xs
xsm
sm
md
lg

อคส.โต้โรงสีใหญ่ ยันข้าวไฟไหม้ไม่ใช่ของ อคส.เหตุถูกเปลี่ยนจากข้าวเหนียวเป็นข้าวขาว โชว์โพยฟ้อง 6.2 พันล้านมาจากไหน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



อคส.ชี้แจงอีกรอบ หลังโรงสีใหญ่ออกมาให้ข่าว “ข้าวไฟไหม้” เป็นข้าวของ อคส. ยันไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของ อคส. เหตุเป็นข้าวผิดชนิด เปลี่ยนจากข้าวเหนียวเป็นข้าวขาว มีผลการตรวจยันชัด และมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ส่วนเงินชดเชยประกันเป็นมูลค่าชดเชยข้าวเหนียวที่ไฟไหม้ พร้อมแจงละเอียดยิบค่าเสียหายที่ฟ้อง 6,248.55 ล้านบาทมาจากไหนบ้าง

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงกรณีผู้ประกอบการโรงสีใหญ่ได้ออกมาระบุว่า “ข้าวไฟไหม้” เป็นข้าวของ อคส. ว่า ข้าวดังกล่าวไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของ อคส. เนื่องจากเป็นข้าวผิดชนิด คือ ข้าวเปลี่ยนสภาพจากข้าวเหนียว เป็นข้าวขาว เจ้าของคลังเก็บรักษาข้าวอย่างไร เพราะข้าวเหนียวราคาสูงกว่าข้าวขาวเกือบเท่าตัว อีกทั้งข้อเท็จจริงปรากฏเป็นที่ยุติจากการตรวจสอบของคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 101 รวมถึงมีบันทึกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งได้รวมสำนวนไว้ที่ ป.ป.ช.

ส่วนเงินชดเชยจากประกันภัยที่อ้างถึงเป็นการสรุปผลการตรวจสอบว่ามูลค่าชดใช้ของข้าวเหนียวที่ไฟไหม้เท่านั้น ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ อคส. และไม่รวมข้าวผิดชนิดที่เป็นประเด็น และไม่มีทางที่บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมให้แก่ความเสียหายในทรัพย์สินที่เจ้าของทุนประกันไม่มีกรรมสิทธิ์

สำหรับค่าความเสียหายซึ่งเรียกร้องจากผู้ประกอบการรายนี้ มูลค่าความเสียหายรวม ณ ปัจจุบันจำนวน 6,248.55 ล้านบาท ได้แก่ 1. อยู่ในการพิจารณาในชั้นศาล 3 คดี เป็นโครงการจำนำข้าวเปลือกนาปี 2556/57 จำนวน 2 คดี มูลค่าความเสียหาย 1,223.95 ล้านบาท และเป็นโครงการแทรกแซงมันสำปะหลัง ปี 2551/52 จำนวน 1 คดี มูลค่าความเสียหาย 50.61 ล้านบาท

2. อยู่ในขั้นตอนของอัยการ 2 คดี เป็นเรื่องการยึดหน่วง (ผิดสัญญาไม่ปล่อยข้าวให้ผู้ชนะการประมูล) ทั้ง 2 คดี มูลค่าความเสียหายรวม 1,333.81 ล้านบาท และเรื่องนี้ อคส.ได้ยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. เป็นการร่วมกันทำให้รัฐเสียหายจากการปลอมเอกสารทางราชการ ทำบันทึกแนบท้ายสัญญา ให้เอกชนได้เปรียบรัฐ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวน

3. อยู่ในขั้นตอนใช้สิทธิติดตามทรัพย์คืน กรณีการปรับปรุงข้าวถุงถูกใจ มูลค่าความเสียหาย 3,640.18 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันเรื่องข้าวถุงถูกใจยังอยู่ในระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. และหากไม่ชดใช้ค่าเสียหาย อคส.จะยื่นเรื่องต่ออัยการเพื่อฟ้องร้องและรวมสำนวนไปยัง ป.ป.ช.อีกวาระหนึ่ง

“จากข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจนว่ารัฐเสียหายจากการทำธุรกรรมกับเจ้าของคลังรายนี้เป็นจำนวนมาก และ อคส.ได้ทวงความยุติธรรมให้แก่รัฐมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นคดีความที่ต้องฟ้องร้องต่อสู้กันในชั้นศาลเพื่อให้ได้ข้อยุติและบังคับคดี” นายเกรียงศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ การแก้ปัญหาการยึดหน่วงที่ผ่านมาประสบความสำเร็จด้วยดี ยกเว้นผู้ประกอบการรายดังกล่าว ทำให้การส่งมอบข้าวให้ผู้ชนะการประมูลล่าช้ากว่าแผน โดยขณะนี้ส่งมอบได้แล้ว 134,005.9 ตัน คิดเป็นร้อยละ 57 ของยอดคงเหลือ ณ 30 ก.ย. 2565 ซึ่งยังคงค้างส่งมอบ 99,135.7 ตัน คิดเป็นร้อยละ 43 ซึ่งในจำนวนนี้เป็นของผู้ประกอบการรายดังกล่าวร่วม 57,000 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของปริมาณข้าวคงเหลือค้างส่งมอบทั้งหมด ทั้งนี้ การแก้ปัญหาการยึดหน่วงดังกล่าวอยู่ระหว่างรอสำนักงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดนนทบุรีสั่งฟ้อง หลังจากนั้นจะขออำนาจศาลคุ้มครองชั่วคราวเพื่อให้การส่งมอบข้าวเสร็จสิ้นและไม่สร้างภาระงบประมาณและความเสียหายเพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้โรงสีใหญ่กำแพงเพชรได้ออกมาระบุว่า ข้าวไฟไหม้และข้าวเน่าคาคลังเป็นของ อคส. เพราะ อคส.ได้เบิกเงินประกันภัยไปแล้วกว่า 10 ล้าน และไม่รู้ว่าค่าเสียหายที่ถูก อคส.ฟ้องร้องจำนวน 6,248.55 ล้านบาทมาจากไหน




กำลังโหลดความคิดเห็น