xs
xsm
sm
md
lg

“พรศิลป์” ร้องรัฐวางมาตรฐาน GAP กับ “พืชไร่-ข้าวโพด” ก่อนสายเกินแก้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยร้องรัฐวางมาตรฐาน GAP ให้สินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และพืชไร่ทุกชนิดในไทยก่อนสายเกินแก้ หลัง EU จ่อเก็บภาษี CBAM หวั่นกระทบอุตสาหกรรมอาหารไทยมูลค่าหลายแสนล้านบาท

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยได้ทำหนังสือขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อเสนอประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อภาคเกษตรและอาหารของประเทศ รวมถึงแนวทางป้องกันความเสี่ยงในฐานะที่ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหาร หากสินค้าไทยปลดปล่อยคาร์บอนตลอดกระบวนการผลิตมากกว่าที่ประเทศผู้นำเข้ากำหนด โดยคู่ค้าสำคัญคือสหภาพยุโรป (EU) เริ่มมีมาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) หรือมาตรการภาษีคาร์บอนข้ามพรมแดนและการตัดไม้ทำลายป่าออกมา

ดังนั้น หากสินค้าไทยถูกเก็บภาษี CBAM จะทำให้ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทันที เช่น อุตสาหกรรมไก่เนื้อที่ใช้ข้าวโพดเป็นหนึ่งในวัตถุดิบอาหารไก่ อาจถูกเรียกเก็บ CBAM จนไม่สามารถทำธุรกิจในตลาดโลกได้อีก ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาหารมูลค่าหลายแสนล้านบาทของไทย รวมไปถึงทุกคนในห่วงโซ่การผลิตนี้ ตลอดจนเศรษฐกิจของชาติด้วย

ดังนั้น ไทยควรยุติการเผาในกระบวนการผลิตพืชอาหารทั้งหมด ด้วยการวางมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice : GAP) โดยจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยให้เข้าสู่ระบบมาตรฐาน GAP ซึ่งจะได้ประโยชน์เชื่อมโยงไปสู่การลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิตอาหารของประเทศด้วย ทั้งนี้ เพราะข้าวโพดเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตอาหารของประเทศไทย

“ปัจจุบันมาตรการสิ่งแวดล้อมสำหรับการค้าขายในตลาดโลก นับจากนี้จะทวีความเข้มข้นมากขึ้น ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ภาครัฐลงมือทำทันทีในการวางมาตรฐาน GAP ให้สินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และพืชไร่ทุกชนิดในประเทศไทยก่อนที่จะสายเกินไป และขอให้วางยุทธศาสตร์การค้าของประเทศโดยพิจารณาทั้งห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจะทำให้รัฐมองเห็นจุดที่จำเป็นต้องเร่งปรับปรุงหลายจุด และนำไปสู่การลดความเสี่ยงที่จะเป็นอุปสรรคการค้าของไทยในอนาคตได้”

ที่ผ่านมา การนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นธุรกิจของพ่อค้าผู้รวบรวมพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ ไม่ใช่ภารกิจของโรงงานอาหารสัตว์ ซึ่งกลุ่มพ่อค้าจะนำเข้าตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area - AFTA) ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2535 เป็นความตกลงการค้าที่ไม่มีภาษีและไม่มีโควตาในระหว่างประเทศสมาชิก โดยปัจจุบันไทยอนุญาตให้นำเข้าเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์-สิงหาคมของทุกปี และไม่อนุญาตให้นำเข้าในช่วงเดือนกันยายน-มกราคม เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตในประเทศออกสู่ตลาด

“ปัญหาหมอกควันในประเทศเพื่อนบ้านที่ส่งผลกระทบเป็นฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือของไทยนั้น ไม่มีใครทราบว่า Hot Spot ที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านนั้นเกิดจากไฟป่าหรือการเผาพืชชนิดใด แต่ก็ถือเป็นปัญหาระดับภูมิภาคที่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างรัฐต่อรัฐ ซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ในสภาว่า “การเผาหลังเก็บเกี่ยวเป็นวัฒนธรรมทางการเกษตรที่เพื่อนบ้านทำมาตลอด การจะออกประกาศในเรื่องใดกับชาติใดเราต้องปฏิบัติต่อชาติตัวเองเช่นนั้นด้วย เป็นเงื่อนไขบังคับอยู่ใน WTO และอาเซียน” หมายความว่า การจะเรียกร้องให้ประเทศอื่นหยุดเผา ประเทศไทยเองก็ควรต้องหยุดเผาด้วย ซึ่งปัจจุบันไทยยังไม่ได้ห้ามเผาข้าวโพด เพียงแต่ขอความร่วมมือ และกำหนดระยะเวลาการเผาเป็นช่วง”
กำลังโหลดความคิดเห็น