xs
xsm
sm
md
lg

PTGดับข่าวลือขายหุ้นให้OR อัดงบปีนี้6พันล.เร่งขยายธุรกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



PTG ยันไม่มีพูดคุยขายหุ้นให้OR ชี้ปีนี้เดินหน้าขยายธุรกิจน้ำมันและNon-Oil หลังทุ่มงบลงทุน5-6พันล้านบาทขยายธุรกิจ

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่า บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) จะเข้าซื้อ PTG ว่า บริษัทฯ ยืนยันไม่มีการพูดคุยใดๆกับOR รวมถึงบริษัทก็ไม่มีแผนจะขายหุ้นออกไปให้กับ OR แต่อย่างใด

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายปริมาณการขายน้ำมันในปี2566 เติบโต 8-12% ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 บริษัทฯ มีปริมาณการขายน้ำมันเติบโต 16.6% เกินเป้าหมายไปแล้ว ขณะที่ธุรกิจ LPG คาดโต 40-60% ไตรมาส 1/2566 เติบโตแล้วราว 42.9% ส่วนยอดขายธุรกิจ Non-Oil ตั้งเป้าเติบโต 80-90% โดยทำได้แล้ว 74.6%

นายรังสรรค์ กล่าวว่า บริษัทได้วางเป้าหมายการขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันปีนี้ 2,206สาขา ปัจจุบันสามารถขยายสาขาดังกล่าวไปได้แล้วจำนวน 2,160 สาขา ธุรกิจ Non-oil ขยายสาขาไปแล้วจำนวน 1,626 สาขา จากเป้า 2,748 สาขา แบ่งเป็น ธุรกิจ LPG 574 สาขา โดยขยายไปแล้ว 507 สาขา, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย 1,500 สาขา ขยายไปแล้ว 570 สาขา และอื่นๆ อีก 674 สาขา ขยายไปแล้ว 549 สาขา

ส่วนงบลงทุนในปี2566บริษัทตั้งงบไว้ 5,000-6,000 ล้านบาท ใช้ลงทุนในธุรกิจน้ำมัน 1,000-1,500 ล้านบาท ธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน 2,000-2,500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ จำนวน 1,500-2,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน จ.สงขลา ขนาดกำลังผลิต 4.5 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้ได้มีการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)แล้วคาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2568 โดยไตรมาสแรกปีนี้ใช้งบลงทุนไปแล้ว 700 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงและขยายสถานีบริการน้ำมัน รวมทั้งขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทย

ส่วนค่าการตลาดน้ำมัน ทางภาครัฐขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการน้ำมันให้ค่าการตลาดน้ำมันอยู่ที่ระดับ 1.80-2บาท/ลิตร โดยบริษัทจะคงอัตราค่าการตลาดดังกล่าวจนกว่านโยบายภาครัฐจะเปลี่ยนแปลงไป ส่วนรัฐบาลใหม่มีนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ450บาทนั้น ย่อมส่งผลกระทบทำให้ต้นทุนราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นระดับสตางค์ต่อลิตร ซึ่งนโยบายนี้ส่งผลกระทบทั้งประเทศ โดยเฉพาะSMEที่จะได้รับผลกระทบหนักสุด
กำลังโหลดความคิดเห็น