xs
xsm
sm
md
lg

จับตา 57 รง.น้ำตาลแจ้งปิดหีบสิ้น มี.ค. คาดผลผลิตอ้อยแค่ 94 กว่าล้านตัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ชาวไร่อ้อยประเมินผลผลิตอ้อยฤดูหีบปี 2565/66 กว่า 94 ล้านตันหลังเข้าโค้งสุดท้ายที่โรงงานน้ำตาล 57 แห่งทั่วประเทศนับถอยหลังปิดหีบครบภายใน 31 มี.ค.นี้ หวั่นฤดูหีบปี 66/67 อาจรูดต่ำหนักต่อเนื่องจากชาวไร่เริ่มหันไปปลูกมันสำปะหลังที่มีกำไรดีกว่า

นายวีระศักดิ์ ขวัญเมือง ผู้แทนชาวไร่อ้อยในคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.)
เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานน้ำตาลทราย 57 แห่งได้แจ้งวันหยุดรับอ้อยและกำหนดปิดหีบอ้อยทั้งหมดแล้ว โดยจะทยอยปิดหีบอ้อยสิ้นสุดถึง 31 มี.ค.นี้ซึ่งนับเป็นการปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตปี 2565/66 ที่ค่อนข้างเร็วเนื่องจากปริมาณอ้อยลดต่ำลงต่อเนื่อง โดยคาดว่าเมื่อสิ้นสุดการปิดหีบจะมีผลผลิตอ้อยที่กว่า 94 ล้านตันซึ่งต่ำกว่าที่เคยประเมินเอาไว้เดิมว่าจะมีอ้อยเข้าหีบประมาณ 107 ล้านตันราว 12 ล้านตัน ดังนั้นมีแนวโน้มว่าฤดูการผลิตปี 2566/67 เสี่ยงสูงที่ปริมาณอ้อยจะลดต่ำลงอย่างมาก

“ฤดูหีบอ้อยปีนี้ขยับเพิ่มเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2564/65 ซึ่งอยู่ที่ 92.07 ล้านตัน และสิ่งที่น่ากังวลคือแนวโน้มฤดูหีบปี 2566/67 ที่กำลังจะมาถึงชาวไร่เริ่มมีการประเมิน หากปริมาณฝนในช่วงนี้ไม่ตกอย่างมีนัยสำคัญกรณีเลวร้ายสุดอาจเห็นอ้อยที่เพียง 70 ล้านตันได้” นายวีระศักดิ์กล่าว

สำหรับผลผลิตที่ลดลงปัจจัยหลักมาจากหลายสาเหตุ เช่น ราคาปุ๋ยที่สูงทำให้เกษตรกรบางส่วนไม่ได้มีการบำรุงอ้อยตอมากเท่าที่ควรจะเป็นส่งผลให้ผลผลิตอ้อยต่อไร่ลดลงจาก 12 ตันต่อไร่เหลือ 9 ตันต่อไร่ เกษตรกรบางส่วนหันไปปลูกมันสำปะหลังที่มีราคาดีและเก็บเกี่ยวง่ายเพิ่มขึ้น เพราะการตัดอ้อยสดตามนโยบายรัฐเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 มีอุปสรรคมากและมีส่วนสำคัญต่อผลผลิตอ้อยที่ลดต่ำเพราะการใช้รถตัดค่อนข้างทำลายตออ้อยเฉลี่ย 2 ตันต่อไร่หากเทียบกับใช้แรงงานตัดจะสูญเสีย 1 ตันต่อไร่เท่านั้น ฯลฯ

นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปริมาณอ้อยที่ค่อนข้างต่ำกว่าที่คาดหมายไว้ และสิ่งที่น่ากังวลคือในฤดูหีบปี 2566/67 ชาวไร่อ้อยหันไปปลูกมันสะปะหลังมากขึ้นเนื่องจากเก็บเกี่ยวง่ายและสำคัญมีกำไรที่ดีกว่าเนื่องจากราคามันสำปะหลังเฉลี่ยสูง 3-4 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) แม้ว่าราคาอ้อยจะสูงเฉลี่ยระดับ 1,000 กว่าบาทต่อตันแต่ต้นทุนต่างๆ สูงขึ้นมากรวมไปถึงการเก็บเกี่ยวที่ต้องตัดอ้อยสดทำให้ภาพรวมรายได้เทียบกับรายจ่ายจึงเหลือไม่มาก

“ราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกปีนี้เฉลี่ยทรงตัวระดับสูงราว 19-20 เซ็นต์ต่อปอนด์ แต่ในแง่ของชาวไร่อ้อยไม่ได้กำไรเหมือนอดีตเพราะต้นทุนต่าง ๆ ได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งปุ๋ย สารเคมี ค่าแรงงาน น้ำมัน ฯลฯ ประกอบกับการตัดอ้อยสด การขนส่งอ้อย ล้วนมีอุปสรรคและต้นทุนอื่นๆ แฝงเพิ่มขึ้น ทำให้ชาวไร่อ้อยส่วนหนึ่งเริ่มเปรียบเทียบกับพืชอื่นๆ โดยเฉพาะชาวไร่รายย่อยที่พร้อมจะหันไปปลูกพืชอื่นทดแทน ดังนั้น หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้เชื่อว่าผลผลิตอ้อยปี 2566/67 จะแย่กว่าปีนี้อีกแน่นอน และอีกส่วนคือมองว่าปีนี้จะแล้งคงต้องดูว่าฝนจะตกช่วงนี้มากน้อยเพียงใดด้วย” นายนราธิปกล่าว

นายนราธิปกล่าวว่า อีกปัจจัยหนึ่งคือหลังจากที่รัฐยุบสภาทำให้การพิจารณาช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ตามนโยบายรัฐที่จะให้แหล่งเงินทุนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อัตรา 120 บาทต่อตันที่คงจะต้องไปรอรัฐบาลใหม่มาพิจารณาทำให้ชาวไร่อ้อยเองขาดแรงจูงใจในการบำรุงอ้อยเพิ่มขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น