ่มรายได้จากการขยายสินค้าที่ให้บริการขนส่งข้ามแดน อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภค, อาหารแช่แข็ง, ยางพารา ฯลฯ สนับสนุนการให้บริการคลังสินค้าและโลจิสติกส์ในประเทศไทยแก่ SWIFT ตลอดจนแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจในรูปแบบพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) เพื่อร่วมกันขยายธุรกิจในประเทศมาเลเซียที่มีศักยภาพเติบโต เช่น คลังสินค้าห้องเย็น, คลังสินค้าอันตราย, บริการรับฝากและบริหารยานยนต์ เป็นต้น โดยคาดว่าภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ในมาเลเซียจะเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 8%

ส่วนการเพิ่มสัดส่วนลงทุนใน ANI จะทำให้บริษัทฯ ขยายพอร์ตธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มศักยภาพการบริหารต้นทุน มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศอย่างครบวงจร ทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ โดยบริษัทฯ สามารถเพิ่มรายได้จากการขยายบริการดังกล่าวแก่ลูกค้าของบริษัทฯ โดยเฉพาะประเทศมาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม และจีน รวมถึงนำเสนอบริการโลจิสติกส์และซัปพลายเชนต่างๆ ของบริษัทฯ แก่ลูกค้าของ ANI สอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจบริการตัวแทนขายระวางสินค้าแก่สายการบินต่างๆ มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% นับจากปี 2565-70 เนื่องจากสายการบินต่างๆ มีแนวโน้มจัดหาบริษัทภายนอกเพื่อให้บริการดังกล่าวมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของ ANI และการเพิ่มสัดส่วนลงทุนของบริษัทฯ ครั้งนี้

"บริษัทฯ ได้เดินหน้าแผนลงทุนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องหลังจากที่รวมกิจการแล้วเสร็จ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์และซัปพลายเชนแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ด้วยการขยายเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเพิ่มมาร์เก็ตแคปเป็น 100,000 ล้านบาทภายในปี 2570 และเพิ่มอัตรากำไรสุทธิเป็น 15%" นายชวนินทร์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น