xs
xsm
sm
md
lg

Puma Coffee กาแฟคนกล้า แชมป์โรบัสต้าไทยปี 66 ติด 1 ใน 5 กาแฟโรบัสต้าที่ดีที่สุดในโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ชื่อของ กาแฟภูมิมา Puma Coffee ได้ถูกบันทึกไว้ในทำเนียบกาแฟโลก หลังจากได้คว้ารางวัลกาแฟโรบัสต้าที่ดีที่สุดในประเทศไทยและ ติด 1 ใน 5 ของกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า ที่ดีที่สุดในโลก เป็นผลงานอันยอดเยี่ยมของผู้หญิงเก่ง “ สุภาพร พุ่มนิล” ที่คอยบ่มเพาะดูแลกาแฟทุกเมล็ดของเธอจนได้เป็นกาแฟที่ยอดเยี่ยมออกมาอวดชาวโลก เพื่อการันตรีว่าไทยเป็นสุดยอดด้านกาแฟโรบัสต้าไม่แพ้ชาติใดๆ ต่างชาติยอมควักกระเป๋าเดินทางมาชิมถึงที่ชุมพร


แชมป์ประกวดกาแฟโรบัสต้า ปี 66

สุภาพร พุ่มนิล เจ้าของกาแฟแบรนด์ "กาแฟภูมิมา” ( Puma Coffee) จังหวัดชุมพร เล่าอย่างภาคภูมิใจถึงความสำเร็จของกาฟภูมิมา ว่า ตนเองได้เข้ามาทำกาแฟ เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา โดยความตั้งใจแรก คือ ต้องการจะทำกาแฟโรบัสต้าที่ดีที่สุด และวันนี้ สานฝันได้สำเร็จสามารถทำได้ตามที่ตั้งใจไว้ หลังจากที่ได้ส่งกาแฟโรบัสต้าของตนเองเข้าประกวด CQI (Coffee Quality Institute) ประจำปี 2566 และได้คว้าตำแหน่งแชมป์ กาแฟโรบัสต้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย และ ยังได้เป็นกาแฟโรบัสต้าที่ดีที่สุดติดใน 1 ใน 5 ของโลกด้วย ซึ่งการจัดประกวดสถาบัน CQI เป็นการประกวดกาแฟที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ส่วนการประกวดที่ประเทศไทย มีการจัดประกวดมาต่อเนื่องทุกปี เพื่อส่งไปคัดเลือกระดับโลก


โดยตนเองได้ส่งกาแฟโรบัสต้าของ “ภูมิมา” เข้าประกวดต่อเนื่องทุกปี และปีนี้เป็นปีแรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ได้คะแนนสูงสุดจากนักชิมด้วยคะแนน 85.0 ซึ่งสามารถล้มแชมป์ที่ได้ติดกันมาหลายสมัยได้ โดยเกณฑ์การตัดสินที่คณะกรรมการคัดเลือกนอกเหนือจากรสชาติกาแฟแล้ว กาแฟเข้าประกวดจะต้องมาจากแหล่งปลูกแบบปลอดภัยไม่มีสารตกค้าง และ ไม่กระทบสิ่งแวดล้อมด้วย


ที่มา.. กาแฟโรบัสต้าได้แชมป์

สุภาพร (ปุ้ย) เล่าถึงที่มาของกาแฟโรบัสต้าที่ชนะการประกวดในครั้งนี้ ว่า ตนเองได้คัดเลือกเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่ปลูกอยู่ในกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรเข้าร่วมกับกาแฟภูมิมาพัฒนาและยกระดับกาแฟโรบัสต้าในพื้นที่จำนวน 200-300 ไร่ จังหวัดชุมพร ที่ปลูกกาแฟแบบเกษตรปลอดภัย ผ่านการดูแลตามหลักภูมิปัญญาที่ตกทอดมาหลายปี ผสานกับ ศาสตร์การปลูกสมัยใหม่ แบบร่วมสมัย จนได้เมล็ดกาแฟคุณภาพ

ทั้งนี้ กว่าจะมาถึงวันนี้ “เจ้าของกาแฟภูมิมา” บอกว่า เธอต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อบ่มเพาะดูแลเมล็ดกาแฟของตนเองให้ออกมาให้ได้มาตรฐานตามที่คณะกรรมการกำหนด และสามารถชนะใจกรรมการจนสามารถขึ้นมาเป็นแชมป์ได้ ซึ่งแชมป์เก่ามีดีกรีไม่ธรรมดา ชนะการประกวดมาทุกเวที และเป็นกาแฟโรบัสต้าที่คนทั่วโลก ยอมลงทุนบินมาเพื่อมากินกาแฟที่ร้านของเค้าในราคาแก้วละหลักพันบาท ที่สำคัญกว่านั้น ยังสามารถตั้งราคาเมล็ดกาแฟสูงสุดถึง กิโลกรัมละ10,000 บาทไปจนถึง 50,000 บาท


สำหรับในส่วนของแชมป์ใหม่ อย่างกาแฟภูมิมา ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน เพราะราคาอยู่ในระดับที่ไม่ใช่คอกาแฟจริงก็คงจะไม่กล้าควักเงินขนาดนี้เพื่อซื้ออย่างแน่นอน โดยราคากาแฟของภูมิมาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 7,000 บาท ส่วนกาแฟที่อยู่ในเกรดรองลงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 3,000 บาท ส่วนนักดื่มที่มาชิมถึงที่ เธอคิดราคากาแฟอยู่ที่แก้วละ 500 บาท ที่ราคา ค่อนข้างสูง เพราะกาแฟที่พิเศษแบบนี้ ในแต่ละปีมีไม่ได้เยอะ เหมาะกับคนที่รักอรรถรสการดื่มกาแฟจริงถึงยอมลงทุน ซึ่งต้องการันตรีมาด้วยรางวัลที่ได้รับ


ต่างชาติบินมาถึงที่ ดื่มกาแฟไทยแก้วละ 500 บาท

สำหรับลูกค้าที่ต้องการจะไปดื่มกาแฟที่ชงสดภายในร้านภูมิมาคอฟฟี่ ที่จังหวัดชุมพร อาจจะต้องจองกันเข้ามาก่อน เพราะไม่ได้เปิดหน้าร้าน สาเหตุที่คุณปุ้ยเธอไม่ได้เปิดร้านเพราะอยากได้คนมากินยอมรับในคุณภาพของกาแฟและพร้อมที่จะจ่าย และที่สำคัญคนที่มากินกาแฟไม่ได้แค่ลิ้มรสชาติกาแฟเท่านั้น ส่วนหนึ่งต้องการจะเรียนรู้การทำกาแฟคุณภาพด้วย ว่า ทางภูมิมาคอฟฟี่มีวิธีการทำกาแฟอย่างไร ถึงได้กาแฟที่รสชาติดี ถึงได้กาแฟคุณภาพระดับโลก ปัจจุบันไม่เฉพาะคนไทยที่เข้าติดต่อเข้ามาชิมกาแฟของภูมิมา แต่ยังมีนักดื่มจากต่างประเทศ ที่จองเข้ามาเพื่อสัมผัสกับรสชาติกาแฟคุณภาพระดับแชมป์


สุภาพร เล่าถึงความสำเร็จในวันนี้ ว่า พอมาถึงวันนี้ ตนเองได้เดินตามฝันที่วาดไว้ตั้งแต่เริ่มเข้าวงการกาแฟเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ต้องการจะผลิตกาแฟโรบัสต้าที่ดีที่สุด เพื่อให้นักดื่มกาแฟทั่วโลกได้รู้จักแหล่งผลิตกาแฟโรบัสต้าจากเมืองชุมพร ประเทศไทย เพราะสายพันธุ์โรบัสต้าที่ปลูกในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดชุมพร เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษตกทอดมาช้านานและเป็นที่มาของชื่อ กาแฟภูมิมา มาจากภูมิแรก คือ ภูมิปัญญา ส่วนภูมิที่สอง คือ ภูมิประเทศที่เหมาะสม และภูมิที่สาม คือ ภูมิความรู้ ศาสตร์แขนงวิชาด้านการเกษตร ที่นำมาต่อยอดกับภูมิปัญญาดั้งเดิม จนได้เมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่มีคุณภาพที่พร้อมจะอวดชาวโลกนักดื่มทั้งหลายให้ปักหมุดเลือกมาประเทศไทย เพื่อดื่มกาแฟรสชาติดีดี จากไร่กาแฟของเรา วาดฝันว่าอยากจะให้กาแฟโรบัสต้าชุมพรเป็นซอฟพาวเวอร์ในอนาคต

อย่างไรก็ดี กว่าจะมาถึงวันนี้ เธอต้องรวบรวมความกล้าอย่างมาก เพราะไม่ใช่ง่าย ในระหว่างทาง 4 ปี ของการเดินทางมีอุปสรรคมากมาย แต่ไม่ได้ทำให้ เธอคนนี้ ยอมถอดใจแต่อย่างใด ซึ่งเป้าหมายไม่ใช่แค่การชนะในเวทีการแข่งขันและขึ้นแชมป์เท่านั้น เพราะเธอเดิมพันด้วย เครือข่ายเกษตรกรที่ตั้งความหวังว่าเธอจะนำพาให้ชีวิตเกษตรกรปลูกกาแฟได้ขายในราคาที่ดีขึ้น ทำให้มีรายได้มากขึ้นกว่าในปัจจุบัน


ครอบครัวคนปลูกกาแฟ
สานฝันดันกาแฟไทยทั่วโลกรู้จัก

สำหรับที่มาของ “สุภาพร” ก่อนจะมาเป็นเจ้าของ ภูมิมาคอฟฟี่ ได้ลาออกจากงานประจำ ในช่วงโควิดพอดี ได้กลับมาอยู่บ้าน โดยเธอตั้งใจว่า จะมาเปลี่ยนแปลงกาแฟชุมพรให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งครอบครัวของเธอมีการปลูกกาแฟมาตั้งแต่ก่อนรุ่นปู่ ย่า ตาทวด ตกทอดมาถึงรุ่นคุณพ่อ ก่อนจะมาถึงในรุ่นของตนเองนับร้อยปี พื้นที่โดยรอบบ้านของเธอมีการปลูกกาแฟแทบจะทุกบ้าน แม้ว่าจะได้ปลูกเป็นอาชีพ แต่มีปลูกไว้กินภายในครอบครัว ซึ่งในช่วงหลังคนที่ปลูกกาแฟเป็นอาชีพเลิกและหันไปปลูกพืชอื่นกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน หรือ ปาล์ม แต่กาแฟก็ยังแทรกอยู่ในสวนเหล่านั้น


ทุกอย่างมาถึงวันนี้ได้เพราะความกล้า จนได้ฉายาว่า กาแฟของเกษตรกรคนกล้า กล้าที่จะทำ กล้าที่จะเปลี่ยนความคิดแบบเดิมของเกษตรกร แต่เป้าหมายไม่ได้ต้องการจะไปแข่งขันกับเกษตรกรแต่ต้องการจะทำให้เห็นว่า สิ่งที่เรากล้าจะช่วย เปลี่ยนแปลงและยกระดับชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ให้ดีขึ้น โดยการเริ่มต้นผลิตกาแฟตามแนวความคิด "เริ่มต้นจากสิ่งที่เรามี และเริ่มต้นจากสิ่งที่เพื่อนมี" ผสมผสานวิถีและนวัตกรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว จนพัฒนามาเป็นกาแฟโรบัสต้าคุณภาพพิเศษตามที่กล่าวมาข้างต้น “

ติดต่อ FB : กาแฟภูมิมา Puma Coffee และ FB : พุมมาฟาร์ม Pumma Farm
โทร. 09-2449-8228

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น