ดีลประวัติศาสตร์ระหว่างเดอะมอลล์กรุ๊ป ผู้บริหารศูนย์การค้าชั้นนำ กับธนาคารกรุงเทพ 1 ใน 6 ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของไทย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 มีการแถลงข่าวเปิดตัวบัตรเครดิตและบัตรเดบิต Bangkok Bank M Visa แทนที่บัตรเครดิตและบัตรเดบิต SCB M ที่ออกร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งจะครบกำหนดสัญญาในวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่จะถึงนี้
เบื้องต้นเปิดให้สมัครบัตรเครดิตและบัตรเดบิต Bangkok Bank M Visa ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ที่ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าในเครือเดอะมอลล์ทุกสาขา สาขาธนาคารกรุงเทพ และทาง Bangkok Bank Mobile Banking ส่วนบัตรพรีเพด (Prepaid Card), กิ๊ฟท์การ์ด (Gift Card) และบัตรกดเงินสด (Revolving Card) จะทยอยเปิดให้บริการในปี 2567
สำหรับความตกลงระหว่างธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กับบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ในการออกผลิตภัณฑ์บัตร Bangkok Bank M Visa ครั้งนี้ มีอายุสัญญา 10 ปี
สำหรับบัตรเครดิต Bangkok Bank M Visa แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ Bangkok Bank M Live Visa Platinum สำหรับผู้มีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป, Bangkok Bank M Luxe Visa Signature สำหรับผู้มีรายได้ 300,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป และ Bangkok Bank M Legend Visa Infinite สำหรับลูกค้าที่ได้รับการเรียนเชิญให้สมัครเท่านั้น
สิทธิประโยชน์หลัก ได้แก่ รับส่วนลดสูงสุด 10% สำหรับสินค้าราคาปกติภายในห้างฯ และ Monline.com, 5% สำหรับแผนก Power Mall กูร์เมต์ มาร์เก็ต ทั้งในห้างฯ และออนไลน์ (Monline.com เมนู Power Mall และ GourmetMarketThailand.com) รวมทั้งรับคะแนนสะสม M Point สูงสุด 4 เท่า เมื่อใช้จ่ายในห้างฯ และออนไลน์ในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป
ส่วนการใช้จ่ายนอกห้างฯ หรือร้านค้าทั่วโลก ทุก 25 บาทรับ 1 คะแนน M Point สามารถนำคะแนน M Point รับส่วนลดเพิ่ม 25% เมื่อแลกคะแนน 2 เท่าของยอดซื้อ หรือรับส่วนลด 12.5% เมื่อแลกคะแนนเท่ายอดซื้อ และสามารถรับคูปองเงินสด 100 บาท เมื่อแลกคะแนน M Point 800 คะแนน
นอกจากนี้ ยังมีบริการแบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน รับส่วนลดสินค้าราคาพิเศษ M Price (เทียบเท่าสมาชิก M Card) บริการที่จอดรถพิเศษ บริการพิเศษระหว่างชอปปิ้ง ห้องรับรองพิเศษ (Platinum M Lounge) ผู้ดูแลระหว่างการชอปปิ้งภายในห้างฯ สิทธิพิเศษในเดือนเกิด ฯลฯ แต่ขึ้นอยู่กับประเภทบัตร หากบัตรระดับสูงก็จะได้สิทธิประโยชน์มากหน่อย
แม้สิทธิประโยชน์จะไม่ต่างจากบัตรเครดิต SCB M เดิม รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ที่ติดต่อยาก แต่สิ่งที่หลายคนมองข้าม คือ ก่อนหน้านี้ธนาคารกรุงเทพ เป็นหนึ่งในสองผู้ให้บริการบัตรเครดิต ที่ให้บริการชำระเงินผ่าน Google Pay ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถนำโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ ที่รองรับระบบ NFC แตะจ่ายผ่านเครื่องรูดบัตร EDC ได้โดยไม่ต้องพกบัตรตัวจริง
ที่ผ่านมา ห้างฯ และซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป รองรับการจ่ายเงินผ่าน E-Payment มาโดยตลอด และยังร่วมมือกับวีซ่า รับชำระเงินด้วยเทคโนโลยีคอนแทคเลส (Contactless) ผ่านอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Payment Devices) โดยไม่ต้องพกบัตรมาตั้งแต่ปี 2562 เป็นที่คุ้นเคยสำหรับลูกค้าระดับกลางและสูง ตอบโจทย์เรื่องความรวดเร็ว คล่องตัว และปลอดภัย
หากบัตรเครดิต Bangkok Bank M Visa ซึ่งเป็นของธนาคารกรุงเทพ สามารถเพิ่มลงใน Google Wallet ได้ ก็จะช่วยให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ชอปปิงไร้เงินสด ที่ล้ำกว่าการสแกนคิวอาร์โค้ดแบบเดิมๆ โดยไม่ต้องเปิดแอปฯ ธนาคารให้ยุ่งยากอีกต่อไป
ส่วนบัตรเดบิต Bangkok Bank M Visa มีให้เลือกทั้งแบบบัตรชิปการ์ด และบัตรดิจิทัลที่ใช้ผ่าน Bangkok Bank Mobile Banking ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ธนาคารกรุงเทพพัฒนาขึ้น และเปิดให้บริการเมื่อปี 2565 เป็นต้นมา ให้ลูกค้าสามารถจัดการบัตรได้ด้วยตัวเองผ่านโมบายแบงกิ้ง
สิทธิประโยชน์หลัก ได้แก่ รับส่วนลด 5% เมื่อช้อปสินค้าในห้างฯ เครือเดอะมอลล์กรุ๊ป หรือกูร์เมต์ มาร์เก็ต 800 บาทขึ้นไปต่อเซลสลิป รับคะแนน M Point สูงสุด 2 เท่า เมื่อใช้จ่ายครบทุก 25 บาท จากปกติเท่ากับ 1 คะแนน แลกรับส่วนลด 25% เมื่อแลกคะแนน 2 เท่าของยอดซื้อ และแลกคะแนนสะสม 800 M Point เท่ากับคูปองส่วนลดแทนเงินสด 100 บาท
แม้จะยังไม่มีการประกาศค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี ของบัตรเดบิต Bangkok Bank M Visa ออกมา แต่แต่ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ ก็เคยออกบัตรเดบิตร่วม (โค-แบรนด์) กับพันธมิตรรายหนึ่ง โดยคิดค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท ค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท และค่าธรรมเนียมออกบัตรพลาสติก 100 บาท เทียบเท่าบัตรเดบิตบีเฟิสต์ ดิจิทัล คาดว่าค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตอาจต่างกันไม่มาก และในช่วงเปิดตัวอาจมีโปรโมชันสมัครบัตรใหม่เพื่อแนะนำลูกค้าก็เป็นได้
การออกผลิตภัณฑ์ Bangkok Bank M Visa เจาะกลุ่มเป้าหมายฐานลูกค้าสมาชิก M Card กว่า 5.3 ล้านราย ครอบคลุมลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มาใช้บริการทั้งห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป โดยภายใน 5 ปีแรก ตั้งเป้าหมายออกบัตรเครดิตและบัตรเดบิต จำนวน 1.5 ล้านใบ ซึ่งจะมอบสิทธิพิเศษแก่ผู้ถือบัตรอย่างต่อเนื่อง
เดอะมอลล์ กรุ๊ป และธนาคารกรุงเทพ เป็นพันธมิตรทางการเงินมาเป็นเวลายาวนานกว่า 42 ปี นับตั้งแต่ให้สินเชื่อเพื่อก่อสร้างศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ท่าพระ (เดอะมอลล์ 5) ก่อนขยายโครงการครั้งละ 1 สาขา ที่งามวงศ์วาน (เดอะมอลล์ 6) บางแค (เดอะมอลล์ 7) บางกะปิ (เดอะมอลล์ 8) และนครราชสีมา (เดอะมอลล์ 10) แทบไม่มีการกู้เงินจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังก่อตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัท สุขุมวิท ซิตี้มอลล์ จำกัด เปิดศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม เมื่อปี 2540 จับกลุ่มเป้าหมายกำลังซื้อระดับกลางถึงสูง ที่รวบรวมสินค้าเกรดเอไว้ในแห่งเดียวกัน กระทั่งขยับขยายมาเป็น ดิ เอ็ม ดิสทริค (The Em District) ประกอบด้วย ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และล่าสุด เอ็มสเฟียร์ ที่จะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2566
ถึงกระนั้น สำหรับบัตรเครดิตร่วม (Co-Brand) ในแวดวงธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ มักจะใช้วิธีเปิดให้ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์) ที่สนใจยื่นข้อเสนอ บางแห่งใช้วิธีประกวดราคา โดยมีเงื่อนไขสำคัญ ได้แก่ ส่วนแบ่งรายได้ และงบประมาณสนับสนุนการตลาด ถือเป็นคนละเรื่องกับพันธมิตรทางการเงิน
ก่อนหน้านี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป เคยออกบัตรเครดิตร่วมกับสถาบันการเงินมาแล้วหลายแห่ง เช่น ธนาคารกสิกรไทย ปี 2539, อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) ปี 2544, บัตรกรุงไทย หรือ เคทีซี ปี 2546, ธนาคารซิตี้แบงก์ ปี 2550 อายุสัญญา 10 ปี ใช้ชื่อว่า Citi M Visa และธนาคารไทยพาณิชย์ ในปี 2561 อายุสัญญา 5 ปี ใช้ชื่อว่า SCB M ก่อนที่จะถึงคิวธนาคารกรุงเทพ ในปี 2566
แม้ธนาคารไทยพาณิชย์ต้องหมดสัญญากันไป แต่ธุรกิจบัตรเครดิตที่แยกตัวออกมาอย่างคาร์ดเอ็กซ์ (Card X) ก็ยังคงมีโปรโมชันทั้งห้างฯ และศูนย์ฯ ร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ในวันข้างหน้า ถ้าต้องการสิทธิประโยชน์หลักจากเดอะมอลล์ กรุ๊ป เช่น คะแนนสะสมที่มากกว่า หรือห้องรับรองพิเศษ อาจต้องหันมาใช้บัตรรูปแบบใหม่แทน
ส่วนพันธมิตรใหม่อย่างธนาคารกรุงเทพ ต้องดูว่าหลังเปิดให้สมัครบัตรไปแล้ว สิทธิประโยชน์ในบัตร Bangkok Bank M Visa จะโดนใจขาชอปและถูกบอกต่อมากน้อยขนาดไหน ในยุคที่ผู้บริโภคมีช่องทางแลกเปลี่ยน ธนาคารและเดอะมอลล์กรุ๊ป จำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้มัดใจผู้ถือบัตร ตลอดระยะเวลาสัญญา 10 ปี
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค พบกับคอลัมน์ Ibusiness review เป็นประจำทางเว็บไซต์ ibusiness.co เฟซบุ๊ก Ibusiness)
