xs
xsm
sm
md
lg

(รับชมคลิป) 10 หุ้นชั้นนำสุดติ่ง แค่เดือนแรกปี 67 พาติดดอยบางตัวลบแล้วกว่า 20%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ตลาดหุ้นไทยผ่าน 1 เดือนแรกของปี 2567 ไปแล้ว แม้ว่าวันศุกร์ที่ 2 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมาดัชนี SET จะปิดบวก +16.12 จุด ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,384.08 จุด แต่เมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปี 2566 SET ปิดที่ 1,415.85 จุด ทำให้ในปัจจุบัน SET ในปี 2567 ยังคงลดลง 31.77 จุด หรือ -2.24% และถ้าไปดูที่ ดัชนี SET100 ที่ถือเป็นที่นิยมของนักลงทุนอย่างมาก จะพบหุ้นที่มีผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปีติดลบหลายหลักทรัพย์แล้ว โดย 10 อันดับที่ติดลบมากที่สุดได้แก่

1.FORTH บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -24.35% (สิ้นปี 2566 ปิด 23.00 บาท ล่าสุด ณ 2 ก.พ.67 ปิด 17.40 บาท ลดลง 5.60บาท), ย้อนหลัง 1 ปี คือ -61.12% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 3.04%, ปี 66 คือ 2.26%, ปี 65 คือ 1.40% , ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 46.25 / 17.00 บาท , มาร์เก็ตแคป 16,275.52 ล้านบาท, ค่าP/E 22.64 เท่า, นาย พงษ์ชัย อมตานนท์ ถือใหญ่สุด 38.99% ,มีคนดัง น.ส.วิอร ทองแตง (ลูกสาว วิชัย ทองแตง อดีตทนายคู่ใจทักษิณ) ถืออันดับ 10 ถือ 1.85%

ผู้บริหารเผยว่า ขณะนี้ภาครัฐเริ่มเดินหน้าโครงการลงทุน หลังจากชะลอการลงทุนมากว่า 2 ปีทำให้ปี 67 จะเป็นโอกาสของบริษัทที่จะได้รับงานใหม่เพิ่มขึ้น ด้วยความชำนาญให้บริการงานโซลูชั่น อินทริเกรเตด ด้านโทรคมนาคมและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในปี 67 เติบโตมากกว่าปี 66

2.KCE บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -19.55% (สิ้นปี 2566 ปิด 55.00 บาท ล่าสุด ณ 2 ก.พ.67 ปิด 44.25 บาท ลดลง 10.75บาท), ย้อนหลัง 1 ปี คือ -22.03% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 3.64%,ปี 66 คือ 2.91%, ปี 65 คือ 3.44% , ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 58.50 / 35.50 บาท , มาร์เก็ตแคป  52,307.42 ล้านบาท, ค่า P/E 29.87เท่า, นายพิธาน องค์โฆษิต ถือใหญ่สุด 13.94%

บล.กรุงศรี มองว่าภาวะโดยรวมของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะชบเซาในระยะสั้น ในขณะที่ภาพในระยะกลางยังต้องรอดูความชัดเจนต่อไป ทั้งนี้ ตัวเลขการส่งออกเดือนธันวาคมช่วยยืนยันมุมมองที่คาดว่าการโมเมนตัมการฟื้นตัวของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2024 จะเป็นแบบ U-shape

3.CRC บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -19.51% (สิ้นปี 2566 ปิด 41.00 บาท ล่าสุด ณ 2 ก.พ.67 ปิด 33.00 บาท ลดลง 8.00 บาท), ย้อนหลัง 1 ปี คือ -25.42%, อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 1.47%,ปี 66 คือ 1.17%, ปี 65 คือ 0.65% , ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 47.50 / 32.25บาท , มาร์เก็ตแคป 199,023.00 ล้านบาท, ค่า P/E 24.12 เท่า, บริษัท ห้างเซ็นทรัล ดีพาทเมนท์สโตร์ จำกัด ถือใหญ่สุด 35.06% ,สำนักงานประกันสังคม ถืออันดับ 8 ถือ 1.09%

โบรกฯมองราคาที่ปรับตัวลงจากข่าวกลุ่มเซ็นทรัล ยืนยันพร้อมให้การสนับสนุนทางการเงินกับกลุ่ม KaDeWe ระหว่างกระบวนการฟื้นฟูกิจการขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ 4/66 ของ CRC คาดยังเติบโต QoQ แต่ชะลอตัวลง YoY เพราะถูกกดดันจาก SSSG ทั้งในไทยและเวียดนามที่ชะลอตัวลง

4.BTS บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -19.31% (สิ้นปี2566 ปิด 7.25 บาท ล่าสุด ณ 2 ก.พ.67 ปิด 5.85 บาท ลดลง 1.40 บาท), ย้อนหลัง 1 ปี คือ -30.77%,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 5.25%,ปี 66 คือ 4.28%, ปี 65 คือ 3.69%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 8.50 / 5.40 บาท , มาร์เก็ตแคป 77,030.69 ล้านบาท, ค่าP/E 249.78 เท่า,นายคีรี กาญจนพาสน์ ถือใหญ่สุด 21.02% ,สำนักงานประกันสังคม ถืออันดับ 5 ถือ 3.18%

โบรกฯ คาดผลงานไตรมาส 3 ปี 66/67 เผชิญปัจจัยกดดันจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองขาดทุนมากกว่าปกติ หลังผู้โดยสารลดลงมากกว่าคาด มีโอกาสตั้งด้อยค่าจากการลงทุนใน KEX-SINGER

5.AMATA บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -19.25% (สิ้นปี 2566 ปิด 26.75 บาท ล่าสุด ณ 2 ก.พ.67 ปิด 21.60 บาท ลดลง 5.15บาท), ย้อนหลัง 1 ปี คือ +5.88% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 2.84%,ปี 66 คือ 2.24%, ปี 65 คือ 1.88% ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 27.25 / 19.60 บาท , มาร์เก็ตแคป 24,840.00 ล้านบาท, ค่า P/E 12.21 เท่า, นายวิกรม กรมดิษฐ์ ถือใหญ่สุด 26.23% ,มีคนดัง พล.ต.อ.ชวลิต ยอดมณี (อดีตเลขาธิการ ป.ป.ส.) ถืออันดับ 9 ถือ 1.09%

บล.กรุงศรี ระบุ AMATA มี Backlog จำนวนมากถึง 1.4 หมื่น ลบ.สิ้นปี 2023 (1.22 หมื่นลบ.ในไทยทีจะโอนในปีนีและปีหน้า และ 1.8 พันลบ.ในเวียดนามที่จะโอนในปี 2026)

6.VGI บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -18.65% (สิ้นปี 2566 ปิด 1.93 บาท ล่าสุด ณ 2 ก.พ.67 ปิด 1.57 บาท ลดลง 0.36 บาท), ย้อนหลัง 1 ปีคือ -68.60%, อัตราเงินปันผลตอบแทน YTDปี 67 คือ 5.10%,ปี 66 คือ 4.15 %, ปี 65 คือ 0.80% , ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 5.10 / 1.54 บาท , มาร์เก็ตแคป 17,575.40 ล้านบาท, ค่าP/E -เท่า, บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 31.30%

นักวิเคราะห์หลายแห่ง ประเมินว่า การตั้งสำรองการด้อยค่าเงินลงทุน KEX อาจดีต่อ VGI ระยะยาว เนื่องจากจะเป็นการรับรู้ทีเดียวและไม่ได้เป็นรายการเงินสด นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งจะต้องทำคำเสนอซื้อทั้งหมดของกิจการและหาก VGI จะตัดสินใจออกจากการลงทุนนี้โดยการขายหุ้นในการทำคำเสนอซื้อดังกล่าว จะทำให้ VGI ได้รับเงินสดเข้ามา

7.JMT บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -16.86% (สิ้นปี 2566 ปิด 25.50 บาท ล่าสุด ณ 2 ก.พ.67 ปิด 21.20 บาท ลดลง 4.30 บาท), ย้อนหลัง 1 ปี คือ -60.56% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 5.32%,ปี 66 คือ 4.23%, ปี 65 คือ 1.04% ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ52สัปดาห์คือ 55.25 / 20.30บาท , มาร์เก็ตแคป 30,946.48 ล้านบาท, ค่าP/E 15.12เท่า, บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 53.85% ,มีคนดัง ด.ร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา(เซียนVI) และลูกสาวถือในลำดับ 5 และ 9

โบรก คาดไตรมาส 4/66 กำไร 534 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 15% เมื่อเทียบไตรมาสที่ผ่านมา คาดการณ์จำนวนการเก็บเงินสดในไตรมาสนี้อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

8.DOHOME บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -14.17% (สิ้นปี 2566 ปิด 12.70 บาท ล่าสุด ณ 2 ก.พ.67 ปิด 10.90 บาท ลดลง 1.80 บาท), ย้อนหลัง 1 ปี คือ -15.47%, อัตราเงินปันผลตอบแทน YTD ปี 67 คือ 0.06%,ปี 66 คือ 0.05%, ปี 65 คือ 0.13% ,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 15.15 / 8.60 บาท , มาร์เก็ตแคป 33,671.54 ล้านบาท, ค่า P/E 99.86 เท่า, บริษัท ดูโฮมโฮลดิ้ง จำกัด ถือใหญ่สุด 28.18%

บล.พายคาดผลประกอบการไตรมาส 4/66 กลับมามีกำไร 129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากไตรมาสก่อนหน้า จากขาดทุน 51 ล้านบาทในไตรมาส 4/65 ผลจากอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งสามารถชดเชยผลกระทบจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ -9% จากการบริโภคที่ชะลอตัวลง

9.JMART บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -13.87% (สิ้นปี 2566 ปิด 17.30 บาท ล่าสุด ณ 2 ก.พ.67 ปิด 14.90 บาท ลดลง 2.40 บาท), ย้อนหลัง 1 ปี คือ -60.27% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTDปี 67 คือ 7.68%,ปี 66 คือ 6.39%, ปี 65 คือ 3.55%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 38.25 / 13.10 บาท , มาร์เก็ตแคป 21,718.61 ล้านบาท, ค่าP/E -เท่า, บริษัท วี จี ไอ จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 13.66% ,มีนาย พีรนาถ โชควัฒนา(เซียนหุ้นคนดัง) ถืออันดับ 9 ถือ1.95%

บล.พาย กล่าวว่า การปรับตัวลงJMTมาจากความกังวลคุณภาพลูกหนี้ และความสามารถชำระหนี้ ทำให้นักลงทุนกังวลส่งผลไปถึง JMART ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ JMT เพราะหากผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย JMART ก็จะรับผลกระทบด้วย ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงตามไปด้วย

10.RBF บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) ผลตอบแทนราคาตั้งแต่ต้นปี คือ -13.69% (สิ้นปี 2566 ปิด 14.60 บาท ล่าสุด ณ 2 ก.พ.67 ปิด 12.60 บาท ลดลง 2.00 บาท), ย้อนหลัง 1 ปี คือ -2.33% ,อัตราเงินปันผลตอบแทน YTDปี 67 คือ 0.81%,ปี 66 คือ 0.68%, ปี 65 คือ 1.16%,ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์คือ 14.60 / 8.95 บาท , มาร์เก็ตแคป 25,200.00 ล้านบาท, ค่า P/E 41.10 เท่า, นาง เพ็ชรา รัตนภูมิภิญโญ ถือใหญ่สุด 23.07% ,นายพะเนียง พงษธา (เซียนหุ้น) ถืออันดับ 9 ถือ 0.73%

โบรคฯคาดกำไรของหุ้น RBF จะกลับมาฟื้นตัวในไตรมาส 1/67 จากคำสั่งซื้อที่ถูกเลื่อนมาส่วนหนึ่ง และด้วยปัจจัยฤดูกาลอีกส่วนหนึ่ง โดยคาดว่าลูกค้ากลุ่มอาหารเครื่องดื่มในประเทศจะมีการวางแผนออกสินค้าใหม่มากขึ้น และคาดการณ์ว่าธุรกิจต่างประเทศจะเติบโตได้ต่อเนื่องทั้ง จีน อินเดีย และอินโดนีเซียกลับมาฟื้น

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยเพิ่งผ่านพ้นไปได้แค่เดือนเศษๆ ต้องติดตามต่อเนื่องว่าจะมีปัจจัยบวกใด้บ้างที่จะมีช่วยกระตุ้นให้ SET คึกคักมากยิ่งขึ้น!


กำลังโหลดความคิดเห็น