ปตท.สผ.คาดปีนี้ผลประกอบการเติบโตขึ้นกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 3.15 แสนล้านบาท มั่นใจยอดขายปิโตรเลียมทำได้ตามเป้า 505,000 บาร์เรลต่อวัน สูงขึ้น 9% จากปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากแปลง G1/61(เอราวัณ) ผลิตก๊าซฯ ได้ตามสัญญา PSC ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในปลายเดือนมีนาคมนี้ อัดงบลงทุนปีนี้ 2.3 แสนล้านบาท ใช้สำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มทั้งในไทย และต่างประเทศ
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทได้ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการผลิตและจำหน่ายปิโตรเลียมอยู่ที่ 505,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โตขึ้นจากปีก่อน 9% มาจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ ขณะที่ราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเฉลี่ยในปีนี้จะปรับลดลงมาอยู่ที่ 45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ต่ำกว่าปีก่อนที่เฉลี่ย 48.2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล คาดหวังว่าปีนี้บริษัทจะมีผลประกอบการเติบโตขึ้นจากปี 2566 ที่มีรายได้รวม 315,216 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 76,706 ล้านบาท
ปตท.สผ.มีความมั่นใจปีนี้ยอดขายปิโตรเลียมทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 505,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งหลักๆ เป็นการเพิ่มขึ้นจากโครงการ G1/61 (แหล่งเอราวัณ ปลาทอง สตูล และฟูนาน) ที่จะทยอยผลิตก๊าซฯ เพิ่มขึ้นเพื่อให้ได้ตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในวันที่ 1 เมษายน 2567 จากปัจจุบันเดือนกุมภาพันธ์ผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 450 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพิ่มเป็น 550 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในช่วงเดือนมีนาคมนี้ และจะเร่งเพิ่มเป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันให้ได้ภายในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม 2567
นอกจากนี้ แปลง G2/61 (แหล่งบงกช) ปัจจุบันนี้มีการผลิตก๊าซฯ อยู่ที่ 840 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน สูงกว่าปริมาณก๊าซที่ผู้ขายจะต้องส่งมอบตามสัญญาให้แก่ผู้ซื้อในแต่ละวัน (DCQ) ที่ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่วนแหล่งอาทิตย์ในปีนี้ยังรักษาการผลิตอยู่ที่ระดับ 340 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน สูงกว่าสัญญา DCQ ที่ 290 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และแหล่งดังกล่าวมีศักยภาพอีกมาก และจะสิ้นสุดสัมปทานในปี 2581 ดังนั้น ปตท.สผ.จึงอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ซื้อก๊าซฯ คือ ปตท. และภาครัฐ เพื่อขอปรับเพิ่มปริมาณซื้อขายก๊าซฯ DCQ จากสัญญาเดิมเพิ่มเป็น 340 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็นการช่วยเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ และยังส่งผลให้ราคาก๊าซฯ ถัวเฉลี่ยรวม Pool GAS ถูกลงอีกด้วย
สำหรับความคืบหน้าในการควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) คาดว่าครึ่งปีแรกจะเห็นการปิดดีลได้
งบลงทุนปีนี้ ปตท.สผ.ได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 230,194 ล้านบาท (เทียบเท่า 6,721 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยมีแผนจะเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติจากโครงการ G1/61 ให้ได้ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันตามแผน ซึ่งปีนี้จะใช้เงินลงทุนราว 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเจาะหลุมผลิตเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทได้เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการแปลง G1/61ได้ติดตั้งแท่นผลิตจำนวน 12 แท่น และเจาะหลุมผลิตใหม่อีก 300 หลุม ทั้งนี้ เพื่อรักษาระดับปริมาณการผลิตก๊าซโครงการ G1/61 ไว้ตามสัญญา PSC บริษัทตั้งงบลงทุนในโครงการดังกล่าวปีละ 800-900 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
ผลประกอบการปี 2566 ปตท.สผ.มีรายได้รวม 315,216 ล้านบาท (เทียบเท่า 9,057 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงประมาณ 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 462,007 บาร์เรลต่อวัน และราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยอยู่ที่ 48.21 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ลดลงประมาณ 10% แต่กำไรสุทธิในปี 2566 จำนวน 76,706 ล้านบาท (เทียบเท่า 2,208 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 70,901 ล้านบาท เพราะมีรายจ่ายจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ (Non-operating items) ลดลง เช่น การประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน การบันทึกการด้อยค่าของสินทรัพย์ (Impairment) เป็นต้น