xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ชวน “เคดันเรน” ลงทุนไทยใช้ประโยชน์ FTA-EEC

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“จุรินทร์” ถก “เคดันเรน” เอกชนยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น เดินหน้าเพิ่มความร่วมมือเศรษฐกิจ ชวนลงทุนในไทยเพิ่ม ใช้ประโยชน์จาก FTA และ EEC และใช้ไทยเป็นแหล่งวัตถุดิบ อาหาร พลังงาน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือกับนายซูซูกิ โยชิฮิสะ และ ดร.ซูซูกิ จุน ประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทย (Japan-Thailand Trade and Economic Committee) ภายใต้สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคดันเรน) และคณะ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา ว่า เคดันเรนได้นำคณะหารือกับตน ในความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นมีความสำคัญอย่างยิ่งทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนกับไทย เพราะญี่ปุ่นมาลงทุนในอาเซียน 14,846 บริษัท มาลงทุนในไทยถึง 6,000 บริษัท ญี่ปุ่นให้ความสำคัญต่อเรามาก และไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อนักลงทุนญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 3 ของไทย รองจากจีนกับสหรัฐฯ ปี 2565 มีมูลค่าการค้าร่วมกันถึง 2 ล้านล้านบาท และไทยส่งออกไปญี่ปุ่นปีที่แล้ว 8.55 แสนล้านบาท ญี่ปุ่นถือเป็นตลาดใหญ่ตลาดหนึ่งของไทย

สำหรับประเด็นที่หารือ คือ ความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี ทั้งภาครัฐและเอกชนของ 2 ฝ่าย โดยระดับทวิภาคี มีกรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ซึ่งเป็นความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายจะใช้ประโยชน์ในการลดภาษี เปิดตลาดการค้าบริการและการลงทุนระหว่างกัน ในระดับพหุภาคี ไทยกับญี่ปุ่นเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งปัจจุบันเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และไทย-ญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าขับเคลื่อน RCEP ด้วยกันให้ได้รับประโยชน์ทางการค้าการลงทุนสูงสุด และมีกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) ซึ่งไทยกับญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนสำคัญ และยังมีเอเปกที่เป็นสมาชิกร่วมกัน

“ได้เชิญญี่ปุ่นมาลงทุนในไทย เพื่อใช้ประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ และยังมี EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) และเขตเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ญี่ปุ่นสามารถเลือกลงทุนในไทยได้ โดยสิทธิพิเศษ BOI (Board of Investment หรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) จะเป็นกลไกหลักให้ความดูแลและสนับสนุน” นายจุรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมองว่าไทยมีศักยภาพในการเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญทางการผลิตและเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตให้กับญี่ปุ่นต่อไปในอนาคตนอกจากจีน ทั้งเรื่องอาหาร อุตสาหกรรมและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยญี่ปุ่นนำเข้าไก่จากไทยอันดับ 1 ปีละกว่าสามแสนตัน รวมทั้งวัตถุดิบชีวภาพเอาไปทำพลังงานในญี่ปุ่น เป็นต้น และจากนี้ญี่ปุ่นจะมาประชุมกับ กกร.ของไทย (คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเอกชนไทยกับญี่ปุ่นต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น