ขสมก.แจงรถเมล์ปรับอากาศสาย 75 ทิ้งเด็กชายผู้โดยสารที่เป็นลมไว้ริมฟุตปาธ เป็นรถร่วมฯ ภายใต้กำกับดูแลของกรมการขนส่งฯ ชี้พนักงาน ขสมก.ผ่านการฝึกอบรมการดูแลผู้โดยสารตามมาตรฐาน
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ชี้แจงถึงกรณีที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่า วันนี้ (21 ก.ย. 66) พนักงานเก็บค่าโดยสารรถปรับอากาศ สาย 75 นำเด็กชายซึ่งเป็นลมหมดสติขณะใช้บริการรถโดยสารคันดังกล่าว มาทิ้งไว้บนฟุตปาธ บริเวณป้ายหยุดรถโดยสารประจำทางข้าง สน.วัดพระยาไกร เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 66 นั้น
ขสมก. ขอเรียนชี้แจงให้ทราบ ดังนี้
1. รถโดยสารปรับอากาศ สาย 75 เป็นรถของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของกรมการขนส่งทางบก ไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของ ขสมก.
2. กรณีหากเกิดเหตุการณ์ ผู้ใช้บริการเป็นลมบนรถโดยสารของ ขสมก. พนักงานประจำรถ (พขร.,พกส.) จะทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และติดต่อญาติของผู้ป่วย หากอาการไม่ดีขึ้นก็จะนำส่งสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเป็นไปตามแผนเผชิญเหตุที่พนักงานประจำรถทุกคนผ่านการฝึกอบรมมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ขสมก.มุ่งเน้นการให้บริการที่ดี สะดวก ปลอดภัย ให้แก่ผู้ใช้บริการทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน ทั้งเด็ก สตรีมีครรภ์ คนชรา และคนพิการ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ (Vision) ของ ขสมก. "Busses for All" "รถเมล์ของทุกคน"
@ ไทยสมายล์กรุ๊ป เรียกพนักงานขับรถสาย 75 สอบสวนและตักเตือนแล้ว
ด้าน บริษัทไทยสมายล์ กรุ๊ป
ชี้แจงว่า กรณีผู้โดยสารเป็นลมบนรถเมล์โดยสารสาย 75 นั้น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2566 ช่วงเวลาประมาณ 18.20 น. กับรถเมล์สาย 75 (4-13) บริษัท แกรนด์ ซิตี้บัส จำกัด หนึ่งในบริษัทภายใต้เครือ ไทยสมายล์ กรุ๊ป
ทางบริษัทได้เรียกพนักงานประจำรถเข้ามาสอบสวนเป็นที่เรียบร้อย พบว่า ผู้โดยสารคนดังกล่าวขึ้นมาอยู่บนรถเมล์ แต่เกิดอาการวิงเวียนศีรษะคล้ายอาการเป็นลม เมื่อรถเมล์จอดป้าย พนักงานประจำรถโดยสารจึงได้พูดคุยกับผู้โดยสารคนดังกล่าวเพียงสั้นๆ เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารในรถค่อนข้างหนาแน่นมาก และเป็นเวลาเร่งด่วน จากนั้นผู้โดยสารได้ขอลงที่ป้ายดังกล่าว เพื่อสูดอากาศที่โล่งขึ้น ซึ่งพนักงานประเมินด้วยตนเองว่า การลงไปสูดอากาศจะดีกว่าการให้อยู่บนรถที่ผู้โดยสารหนาแน่น
ส่วนกรณีที่พนักงานประจำรถโดยสารไม่ได้ลงไปดูแลนั้น เนื่องจากตนเองเกิดความตกใจ ประกอบกับการจราจรบนท้องถนนที่ติดขัดมากในช่วงเย็น ตนเองไม่ได้มีเจตนาทิ้งผู้โดยสาร ขณะเดียวกันทางบริษัท ได้มีมาตรการตักเตือนตามขั้นตอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกำชับแนวทางรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในอนาคต เพื่อให้ผู้โดยสารทุกคนเดินทางได้อย่างปลอดภัยที่สุดในทุกเส้นทาง