ชาวกรุงเทพฯ หลายคนใช้ระบบขนส่งมวลชนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นระบบรางอย่างรถไฟฟ้าสารพัดเส้นทาง ระบบล้ออย่างรถประจำทาง และเรือโดยสารตามลำน้ำสำคัญ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีสมรรถนะสูง นอกจากจะทำให้การเดินทางของผู้โดยสารเป็นไปอย่างราบรื่นแล้ว ยังส่งผลให้การให้บริการมีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายต่างๆ
มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาง ที่สอดคล้องกับนวัตกรรมคมนาคมขนส่งในกรุงเทพฯ ซึ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าแบบโมโนเรลสายแรกในประเทศไทย ส่วนหนึ่งเลือกใช้ยางรถไฟฟ้าสมรรถนะสูงจาก มิชลิน (MICHELIN) รุ่น X Metro และรุ่น XPM ซึ่งเป็นยางสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ
ขณะที่ รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า (EV Bus) ซึ่งมี บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ มีเส้นทางให้บริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มากถึง 123 เส้นทาง พบว่าเลือกใช้ยางจาก บริดจสโตน (BRIDGESTONE) รุ่น Ecopia R156 ยางสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสารทางไกล ที่มีเนื้อยางสูตรพิเศษ และอายุการใช้งานยาวนาน
ความน่าสนใจก็คือ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยางทั้งสองค่าย ต่างสร้างการรับรู้ผ่านโซเชียลมีเดีย ด้วยการนำเสนอเรื่องราวการใช้ยางกับระบบขนส่งมวลชนดังกล่าว อย่างน้อยก็สร้างการรับรู้แบรนด์แก่ผู้คนทั่วไป รวมถึงผู้ที่สนใจระบบขนส่งมวลชนที่แต่ละกลุ่มมีฐานแฟนคลับ เช่น กลุ่มบัสแฟน กลุ่มคนรักรถไฟ ฯลฯ ซึ่งมีความผูกพันธ์กับการเดินทางมาอย่างยาวนาน
อย่างน้อยคนที่เดินทางก็ได้รู้ว่า รถไฟฟ้าสายสีเหลืองใช้ยางมิชลิน และรถเมล์ไฟฟ้า ไทย สมายล์ บัส ใช้ยางบริดจสโตน
สำหรับรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ให้บริการโดย บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด ใช้ระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว เรียกว่า “โมโนเรล” แบบคร่อมราง (Straddle Monorail) โครงสร้างยกระดับตลอดสาย ใช้รถไฟฟ้ายี่ห้ออัลสตอม รุ่นอินโนวา โมโนเรล 300 (Alsthom Innovia Monorail 300) ความจุ 356 คนต่อตู้ ตัวรถประกอบที่โรงงานซีอาร์อาร์ซี อัลสตอม ประเทศจีน
โดยเลือกใช้ยางมิชลิน รุ่น X Metro และรุ่น XPM ยางรถไฟฟ้าสมรรถนะสูง ด้วยค่าการยึดเกาะที่สูง ช่วยให้การเร่งความเร็วและการเบรกทำได้ดีในทุกสภาพอากาศ ลดการสั่นสะเทือนของยาง ลดเสียงรบกวน ให้ความนุ่มสบายแก่ผู้โดยสาร ทดสอบบนลูกกลิ้งทดสอบมากกว่า 4 แสนชั่วโมงก่อนนำมาใช้งานจริง และติดตามการใช้งานในแต่ละปีมากกว่า 50 ล้านกิโลเมตร
ยางสำหรับระบบรถไฟขนส่งมวลชนนำมาใช้ครั้งแรกในโลกกับรถไฟสาย 11 ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี ค.ศ.1951 กระทั่งมีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่เลือกใช้ยางมิชลิน อาทิ MONTREAL METRO สหรัฐอเมริกา, MUNICH APM ประเทศเยอรมนี และ SHANGHAI MONORAIL ประเทศจีน รายละเอียดเพิ่มเติมศึกษาได้ที่เว็บไซต์ https://metro.michelin.com/en/
ส่วนรถเมล์ไฟฟ้า ของบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด ซึ่งมีเส้นทางเดินรถ 71 เส้นทาง และเครือข่ายรวม 123 เส้นทางทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ด้วยสโลแกน เดินทางด้วยรอยยิ้ม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เลือกใช้รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า NEX-MINEBUS รุ่น EV CITYBUS 11 เมตร 31 ที่นั่ง ผลิตโดย บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย
โดยเลือกใช้ยางบริดจสโตน รุ่น Ecopia R156 สำหรับรถบรรทุกและรถโดยสารทางไกล มีระยะเวลาการใช้งานยาวนาน ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดการสร้างขยะ ประหยัดน้ำมันเพราะยางช่วยลดการต้านทานต่อการหมุน สอดคล้องกับไทย สมายล์ บัส เปลี่ยนรถเมล์พลังงานเชื้อเพลิงเป็นรถเมล์พลังงานไฟฟ้า ไม่ทำลายทั้งสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
บริดจสโตนได้ร่วมผลิตยางให้กับรถเมล์พลังงานไฟฟ้าของไทย สมายล์ บัส โดยจะมี 8 สายที่มีชื่อเป็นตัวแทนพันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน (BRIDGESTONE E8 Commitment) แต่ละประการ ได้แก่ สาย 92 เป็นตัวแทนของ Energy (พลังงาน), สาย 17 เป็นตัวแทนของ Ecology (สิ่งแวดล้อม), สาย 2-17 เป็นตัวแทนของ Efficiency (ประสิทธิภาพ)
สาย 71 เป็นตัวแทนของ Emotion (ความรู้สึก), สาย 8 เป็นตัวแทนของ Empowerment (พลังทางสังคม), สาย 132 เป็นตัวแทนของ Ease (ความสะดวกสบาย), สาย 34 เป็นตัวแทนของ Economy (เศรษฐกิจ) และสาย 39 เป็นตัวแทนของ Extension (การเติบโต) ซึ่งได้ติดตั้งสื่อโฆษณาบริเวณตอนกลางของรถโดยสารเพื่อสร้างการรับรู้อีกด้วย
แม้เรื่องราวของยางกับระบบขนส่งมวลชนจากมิชลินและบริดจสโตน จะเป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ เมื่อเทียบกับประสบการณ์ของผู้ผลิตยางชั้นนำ ซึ่งที่ผ่านมามักมุ่งเน้นไปที่การใช้งานกับยานยนต์ต่างๆ แต่ก็ถือว่าเป็นการสื่อสารแบรนด์กับเรื่องใกล้ตัว ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนกรุงเทพฯ โดยไม่จำกัดเพียงแค่รถยนต์และยานยนต์ต่างๆ เพียงอย่างเดียว
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค พบกับคอลัมน์ Ibusiness review เป็นประจำทุกวันพุธ ทางเว็บไซต์ ibusiness.co เฟซบุ๊ก Ibusiness และตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ทุกวันจันทร์)