xs
xsm
sm
md
lg

รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง แบรนด์เล็ก-ใหญ่เปิดใจรับAI

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


แอปบริการส่งของชำของอินสตาคาร์ตที่ใช้ ChatGPT ตอบคำถามลูกค้า
แม้หลายคนไม่ได้ลองใช้เครื่องมือ AI ที่เขียนเรียงความหรือวาดภาพใหม่ตามคำสั่งด้วยตัวเอง แต่มีโอกาสมากที่บริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อำนวยความสะดวกในบ้านอาจเริ่มทำสิ่งนั้นแทนเราแล้ว ทั้งที่รู้ว่าเทคโนโลยีนี้มีความเสี่ยงก็ตาม
แมตเทลใช้ DALL-E ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถสร้างภาพตามคำสั่ง ภายใต้ไอเดียรถของเล่น Hot Wheels หรือรถโมเดลเหล็กที่เป็นที่นิยมของนักสะสมมากมาย

คาร์แม็กซ์ ผู้จำหน่ายรถมือสอง สรุปรีวิวของลูกค้านับพันรายการโดยใช้ generative AI (เทคโนโลยีที่ปรับใช้ข้อความ ไฟล์เสียงและรูปที่มีอยู่แล้วมาสร้างสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมใหม่ที่คล้ายกับรูปแบบของชิ้นงานดั้งเดิม) ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของแชตบอตยอดนิยม ChatGPT

ขณะเดียวกัน สแนปแชตกำลังนำแชตบอตมาใช้กับบริการรับส่งข้อความ และอินสตาคาร์ต บริษัทจัดส่งของชำ ใช้ ChatGPT ตอบคำถามลูกค้าเกี่ยวกับอาหาร
ด้านโคคา-โคลามีแผนใช้ generative AI ช่วยสร้างคอนเทนต์การตลาดใหม่ สะท้อนความกดดันที่ธุรกิจต่างๆ กำลังเผชิญอยู่ในการหันมาลองใช้เทคโนโลยีนี้ที่พนักงานและผู้บริโภคมากมายลองใช้กันแล้ว

เจมส์ ควินซีย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) โคคา-โคลา กล่าวในวิดีโองานแถลงข่าวการร่วมมือกับ OpenAI ผู้พัฒนาทั้ง DALL-E และ ChatGPT ผ่านโครงการพันธมิตรที่นำโดยบริษัทที่ปรึกษา เบน ว่า โคคา-โคลาต้องยอมรับความเสี่ยงอย่างฉลาด ทดลอง และสร้างสรรค์จากการทดลองเหล่านั้น ไม่ใช่ยอมรับความเสี่ยงที่เริ่มต้นจากความสิ้นหวัง
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI บางคนเตือนว่า ธุรกิจควรพิจารณาแนวโน้มอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับลูกค้า สังคม และชื่อเสียงของตัวเองอย่างรอบคอบก่อนอ้าแขนรับ ChatGPT และผลิตภัณฑ์คล้ายกันเข้าสู่สถานที่ทำงาน

แคลร์ ไลโบวิก จากเดอะ พาร์ตเนอร์ชิป ออน เอไอ ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีชั้นนำที่เมื่อเร็วๆ นี้ออกข้อเสนอแนะสำหรับบริษัทที่ผลิตภาพ เสียง และสื่ออื่นๆ ด้วยเทคโนโลยี AI บอกว่า อยากให้คิดกันให้ลึกซึ้งก่อนนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ เช่น ต้องการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใดตั้งแต่แรก

แต่บริษัทบางแห่งก็ทดลองใช้ AI มาระยะหนึ่งแล้ว เช่น แมตเทลที่เผยว่า ใช้ฟังก์ชันการสร้างภาพของ OpenAI มาตั้งแต่เดือนตุลาคมในฐานะลูกค้าของไมโครซอฟท์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับ OpenAI ที่ทำให้สามารถรวมเทคโนโลยีของ OpenAI ในแพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวติ้งของตัวเอง

เครื่องมือ generative AI เพิ่งได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางและแทรกซึมเข้าสู่บ้าน สถานที่ทำงาน และห้องประชุมผู้บริหาร หลังจาก OpenAI เปิดตัว ChatGPT ในรูปเครื่องมือสาธารณะฟรีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้โปรแกรมสร้างข้อความอย่าง ChatGPT และ Bing แชตบอตของไมโครซอฟท์สามารถเขียนอีเมล นำเสนอแผนงานการตลาดได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่เทคโนโลยีเหล่านี้มีแนวโน้มนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้องโดยมั่นใจว่าเป็นข้อเท็จจริง ขณะที่โปรแกรมสร้างภาพที่ได้รับการฝึกฝนกับงานศิลปะดิจิตอลและภาพถ่ายจำนวนมาก อาจทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับลิขสิทธิ์จากผู้สร้างผลงานต้นฉบับ

แอนนา เกรสเซล ทนายความจากบริษัทกฎหมาย เดเบวอยส์ แอนด์ พลิมป์ตัน ที่ให้คำปรึกษาธุรกิจเกี่ยวกับวิธีใช้ AI บอกว่า ถ้าบริษัทในอุตสาหกรรมครีเอทีฟอยากมั่นใจว่า ผลงานของตนที่สร้างจาก AI ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ ต้องใช้เครื่องมือเหล่านั้นเป็นหุ้นส่วนระดมความคิดที่ไม่สามารถผลิตงานขั้นสุดท้ายได้ แต่ทำได้แค่ช่วยสร้างแบบจำลองเพื่อให้คนนำมาต่อยอดให้มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น

วิธีการดังกล่าวยังช่วยให้มั่นใจว่า คนจะไม่ถูกแทนที่ด้วย AI โรแวน เคอร์แรน นักวิเคราะห์ของฟอร์เรสเตอร์ สำทับว่า AI ควรช่วยเร่งรัดงานบางอย่างในออฟฟิศที่มีรายละเอียดปลีกย่อยสำคัญเหมือนที่นวัตกรรมก่อนหน้านี้อย่างเช่น โปรแกรมเวิร์ดโปรเซสเซอร์และโปรแกรมตรวจการสะกดคำเคยทำมาก่อน แทนที่จะทำให้คนตกงานเหมือนที่บางคนกลัว
กำลังโหลดความคิดเห็น