Lemon8 แอปน้องใหม่จากไบต์แดนซ์ กลายเป็นแอปไลฟ์สไตล์ที่มียอดดาวน์โหลดอันดับ 2 ในอเมริกาในรอบ 30 วันที่ผ่านมา แม้ติ๊กต็อก แอปวิดีโอสั้นยอดนิยมในเครือเดียวกัน กำลังถูกคองเกรสส์ขับเคี่ยวหนักและอาจถูกแบนทั่วสหรัฐฯ ก็ตาม
ลินด์เซย์ กอร์แมน นักวิชาการอาวุโสด้านเทคโนโลยีอุบัติใหม่ของกองทุนเยอรมัน มาร์แชลล์ บอกว่า จังหวะเวลาน่าสนใจอย่างยิ่งเพราะดูเหมือนยักษ์ใหญ่ไฮเทคจีน ไบต์แดนซ์ กำลังปลุกปั้น Lemon8 เป็นตัวเลือกแทนติ๊กต็อก รวมไปถึงเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม
เดือนมีนาคม ไบต์แดนซ์เชิญชวนเหล่าครีเอเตอร์เข้าร่วม “แพลตฟอ์ม Lemon8 ใหม่” ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอเมริกา พร้อมอวดอ้างความสำเร็จของติ๊กต็อก
Lemon8 แอปที่คล้ายเป็นลูกผสมระหว่างพินเทอเรสต์และอินสตาแกรม เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อต้นปี 2020 แอปไลฟ์สไตล์ที่เน้นด้านสุขภาพ สุขภาวะ และความสวยความงามนี้ไต่ขึ้นชาร์ตในอเมริกาอย่างรวดเร็ว
จากการเปิดเผยของบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล data.ai นั้น Lemon8 พุ่งพรวด 693 ขั้นกลายเป็นแอปไลฟ์สไตล์ที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดอันดับ 2 ในอเมริกาในช่วง 30 วันที่ผ่านมา เขี่ยซิลโลว์ แอปตลาดอสังหาริมทรัพย์ หล่นไปอยู่ที่ 3 และเป็นรองแค่พินเทอเรสต์
ส่วนข้อมูลของแอปโทเปียระบุว่า Lemon8 มียอดดาวน์โหลดสะสมทั่วโลกนับจากเปิดตัว 17 ล้านครั้ง
เกลนน์ เกอร์สเทลล์ ที่ปรึกษาอาวุโสของศูนย์เพื่อการศึกษาด้านยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศ ชี้ว่า อัลกอริธึมบางส่วนที่ใช้ใน Lemon8 เหมือนกับหรือเป็นอัลกอริทึมเดียวกับที่แนะนำในติ๊กต็อก ซึ่งแน่นอนว่า ทำให้ทั้งสองแอปนี้ได้รับความนิยมอย่างมากเพราะจะนำเสนอสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ
ความนิยมถล่มทลายของ Lemon8 ในอเมริกาเกิดขึ้นขณะที่สมาชิกรัฐสภาของสหรัฐฯ กำลังชั่งใจว่า ไบต์แดนซ์ต้องขายหุ้นในติ๊กต็อกที่กำลังถูกตรวจสอบเข้มข้นหรือไม่
เดือนมีนาคมสมาชิกสภาสหรัฐฯ เรียกโชว ซื่อ ชิว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) ติ๊กต็อกไปซักไซ้ไล่เลียงในคองเกรสส์เพราะอยากรู้เกี่ยวกับความสามารถของติ๊กต็อกในการดำเนินธุรกิจโดยปลอดจากอิทธิพลของรัฐบาลจีนที่มีเหนือบริษัทแม่คือไบต์แดนซ์ แต่ดูเหมือนคำถามคำตอบเหล่านั้นไม่อาจทำให้เหล่าสมาชิกสภาคลายความกังวล
นักวิเคราะห์อย่างเช่นกอร์แมนบอกว่า การโปรโมท Lemon8 อย่างดุเดือดอาจถูกมองว่าเป็น “ความเคลื่อนไหวเชิงแข่งขัน” ขณะที่ไบต์แดนซ์พยายามขยายเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคที่แตกต่างและเซ็กเมนต์อื่นๆ ด้วยคอนเทนต์ที่ยาวขึ้นและอิงกับรูปภาพมากขึ้น ซึ่งตรงข้ามกับวิดีโอขนาดสั้นเท่านั้น
แม้อาจเป็นกลยุทธ์ธุรกิจปกติในการมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันทั่วโลก แต่การที่ Lemon8 มีความเกี่ยวพันกับไบต์แดนซ์และติ๊กต็อก อาจทำให้แอปน้องใหม่นี้ถูกหน่วยงานกำกับดูแลของอเมริกาสอดส่องในไม่ช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ายังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน
ขณะเดียวกัน ทั้งกอร์แมนและเกอร์สเทลล์ลงความเห็นว่า Lemon8 อาจถูกใช้เป็นตัวเลือกสำหรับครีเอเตอร์ ถ้าติ๊กต็อกโดนแบนในอเมริกา อย่างไรก็ตาม กอร์แมนยอมรับว่า เรื่องนี้ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับการย้ายผู้ใช้ติ๊กต็อก 150 ล้านคนในอเมริกาไปยัง Lemon8
การสร้างแอปใหม่มาแทนที่ติ๊กต็อกก็ไม่ใช่ทางลัดในการแก้ปัญหาสำหรับไบต์แดนซ์ เพราะแอปสัญชาติจีนจะยังคงถูกอเมริกาตรวจสอบต่อไปตราบที่ความสัมพันธ์วอชิงตัน-ปักกิ่งยังคงเขม็งเกลียว
นอกจากติ๊กต็อกและ Lemon8 ยังมีอีกหนึ่งแอปที่มีความเกี่ยวพันกับจีนและฮิตที่สุดในอเมริกา ล่าสุดแว่วว่า ข้ามแอตแลนติกไปเปิดตลาดในยุโรปแล้ว
แอปที่ว่าคือ เทมู แอปช้อปปิ้งออนไลน์ในบอสตันจากค่ายพีดีดี ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในอเมริกาที่ก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อ “พินตัวตัว” และเดิมพีดีดีมีฐานอยู่ในเซี่ยงไฮ้แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้ย้ายไปเปิดสำนักงานใหญ่ในดับลิน
เทมูเป็นแพลตฟอร์มที่ขายทุกอย่างตั้งแต่ของใช้ในบ้านจนถึงเสื้อผ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และกลายเป็นแอปที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในอเมริกานับจากเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และยังคงปักหลักเป็นผู้นำในแอปสโตร์ของประเทศนี้โดยมีผู้ใช้หลายสิบล้านคน ทั้งนี้ จากข้อมูลของเซ็นเซอร์ ทาวเวอร์
โฆษกของพีดีดีเผยว่า ความที่มีเครือข่ายซัปพลายเออร์และหุ้นส่วนกว่า 11 ล้านราย ทำให้เทมูมีต้นทุนต่ำและดึงราคาสินค้าให้ถูกลง
ในแคมเปญโฆษณาซูเปอร์โบวล์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เทมูกระตุ้นให้ผู้บริโภค “ช้อปเหมือนเป็นเศรษฐีพันล้าน” ด้วยการใช้ประโยชน์จากสินค้ามากมายในราคาจับต้องได้ เช่น ชุดว่ายน้ำราคา 6.50 ดอลลาร์ หรือหูฟังคู่ละ 8.50 ดอลลาร์
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาขณะที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เทมูถูกตั้งคำถามมากมายซึ่งรวมถึงทำไมถึงขายของได้ถูกจนน่าตกใจ ให้บริการอย่างโปร่งใสแค่ไหน และสร้างขยะต่อสิ่งแวดล้อมมากน้อยแค่ไหน
แม้เทมูไม่ได้ให้บริการในจีน แต่พีดีดีเป็นเจ้าของพินตัวตัว ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซชื่อดังของจีนซึ่งการตรวจสอบของซีเอ็นเอ็นเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า สามารถสอดแนมผู้ใช้ด้วยการหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยในมือถือและดูว่า ผู้ใช้ทำอะไรบนแอปอื่นๆ อ่านข้อความของผู้ใช้ และแม้แต่เปลี่ยนการตั้งค่า
ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับพินตัวตัวอาจทำให้เทมูถูกสอดส่องไปด้วย
นอกจากนั้นในรายงานของคองเกรสส์เมื่อต้นเดือนเมษายนยังมีการเตือนเกี่ยวกับความสำเร็จอย่างรวดเร็วของเทมู
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่อาจหยุดยั้งการขยายตัวของเทมูได้ เดือนกุมภาพันธ์เทมูประกาศแผนขยายไปยังแคนาดา และตอนนี้ยังเข้าสู่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เรียบร้อย เช่นเดียวกับใน 6 ประเทศยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน และสหราชอาณาจักร