xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยดิ่งแรงปิด -49.18 จุด หวั่น SVB เป็นโดมิโน่ลามแบงก์ไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



หุ้นไทยปิดตลาดร่วงแรง -49.18 จุด โบรกฯชี้ แรงขายนักลงทุนต่างประเทศกดดันตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง จากความกังวล SVB ล้มเป็นโดมิโนลุกลามกระทบสถาบันการเงินไทย แนะนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในคืนนี้ หากออกมาสูงอาจเร่งเฟดขึ้นดอกเบี้ยและอาจส่งผลรุนแรงต่อสภาพคล่องของกลุ่มธนาคารมากขึ้น มองแนวรับวันพรุ่งนี้ที่ 1,517 จุด ซึ่งเคยเป็น Low ต่ำสุดของเดือน ก.ค.65 ส่วนแนวรับถัดไปที่ 1,500 จุด และแนวต้านที่ 1,550 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 14 มีนาคม 2566 ปรับตัวลดลงกว่า -49.18 จุด หรือ -3.13% โดยปิดตลาดที่ 1,523.89 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 103,833.09 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวลดลงอย่างมากตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายในภาคเช้า และลดลงต่อเนื่องตลอดทั้งวันจนกระทั่งปิดตลาด โดยระหว่างวันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,572.36 จุด ในทางกลับกันที่ปรับตัวขึ้นสูงสุด 1,518.66 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 295 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 196 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,554 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +9,770.89 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -4,727.13 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -2,601.72 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2,442.04 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,897.31 ล้านบาท ปิดที่ 126.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
2.SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,101.55 ล้านบาท ปิดที่ 97.50 บาท ลดลง 2.25 บาท
3.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,488.77 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 2.25 บาท
4.PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,329.40 ล้านบาท ปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,959.92 ล้านบาท ปิดที่ 66.25 บาท ลดลง 1.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.JMT ปิดที่ 42.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 2.44%
2.SINGER ปิดที่ 20.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 2.55%
3.JMART ปิดที่ 23.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาทหรือ 2.22%

(เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นดิ่งเหว กระดานแดงเถือก หุ้นกลุ่ม SET100บวกเพียง 3ตัวเท่านั้น)

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 934.00 บาท ลดลง 44.00 บาทหรือ4.50%
2.SCC ปิดที่ 316.00บาท ลดลง 13.00บาทหรือ3.95%
3.EGCO (XD) ปิดที่ 151.00บาท ลดลง 8.00บาทหรือ5.03%
4.BH(XD)ปิดที่ 205.00บาท ลดลง 5.00บาทหรือ2.38%
5.CBG ปิดที่ 95.50บาท ลดลง 4.50บาทหรือ4.50%

ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,045.80 จุด ลดลง -65.53 จุด หรือ -3.10% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 910.71 จุด ลดลง -28.68 จุด หรือ -3.05% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 533.23 จุด ลดลง -10.62 จุด หรือ -1.95%

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดิ่งลงหนักถึง 50 จุดเป็นไปตาม Sentiment ตลาดหุ้นเอเชีย จากนักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายสุทธิหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ จากความกังวลกรณีธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ในสหรัฐล้ม อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคการเงินในเอเชีย และส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

ขณะที่คืนนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ หากออกมาสูงกว่าคาดอาจเป็นตัวเร่งให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ดัชนีมีโอกาสปรับลงต่อหลังหลุดแนวรับสำคัญ 1,550 จุดลงมามาก บวกกับ Sentiment ตลาดยังไม่มีความชัดเจน โดยเฉพาะทิศทางอัตราดอกเบี้ยเฟด จึงต้องไปติดตามกันต่อในการประชุมเฟดวันที่ 22 มี.ค.66 อีกทั้งปัจจุบันทางเทคนิคยังไม่เห็นสัญญาณซื้อด้วย โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,517 จุด ซึ่งเคยเป็น Low ต่ำสุดของเดือนก.ค.65 แนวรับถัดไป 1,500 จุด และแนวต้านที่ 1,550 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น