"ภากร" บิ๊กตลาดหุ้นไทย แถลงออนไลน์โต้ปมร้อน หลังนักลงทุนประกาศจุดยืนหยุดเทรดวันที่ 20 พ.ย. ทวงถามจุดยืนตลาดหุ้นเอื้อผลประโยชน์นักลงทุนบางกลุ่มหรือไม่ หลังนักลงทุนนายย่อยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการ ชอร์ตเซล-naked short-โปรแกรมเทรด แม้ ตลท.-ก.ล.ต. จะออกมาโบ้ยว่าเทียบสัดส่วนดังกล่าวมีน้อย วอนนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากตรงไหน ขอให้รวบรวมข้อมูลเข้ามาพูดคุยพร้อมยินดีเร่งแก่ไขปัญหาร่วมกัน แม้มีข่าวลือหนาหูการเมืองล้วงลูก ฟากนักข่าวถามเดือด ถ้าโปร่งใสทำไมข้อมูลบางอย่างไม่รายงานผลเรียลไทม์ ต้องรออะไร
13.00 น. วันนี้ (15 พ.ย.) นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข่าวออนไลน์ชี้แจงประเด็นร้อน การตรวจสอบ "ชอร์ตเซล-naked short-โปรแกรมเทรด " ในทุกทรานเซกชัน โดยออกมายืนกรานว่าไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด โดยเรียกร้องขอให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า ตลาดหุ้นมีการกำกับดูแลการซื้อขายอย่างเท่าเทียม เสมือภาค ไม่มีการลำเอียง เอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มนักลงทุนประเภทใดประเภทหนึ่ง พร้อมขอให้นักลงทุนที่ตรวจพบความผิดปกติ หรือมีความสงสันประการใด ให้รวบรวมหลักฐานมาแจ้งยังตลาดหุ้น พร้อมเป็นตัวกลางตรวจสอบร่วมกัน
"ความกังวลในเรื่องธุรกรรมชอร์ตเซล naked short การส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นผ่านโปรแกรมเทรด (ประเภทHFT) ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุนรายย่อยหรือเสียเปรียบนั้น ตลาดหลักทรัพย์ยืนยันว่าได้มีการตรวจสอบธุรกรรมดังกล่าวในทุกทรานเซกชันแบบเรียลไทม์ และไม่พบความผิดปกติแต่อย่างไร ซึ่งหากว่านักลงทุนรายใดมีหลักฐานขอให้รวบรวมมาแตจ้งยังตลาดหุ้น ซึ่งมีความยินดีที่จะช่วยกันร่วมตรวจสอบ"
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์อยากให้นักลงทุนมั่นใจว่าตลาดหุ้นมีระบบการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นรายวัน และดำเนินการแบบเรียลไทม์ตลอดจนขั้นตอนในการตรวจสอบที่เข้มข้น อาทิเช่น การยืมหุ้นมาชอร์ต หรือ SBL นั้นตลาดหลักทรัพย์ได้มีการถามไปยังบริษัทหลักทรัพย์ ที่นักลงทุนรายยืมหุ้นเพื่อมาชอร์ต ว่าได้ยืมถูกต้อง หรือไม่ให้ส่งเอกสารมาก่อนที่จะมีการขายหุ้น เพราะตลาดหลักทรัพย์จะเห็นออเดอร์ว่าเป็นการซื้อขายหุ้นปกติ หรือเป็นคำสั่งขายลักษณะการยืมหุ้นมาขายชอร์ต
ยืนกราน "ชอร์ตเซล,Naked Short,ROBOT TRADE ไม่พบความผิดปกติ โปร่งใส ตรวจสอบได้"
นายภากร กล่าวอีกว่า มาตรการที่นักลงทุนสงสัย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์มีการตรวจสอบแล้ว หากมีความผิดปกติ จะดำเนินการลงโทษผู้กระทำความผิดที่จากเดิมใช้เวลานาน แต่จะมีการยกระดับการลงโทษให้มีความรวดเร็วขึ้น
"นักลงทุนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบมีการกระทำที่ผิดปกติ หรืออยากรู้ข้อมูลใดๆก็สามารถสอบถามมายังที่ตลาดหุ้นได้เพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์ตรวจสอบ และชี้แจงข้อมูลดังกล่าวได้ ผ่านคอลเซ็นเตอร์ของตลาดหลักทรัพย์ หรือจะผ่านสื่อมวลชนได้"
ขณะที่ประเด็นหุ้นมอร์ และหุ้นสตาร์กนั้น นายภากรกล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาใหม่ ซึ่งทางตลาดหุ้นต้องถอดบทเรียนของเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น และหาทางแก้ไข พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำในอนาคต เพราะจะสร้างความเสียหายกับทั้งนักลงทุน และตลาดหุ้น
นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ก็จะมีการพิจารณาว่าจะสามารถเปิดข้อมูลการชอร์ตเซลของนักลงทุนว่ามาจากนักลงทุนกลุ่มไหน ให้เหมือนกับการเปิดเผยการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนแต่ละกลุ่มได้หรือไม่
ต่อคำถามที่ว่า นักลงทุนรายย่อยที่ออกมาประกาศหยุดเทรดวันที่ 20 พ.ย. นี้ทาง ตลท.จะมีมาตรการหรือทางออกในการเจรจากับทางนักลงทุนรายย่อยอย่างไรบ้าง โดย นายภากร กล่าวว่า พร้อมที่จะเปิดโอกาสการพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกันกับทางนักลงทุนรายย่อย โดยตลาดหุ้นขอยืนยันว่ามีความเป็นกลาง โปร่งใส ไม่ได้เอื้อให้กับกลุ่มประเภทนักลงทุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ แม้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบกับนักลงทุนรายย่อยมากที่สุดในบรรดา 4 กลุ่มประเภทของนักลงทุน
ขณะที่ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตุและซักถามว่า ทำไมข้อมูลบางส่วน ถึงไม่สามารถเปิดเผยแบบเรียลไทม์ได้ทันที นายภากรได้บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามนี้ เนื่องจากกังวลว่าอาจจะกระทบกับนักลงทุนบางกลุ่ม โดยตอบคำถามสื่อมวลชนว่า อาจต้องมีการปรับปรุงระบบก่อน ถึงจะมีการนำเสนอข้อมูลนี้แบบเรียลไทม์ในอนาคต
ขณะที่สื่อมวลถามถึงกรณีข่าวลือทางการเมืองต่อบอร์ดบริหารตลาดหุ้นนั้น นายภากร ตอบว่า "ไม่กังวลประเด็นการเมืองที่มาล้วงลูก เนื่องจากคณะกรรมการตลาดหุ้นมีการทำงานที่เป็นรูปธรรม มีความชัดเจน" พร้อมกันนี้ทางนายภากรได้ตัดบทที่จะตอบคำถามสื่อเพิ่มเติม
