เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับห้างสรรพสินค้าแม็คโคร โลตัสมอลล์ สาขาสมุทรปราการ กับโมเดลใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า "ไฮบริด โฮลเซล" (Hybrid Wholesale) ผสานความเชี่ยวชาญของทั้งสองธุรกิจมารวมกัน ได้แก่ ธุรกิจค้าส่งภายใต้แบรนด์แม็คโคร ที่ดำเนินธุรกิจยาวนานถึง 34 ปี กับธุรกิจค้าปลีกและพื้นที่เช่าภายใต้แบรนด์โลตัส กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 30
โดยเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2566 เป็นวันแรกที่เปิดให้บริการรูปแบบใหม่ หลังจากที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส สมุทรปราการ ปิดปรับปรุงชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา แต่ร้านค้าและศูนย์อาหารชั้น 1 เปิดให้บริการตามปกติ ก่อนที่จะขึ้นป้ายโลโก้ "แม็คโคร-โลตัส มอลล์" คู่กัน สร้างความฮือฮาแก่ผู้พบเห็น มีการแชร์ภาพเป็นไวรัลบนโซเชียลฯ ถึงห้างสองแบรนด์มาอยู่ที่เดียวกัน
รวมทั้งป้ายโฆษณาใจกลางเมืองสมุทรปราการ ระบุว่า "แม็คโครโฉมใหม่ 5 ต.ค. 2566 แหล่งรวมอาหารสด และสินค้าคุณภาพจากทั่วทุกมุมโลกในราคาค้าส่ง เพื่อชาวสมุทรปราการ มาที่เดียวครบทุกไลฟ์สไตล์"
ใครจะเชื่อว่า "แม็คโคร" กับ "โลตัส" จากเดิมในสายตาคนภายนอก มองว่าเป็นคนละห้างกัน แต่ปัจจุบันทั้งสองห้างอยู่ในเครือ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจาก บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เดิม เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) นำธุรกิจโลตัสไปให้แม็คโครถือหุ้น
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ซีพีชนะการประมูลซื้อกิจการห้างเทสโก้ โลตัส ในประเทศไทยและมาเลเซีย จากกลุ่มเทสโก้ แบรนด์ค้าปลีกชั้นนำในสหราชอาณาจักร มูลค่ากว่า 3.35 แสนล้านบาท เมื่อปี 2563 หลังจำใจขายกิจการไฮเปอร์มาร์เก็ตในนาม บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เมื่อคราววิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 เพื่อรักษาสภาพคล่องของธุรกิจ
กระทั่งกลุ่มเทสโก้ประมูลกิจการในไทยและมาเลเซีย หันมาโฟกัสธุรกิจในสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และยุโรปตอนกลาง ซีพีเอาชนะกลุ่มเซ็นทรัลและกลุ่มทีซีซีของตระกูลสิริวัฒนภักดี นำธุรกิจโลตัสในไทยและมาเลเซีย กลับเข้าสู่ครอบครัวซีพีอีกครั้ง
สำหรับแม็คโคร ที่ผ่านมามีการแบ่งสโตร์ออกเป็น 5 รูปแบบ ที่ลูกค้าคุ้นเคยคือรูปแบบ "แม็คโคร คลาสสิก" หรือ Cash & Carry สาขาดั้งเดิมพื้นที่ประมาณ 5,500-12,000 ตารางเมตร โดยมีสาขาลาดพร้าว กรุงเทพฯ เป็นสาขาแรกในไทย เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2532 เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ประกอบการร้านโชวห่วย และร้านค้าปลีกรายย่อย เน้นไปทำกำไรต่อได้
อีก 20 ปีต่อมา ได้ต่อยอดรูปแบบ "แม็คโคร อีโค พลัส" สาขาขนาดกลาง เฉลี่ยประมาณ 7,000 ตารางเมตร รองรับผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร รับจัดเลี้ยง (HoReCa) และผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อย ในทำเลที่มีสถานประกอบการโรงแรมและร้านอาหารหนาแน่น มีศักยภาพเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูง ประเดิมสาขาพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อปี 2552
กระทั่งในปี 2555 ได้เปิดรูปแบบ "แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส" ขนาดเฉลี่ยประมาณ 1,000-5,000 ตารางเมตร เน้นกลุ่มลูกค้า HoReCa เป็นหลัก สาขาแรกเปิดที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตามมาด้วยรูปแบบ "แม็คโคร ฟู้ดชอป" ขนาดเฉลี่ยประมาณ 800-1,000 ตารางเมตร สาขาต้นแบบเปิดที่ทาวน์อินทาวน์ เมื่อปี 2558 เน้นกลุ่มลูกค้า HoReCa ในพื้นที่ ไม่ต้องเดินทางไกล
และปี 2563 เปิดรูปแบบร้านขนาดเล็ก "เฟรช แอท แม็คโคร" สาขาแรกที่อีสพาร์ค รามอินทรา กม.4 ขนาดประมาณ 800 ตารางเมตร เจาะกลุ่มเป้าหมายร้านอาหารรายย่อย และผู้บริโภคที่เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ เน้นทำอาหารรับประทานเอง ไม่นับรวม "โฟรเซ่น ช้อป" จำหน่ายสินค้ากลุ่มอาหารแช่แข็งและอาหารแห้ง เจาะกลุ่มเป้าหมายร้านอาหารรายย่อยและกลาง
กล่าวถึงโมเดลรูปแบบใหม่ "ไฮบริด โฮลเซล" ที่เปิดตัวล่าสุด เดิมห้างโลตัส สมุทรปราการ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 หรือเมื่อ 3 ปีก่อน ตั้งอยู่บนถนนสายลวด เขตเทศบาลนครสมุทรปราการ โดยมีโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ โลตัส สมุทรปราการ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ขนาด 2 โรงภาพยนตร์ รวม 365 ที่นั่ง
Ibusiness review มีโอกาสมาเยือนแม็คโคร โลตัสมอลล์ สาขาสมุทรปราการ หลังเปิดให้บริการไม่นาน พบว่ามีผู้คนเข้ามาใช้บริการอย่างเนืองแน่น โดยพื้นที่ชั้น 1 บริหารงานโดยโลตัส ประกอบด้วยศูนย์อาหารและร้านค้าเช่า รวม 30 ร้านค้า ประกอบด้วย วัตสัน, เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, เคเอฟซี, โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, แว่นท็อปเจริญ
พร้อมกันนี้ ยังได้เพิ่มร้านค้าใหม่เข้ามา เช่น ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านชาบู ร้านทอง ร้านตัดผม ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านของเล่น โรงเรียนกวดวิชา ร้านดอกไม้ ร้านมือถือ และเร็วๆ นี้จะมีร้านขายยาและสวนสนุกสำหรับเด็กเปิดให้บริการอีกด้วย
เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 พบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นสโตร์ของแม็คโคร จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคมากกว่า 30,000 รายการ ในราคาค้าส่ง โดยเน้นไปที่อาหารสด เบเกอรี เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค แต่สินค้าจะน้อยกว่ารูปแบบแม็คโคร คลาสสิก มีจุดชำระเงิน 14 ช่อง และจุดชำระสินค้าด้วยตัวเอง (Self Checkout) 2 เครื่อง อีกด้านหนึ่งจะเป็นร้านมิสเตอร์ ดี.ไอ.วาย.
แม้ว่าไฮเปอร์มาร์เก็ตของโลตัสเดิม จะถูกเปลี่ยนเป็นแม็คโครรูปแบบใหม่ก็ตาม แต่ก็มีระบบสมาชิกที่เรียกว่า แม็คโครโปรพอยท์ (Makro PRO Point) ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา เมื่อซื้อสินค้าที่แม็คโครครบทุก 1,000 บาทจะได้รับ 1 พอยท์ สามารถใช้แลกส่วนลดได้ที่แคชเชียร์ตั้งแต่คะแนนแรก โดย 1 พอยท์มีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท มีอายุ 2 ปีปฏิทิน
ส่วนการชำระเงิน สามารถชำระผ่าน E-Payment ได้แก่ PromptPay QR Code หรือ TrueMoney Wallet จากยอดเงินในวอลเล็ทและบัญชี KKP Start Saving รับเงินคืน 1% รวมทั้งบัตรเครดิต UOB และ Citibank ทุกประเภทที่ออกในประเทศไทย
สำหรับการเปิดรูปแบบไฮบริด โฮลเซล ของแม็คโครร่วมกับโลตัส มอลล์ มีวัตถุประสงค์หลัก คือ ขยายฐานลูกค้าทั้งกลุ่มผู้ประกอบการและผู้บริโภคในชุมชนขนาดกลางและขนาดเล็ก เพิ่มอัตราผู้ใช้บริการให้ร้านค้าเช่าในพื้นที่โลตัส มอลล์ เสริมไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ ให้สามารถใช้ชีวิตกับครอบครัว พร้อมกับการเลือกซื้อวัตถุดิบจากแม็คโครเพื่อประกอบธุรกิจได้
ขณะเดียวกัน ยังใช้ช่องทางดังกล่าว ช่วยโปรโมทร้านค้าให้กับผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าของแม็คโคร ผ่านสื่อดิจิทัลภายในสาขา รวมทั้งจัดกิจกรรมเปิดพื้นที่ขาย SME Fair สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในท้องถิ่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ประกอบการ และผู้บริโภคกว่า 750,000 ครัวเรือนในพื้นที่ตัวเมืองสมุทรปราการ ในฐานะเมืองอุตสาหกรรมใกล้กรุงเทพฯ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
อีกด้านหนึ่ง เป็นที่จับตามองว่า การเปิดตัวรูปแบบไฮบริด โฮลเซล ของแม็คโคร จะเป็นการแข่งขันกับกลุ่มเซ็นทรัล ที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ "โก โฮลเซล" (GO Wholesale) ศูนย์ค้าส่งสินค้าระบบสมาชิกในราคาขายส่ง ภายใต้เครือ เซ็นทรัล รีเทล ซึ่งจะเปิดสาขาศรีนครินทร์ จ.สมุทรปราการ เป็นแห่งแรกในวันที่ 27 ต.ค. 2566 ที่จะถึงนี้ ถือเป็นคู่แข่งสำคัญโดยตรง
ปัจจุบัน โลตัสมีจำนวนสาขาในไทยรวม 2,499 แห่ง ประกอบด้วยไฮเปอร์มาร์เก็ต 225 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 178 แห่ง และร้านโลตัส โกเฟรช 2,096 แห่ง ส่วนมาเลเซียมีไฮเปอร์มาร์เก็ต 43 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 23 แห่ง มีพื้นที่ขายรวม 1.81 ล้านตารางเมตร และมีพื้นที่เช่า (NLA) เฉพาะสโตร์ 270 แห่งในไทยและมาเลเซีย รวม 1.1 ล้านตารางเมตร (ไม่รวม 23 สาขาที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท (LPF) เป็นเจ้าของ)
นับจากนี้อาจได้เห็นโลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ตบางสาขา ผันตัวไปเป็นแม็คโคร รูปแบบไฮบริดโฮลเซลตามมา ซึ่งพบว่ามีบางสาขาได้ปิดปรับปรุงชั่วคราวไปแล้ว น่าคิดว่าประสบการณ์จับจ่ายและใช้ชีวิตนอกบ้านแบบไร้รอยต่อ ระหว่างแม็คโครกับโลตัสที่ทั้งสองแบรนด์อยู่ชายคาเดียวกัน จะช่วยให้การแข่งขันด้านธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง รวมทั้งธุรกิจพื้นที่เช่าคึกคักมากน้อยขนาดไหน
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค พบกับคอลัมน์ Ibusiness review เป็นประจำทางเว็บไซต์ ibusiness.co เฟซบุ๊ก Ibusiness)