xs
xsm
sm
md
lg

“แกร็บ” อ่วมขาดทุนร่วม 6 หมื่นล้าน เร่งแก้เกม-ลุย B2B มาร์จิ้นสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้จัดการรายวัน 360 - Grab Holdings แก้เกมขาดทุนร่วม 60,000 ล้านบาท ปักธงพ้นน้ำภายในสิ้นปีนี้ เผย 10 ปีแกร็บไทยโตจริง แต่ขาดทุน ลั่นปีนี้ต้องมีกำไรด้วยแผน “เติบโตธุรกิจอย่างยั่งยืน” ด้วย 2 กลยุทธ์ “Power of Superapp” และ “Operational Efficiency” เชื่อมโยงและผสานการทำงานของทุกธุรกิจภายในอีโคซิสเต็ม เพื่อขับเคลื่อน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ บริการการเดินทาง บริการดีลิเวอรี บริการทางการเงิน และบริการสำหรับองค์กร

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า แกร็บดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลา 10 ปี ที่ผ่านมาขาดทุนต่อเนื่อง เพราะมุ่งแต่ทำโปรโมชัน โดยเฉพาะในส่วนของดีลิเวอรี ส่งผลให้ปี 2566 นี้ตามแผนของ Grab Holdings (ครอบคลุม 8 ประเทศในภูมิภาค SEA) ต้องมีกำไร ด้วยแผนการเติบโตแบบยั่งยืน ต้องโตได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหากรายได้ของแกร็บไทยมีกำไรก็จะส่งผลให้ภาพรวมของ Grab Holdings กลับมามีกำไรเป็นปีแรกด้วยเช่นกัน จากตัวเลขปี 2565 ที่ผ่านมา Grab Holdings ขาดทุนถึง 1.7 พันล้านยูเอส หรือราว 60,000 ล้านบาท
 
ดังนั้นแผนการดำเนินงานในปี 2566 นี้จะเดินหน้าสานต่อพันธกิจ GrabForGood เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยจะเน้นไปที่ 2 กลยุทธ์สำคัญ คือ 1. Power of Superapp ที่มุ่งผสานความร่วมมือและการทำงานของทุกธุรกิจในอีโคซิสเต็มของแกร็บให้เกิด Synergy และเอื้อประโยชน์ต่อกัน และ 2. Operational Efficiency ที่จะดึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในทุกกระบวนการทำงานของแกร็บ เพื่อขับเคลื่อน  4 กลุ่มธุรกิจหลัก
 


สำหรับแผนที่จะขับเคลื่อน 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย

1. บริการการเดินทาง (Mobility) เน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ ยกระดับมาตรฐานเสริมความเชื่อมั่นในการใช้บริการ, รุกตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยกระดับบริการรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ, เจาะตลาดพรีเมียม เตรียมส่งแคมเปญพิเศษเจาะตลาดกลุ่มนี้ พร้อมเพิ่มจำนวนพาร์ตเนอร์คนขับที่ให้บริการเรียกรถด้วยรถยนต์ไฟฟ้า

2. บริการดีลิเวอรี (Deliveries) ตอกย้ำในด้านคุณภาพ (Quality) ของทั้งร้านอาหารบนแพลตฟอร์มและการให้บริการ ชูโรงซับแบรนด์ #GrabThumbsUp ที่คัดสรรและรวบรวมร้านอร่อยชื่อดังจากทั่วประเทศมาสร้างประสบการณ์ความอร่อย, เพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งอาหารและสินค้า (Efficiency) ด้วยเทคโนโลยีและระบบบริหารจัดการต่างๆ เพิ่มความแม่นยำ และลดเวลาในการจัดส่งสินค้า, เน้นสร้างฐานสมาชิกและความภักดีของผู้ใช้บริการ (Loyalty) ผ่านแพกเกจสมาชิก GrabUnlimited

3. บริการทางการเงิน (Financial Services) มุ่งส่งเสริมโอกาสทางการเงินให้แก่พาร์ตเนอร์คนขับ-ร้านค้า ขยายวงเงินสินเชื่อสำหรับพาร์ตเนอร์ร้านค้าสูงสุดถึง 500,000 บาท รวมไปถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยสำหรับบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน

4. บริการสำหรับองค์กร (Enterprise) ผลักดันบริการซูเปอร์แอปสู่ภาคธุรกิจ ผ่าน Grab for Business โซลูชันที่จะช่วยบริหารจัดการทุกบริการของแกร็บสำหรับลูกค้าองค์กร และ GrabAds สื่อโฆษณาช่วยให้นักการตลาดสามารถเจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภค และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมายและแม่นยำ


“ที่ผ่านมาแกร็บจะให้บริการใน 3 ธุรกิจ คือ Mobility, Deliveries และ Financial ปีนี้จะเพิ่มในส่วนของ Enterprise หรือธุรกิจในรูปแบบ B2B ประกอบด้วย Grab for Business และ GrabAds ซึ่งมองว่าจะเป็นธุรกิจใหม่ที่จะมาช่วยเสริมให้แกร็บเติบโตอย่างยั่งยืนได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้เป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับ 3 ธุรกิจเดิม” นายวรฉัตรกล่าว สำหรับแผนกลยุทธ์ธุรกิจในระยะยาวนั้น แกร็บ ประเทศไทย มุ่งขับเคลื่อนองค์กรและสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาใช้ภายใต้แนวคิด ‘Building Sustainable Growth through Innovation’ ซึ่งจะครอบคลุมการพัฒนาใน 3 ประเด็นหลัก อันได้แก่

1. สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่ทุกคนในอีโคซิสเต็ม ซึ่งไม่ใช่เพียงการสร้างผลกำไรของบริษัทฯ แต่จะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้ทั้งพาร์ตเนอร์คนขับ พาร์ตเนอร์ร้านค้า ผู้ใช้บริการ รวมถึงสังคมโดยรวม

2. ร่วมผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า โดยมุ่งส่งเสริมรูปแบบการทำงานของโลกยุคใหม่ การเข้าถึงและใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการสร้างความยั่งยืนให้แก่สิ่งแวดล้อม

3. สร้างความเชื่อมั่นสู่การเป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจทุกคน โดยเริ่มตั้งแต่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีให้แก่พนักงาน การปลูกฝังเรื่องธรรมาภิบาล พร้อมปั้นทรัพยากรบุคคลให้กลายเป็นผู้นำที่มีคุณภาพเพื่อพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น