xs
xsm
sm
md
lg

สุดสายป่าน!!วอลโว่ปล่อยโพลสตาร์ ตอกย้ำวัฏจักรรถไฟฟ้า“ใครดีใครอยู่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


สถานการณ์ของโพลสตาร์สะท้อนความเป็นไปในอุตสาหกรรมอีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตาร์ทอัพและผู้เล่นขนาดเล็กได้เป็นอย่างดี
การที่จีลี่ของจีนประกาศเข้าอุ้มโพลสตาร์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ประสบปัญหาแทนวอลโว่ คาร์ คือกรณีการควบรวมกิจการล่าสุดในหมู่แบรนด์อีวี นับตั้งแต่ที่เทสลาประสบความสำเร็จทางการเงินครั้งสำคัญเมื่อต้นทศวรรษ 2020

เทสลาอาศัยเงินทุนต้นทุนต่ำ การปฏิวัติเทคโนโลยี และคาแรกเตอร์โดดเด่นของอีลอน มัสก์ ดันตัวเองขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ครั้งแรกเมื่อ 3 ปีที่แล้ว หลังจากหมดเงินไปมโหฬารตลอดช่วงหลายปีก่อนหน้านั้น

ปัจจุบัน บริษัทรถดั้งเดิม สตาร์ทอัพ และนักลงทุน ที่เดิมพันกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์กับธุรกิจอีวีกำลังเผชิญการตัดสินใจที่ยากลำบากในการตัดขาดทุน

ทั้งนี้ จีลี่ถือหุ้นใหญ่ในวอลโว่ที่ร่วมลงทุนในโพลสตาร์และพัฒนาเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าหรูในเครือ

การต่อสู้ดิ้นรนของโพลสตาร์และบริษัทอีวีขนาดเล็กแห่งอื่นๆ ตอกย้ำค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องการความยินยอมพร้อมใจและความสามารถในการรองรับการสูญเงินมหาศาลในระยะเวลายาวนานแบบที่บริษัททุนหนาเท่านั้นที่สามารถทำได้ และดีมานด์อีวีที่ชะลอตัวในขณะนี้อาจทำให้ผู้เล่นที่อ่อนแอต้องยอมแพ้ไปเองหรือนำไปสู่กระแสการควบรวมกิจการ

แอนดี้ เลย์แลนด์ ผู้ร่วมก่อตั้งเอสซี อินไซต์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทาน ชี้ว่า ตอนนี้แวดวงอีวีถึงช่วงเวลาที่เรียกว่า ใครดีใครอยู่ โดยกลุ่มสตาร์ทอัพต้องเริ่มโชว์ผลงานว่า จะทำกำไรได้อย่างไร และจะต่อกรกับผู้เล่นขนาดใหญ่และบริษัทอีวีจีนอย่างไร

การตัดสินใจของวอลโว่ในการระงับการลงทุนในโพลสตาร์เกิดขึ้นหลังจากที่แบรนด์อีวีหรูแห่งนี้ขาดทุนและทำยอดขายพลาดเป้าในปีที่ผ่านมา

โพลสตาร์ต้องการเงินทุนอีก 1,300 ล้านดอลลาร์ก่อนถึงจุดคุ้มทุนในปีหน้า ทว่า นับจากเปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2022 ราคาหุ้นของบริษัทดิ่งลงถึง 87% และกลายเป็นอุปสรรคจำกัดความสามารถในการระดมทุนเพิ่ม

ส่วนจีลี่ที่เป็นหนึ่งในค่ายรถใหญ่ที่สุดของจีน ขายรถได้เกือบ 2.8 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว หรือเกือบ 4 เท่าของยอดขายวอลโว่

หลี่ ฝู ประธานจีลี่ มีเป้าหมายในการขยายการส่งออกจากจีนและประหยัดจากขนาดจากแบรนด์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงแบรนด์ตะวันตกอย่างวอลโว่ สมาร์ท และโลตัส นักวิเคราะห์มองว่า การเข้าควบคุมโพลสตาร์แบบเบ็ดเสร็จจะทำให้จีลี่สามารถปรับปรุงการลงทุนและการแบ่งปันเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

จีลี่ประกาศเมื่อวันพฤหัสฯ (1 ก.พ.) ว่า จะยังคงให้การสนับสนุนด้านการดำเนินงานและการเงินอย่างเต็มที่เพื่อให้โพลสตาร์ก้าวต่อไป รวมทั้งจะไม่ลดการถือหุ้นในวอลโว่ คาร์

ทั้งนี้ สตาร์ทอัพอีวีอื่นๆ ซึ่งรวมถึงริเวียน ฟิสเกอร์ อาร์ไรวัล เสี่ยวเผิง และลูซิด ต่างต้องต่อสู้เพื่อการปรับขยายธุรกิจ ตัวอย่างเช่น เดือนที่ผ่านมา ฟิสเกอร์เจรจาเงื่อนไขข้อตกลงเงินกู้ใหม่เพื่อให้บริษัทสามารถหาหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ได้

แม้แต่ผู้นำวงการอย่างเทสลายังต้องฝ่าฟันกับสิ่งที่มัสก์เรียกว่า “นรกแห่งการผลิต” แต่นั่นคือในปี 2018 ที่ต้นทุนการกู้ยืมยังถูก ขณะที่นักลงทุนมีความอดทนมากกว่าตอนนี้ และดูเหมือนอีวีเป็นที่ต้องการไม่จำกัด

แต่ปัจจุบันความกระตือรือร้นต่ออีวีของตลาดทุนเริ่มซาลง ขณะที่การเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าชะลอตัวและยอดขาดทุนสะสมก้อนใหญ่ขึ้น ส่งผลให้รันเวย์ของสตาร์ทอัพที่ขาดทุนหดสั้นลง และบริษัทรถยนต์ดั้งเดิมต้องขอการสนับสนุนจากภาครัฐ

สงครามราคาอีวีเดือด
สัปดาห์ที่แล้วมัสก์เตือนว่า จังหวะการเติบโตของเทสลาในปีนี้จะช้าลง ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทหายวับ 80,000 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว และมูลค่าตลาดของเทสลาลดลงกว่า 40% นับจากที่พุ่งแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2021

สงครามราคาที่โหมกระพือโดยเทสลาและบีวายดี ผู้นำยอดขายอีวีสัญชาติจีน ในปีที่ผ่านมาบีบให้ผู้เล่นที่อ่อนแอกว่าต้องเลือกระหว่างขาดทุนหนักขึ้นหรือลดยอดขาย

ฤดูร้อนที่แล้ว ฟอร์ด มอเตอร์ของอเมริกาเร่งการผลิตกระบะไฟฟ้า เอฟ-150 ไลต์นิง เนื่องจากคาดว่า มีความต้องการล้นหลาม แต่กลายเป็นว่าบริษัทต้องกลับลำลดการผลิตลงครึ่งหนึ่งเมื่อเดือนมกราคม

ที่ยุโรป สเตลแลนทิสเผยว่า ต้องการการอุดหนุนจากรัฐบาลอิตาลีเพิ่มเพื่อเพิ่มการผลิตอีวีในโรงงานเฟียต โดยเมื่อวันพฤหัสฯ เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของอิตาลีแย้มว่า รัฐบาลอาจพิจารณาถือหุ้นในเฟียตเพื่อกระตุ้นการจ้างงาน

ขณะที่อุตสาหกรรมอีวีกลายเป็นอุตสาหกรรมแบบใครดีใครอยู่มากขึ้น นักลงทุนเลือกตกรางวัลให้กับบริษัทที่ตัดสินใจยุติการใช้จ่ายที่ไม่เกิดประโยชน์

ราคาหุ้นวอลโว่พุ่งกระฉุดกว่า 30% เมื่อวันพฤหัสฯ หลังประกาศว่า จะไม่อัดฉีดเงินให้โพลสตาร์อีกต่อไป นักลงทุนยังตื่นเต้นยินดีตอนที่เรโนลต์เผยว่า จะล้มเลิกแผนเข้าเทกโอเวอร์แอมแปร์ อีวีของอเมริกา ด้วยการเสนอจ่ายเป็นหุ้น

ราคาหุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) บวกเกือบ 50% เมื่อเดือนพฤศจิกายน หลังจากแมรี บาร์รา ซีอีโอ สั่งชะลอการลงทุนในอีวีและรถอัตโนมัติ และเริ่มการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์

อดัม โจนส์ นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ ชี้ว่า จีเอ็มตระหนักว่า การใช้เงินวันละ 36 ล้านดอลลาร์เพื่อพยายามจะเป็น “เทสลารายต่อไป” ไม่เวิร์ก

อย่างไรก็ตาม กระแสควบรวมกิจการไม่ใช่เรื่องใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้เงินทุนมหาศาล

ต้นศตวรรษที่ 20 ผู้ประกอบการมากมายในอเมริกาและยุโรปพยายามแสวงหาผลประโยชน์จากอนาคตสดใสของเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปซึ่งยังเป็นของใหม่ในขณะนั้น แต่ผู้ก่อตั้งบริษัทหลายสิบแห่งกลับล้มเหลวหรือถูกคู่แข่งที่ใหญ่กว่าและทุนหนากว่าฮุบกิจการ ทั้งจีเอ็ม สเตลแลนทิส และโฟล์คสวาเกน ล้วนแล้วสร้างขึ้นบนซากโครงของสิ่งที่เคยเป็นบริษัทรถอิสระมาก่อน

บิลล์ รัสโซ ซีอีโอบริษัทที่ปรึกษาออโตโมบิลิตี้ในเซี่ยงไฮ้ ชี้ว่า การนำโพลสตาร์เข้าสู่วงโคจรของจีลี่โดยตรงเป็นตัวอย่างทางออกหนึ่งของสตาร์ทอัพอีวีที่พยายามดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด
กำลังโหลดความคิดเห็น