BCPG อัดงบลงทุนปีนี้ 3.9 หมื่นล้าน ฉวยจังหวะวิกฤต Bank Run ซื้อโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ

BCPG อัดงบลงทุนปีนี้ 3.9 หมื่นล้าน ฉวยจังหวะวิกฤต Bank Run ซื้อโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ

BCPG อัดงบลงทุนปีนี้ 3.9 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้า EBITDA โตขึ้นกว่า 20% จากปีก่อน ฉวยจังหวะวิกฤต Bank Run ในสหรัฐฯ ไล่ซื้อโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้ามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เติบโตขึ้น 20% จากปี 2565 ที่มี EBITDA อยู่ที่ 4,434 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนมาจากประเทศไทย 34% ญี่ปุ่น 15% ลาว 17% การลงทุนใหม่ 34% และอื่นๆ 0.3%

ทั้งนี้ บริษัทกำหนดงบลงทุนในปี 2566 อยู่ที่ 39,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนใหม่ 77% โดยเฉพาะการเข้าลงทุนในสหรัฐฯ และการลงทุนที่มีอยู่แล้วอีก 23%

“เราวางงบลงทุน 2 หมื่นล้านบาทที่ได้เริ่มลงทุนในสหรัฐฯ ไปแล้วทั้งโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Carroll County Energy LLC (CCE) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 700 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ South Field Energy LLC (SFE) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,182 เมกะวัตต์ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนเกิดวิกฤต bank run อย่างไรก็ดี แม้ว่าในสหรัฐฯ จะมีปัจจัยเสี่ยงจากวิกฤตสถาบันการเงิน แต่บริษัทมองว่าวิกฤตเป็นโอกาส ทำให้นักลงทุนขายสินทรัพย์หรือโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นโอกาสที่บริษัทจะเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯ และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่สหรัฐฯ ได้สำเร็จมากขึ้นตามที่วางงบไว้ 2 หมื่นล้านบาท”


ส่วนความคืบหน้าการยื่นเสนอขายไฟฟ้าในโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบ FiT จำนวน 5.2 พันเมกะวัตต์ (MW) ของภาครัฐ ซึ่งบริษัทมีโครงการที่ผ่านการพิจารณาเบื้องต้นแล้วคิดเป็นจำนวนเมกะวัตต์ไม่มาก ดังนั้นการลงทุนในปีนี้จึงโฟกัสในต่างประเทศโดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา

ปัจจุบันบริษัทเริ่มมีรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตแล้วที่บริษัทผลิตได้เองทุกปีทั้งจากโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งได้ร่วมมือกับกลุ่มบางจาก จัดทำแพลตฟอร์มศูนย์กลางซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพื่อรองรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิตด้วย