น้ำผลไม้ดื่มได้ กินได้ โดนใจ นทท.จีน เมนูน้ำปั่นเสิร์ฟข้าวเหนียวมะม่วง ยอดขายหลายแสนบาทต่อเดือน

Mojito & Smoothies ร้านน้ำผลไม้ปั่นตามฤดูกาล ที่แตกต่างจากร้านน้ำผลไม้ปั่นทั่วไป เพราะทางร้านจัดเสิร์ฟน้ำผลไม้ปั่นมาพร้อมกับผลไม้สดที่พร้อมรับประทานด้านบนแก้ว หลายคนรู้จักเรียกร้านนี้ว่าน้ำผลไม้ทูอินวัน ดื่มได้ กินได้ และเมนูสร้างความฮือฮาและโดนใจนักท่องเที่ยวชาวจีน นั่นคือ เมนูข้าวเหนียวมะม่วง ที่ทางร้านจัดเสิร์ฟน้ำมะม่วงปั่นมาพร้อมกับข้าวเหนียวมะม่วง ด้วยภาชนะหรือแก้วที่ออกแบบมาพิเศษให้ด้านบนสามารถเสิร์ฟข้าวเหนียวมะม่วงไปด้วย


ขายน้ำปั่นคู่แข่งเพียบ คิดไอเดียสิร์ฟพร้อมผลไม้สดๆ ยอดขายปังวันแรก

สำหรับ ร้านน้ำผลไม้ปั่น ชื่อว่า Mojito & Smoothies เป็นหนึ่งในร้านของ 1958 Cafe' Dessert & Drinks ของ “นางสาวสรสิชา พวงสุวรรณ” เปิดร้านน้ำผลไม้ปั่นตามฤดูกาล อยู่ที่ตลาดนัดไนท์มาร์เก็ต จ๊อดแฟร์ หลังห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 9 ตลาดนัดกลางคืนที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ เพราะด้วยทำเลใจกลางเมือง และได้รวบรวมร้านอาหารอร่อย และน่าสนใจด้วยรูปแบบที่โดนใจคนที่ชื่นชอบกินอาหารที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครแบบชิคๆ คูลๆ เอาไว้เป็นจำนวนมากโดนใจทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และหนึ่งในนั้น คือ ร้านน้ำผลไม้ปั่น Mojito & Smoothies ที่ใครก็ต้องมาเช็คอิน และถ่ายรูปไปอวดกันในโลกโซเชียลฯ เพราะด้วยหน้าตาที่ทางร้านตั้งใจทำให้ดูน่ารับประทาน บวกกับไอเดียที่ยังไม่มีร้านไหนทำมาก่อน


ทั้งนี้ ไอเดียที่ดูง่าย แต่สามารถเรียกเรตติ้ง จนทางร้านไม่ต้องทำประชาสัมพันธ์อะไร เพราะลูกค้าพร้อมจะถ่ายรูปและนำไปโพสต์อวดเพื่อนๆ กันบนโลกโซเชียลฯ เห็นกันแค่หน้าตาก็ยอมควักกระเป๋าจ่าย โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะอร่อยถูกปากหรือเปล่า และการจัดรูปร่างหน้าตาสินค้าให้ดูดีเป็นกลยุทธ์การตลาด ที่ปัจจุบันเหล่าพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดต่างงัดกันออกมาใช้ และก็ไม่ผิดหวัง หลายร้านได้รับความนิยมภายในระยะเวลาเพียงข้ามคืน แต่ร้านไหนทำรสชาติโดนใจนักชิมชาวโซเชียลฯ ก็ต้องลุ้นกันอีกที แต่ร้านนี้ไม่ต้องลุ้น เพราะลูกค้านักท่องเที่ยวชาวจีน ต่อคิวกันซื้อเมนูน้ำมะม่วงปั่นแบบไม่ขาดสาย


ข้าวเหนียวมะม่วงเป็นเหตุ ที่มาของน้ำผลไม้ปั่นดื่มได้ กินได้

นางสาวสรสิชา เล่าว่า ตนเองได้เปิดร้านน้ำผลไม้ปั่น Mojito & Smoothies ที่ จ๊อดแฟร์ตลาดไนท์มาร์เก็ตมาได้ประมาณ 1 ปี ส่วนไอเดียการเสิร์ฟผลไม้สดไปพร้อมกับน้ำผลไม้ปั่น มาจากจุดเริ่มต้น เมนูข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งที่ตลาดนัด จ๊อดแฟร์ มีนักท่องเที่ยวจีนเดินชอปปิ้งกันเป็นจำนวนมาก และเมนูยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน คือ ข้าวเหนียวมะม่วง เราก็เลยเกิดไอเดียอยากจะขายข้าวเหนียวมะม่วงบ้าง แต่ที่ร้านขายน้ำผลไม้ปั่นจะขายข้าวเหนียวมะม่วงยังไง ซึ่งปกติเมนูหลักของทางร้านคือ มะม่วงน้ำดอกไม้ปั่น


ครั้นจะเอาข้าวเหนียวมะม่วงมาทำน้ำปั่น รสชาติน่าจะแปลกๆไม่โดนใจลูกค้าแน่นอน ถ้าอย่างนั้น ก็ขายน้ำมะม่วงปั่นเหมือนเดิม แต่แยกข้าวเหนียวมะม่วงให้กินคู่กับน้ำมะม่วงปั่นของเรา โดยการออกแบบภาชนะให้ข้าวเหนียวมะม่วงสามารถเดินกินคู่กับน้ำผลไม้ปั่นของเราได้ และเราก็ไม่ได้ขายเหมือนร้านอื่นๆ แต่สามารถขายได้ทั้งน้ำผลไม้ปั่นและข้าวเหนียวมะม่วงไปพร้อมๆ กัน

หลังจากได้ไอเดียจากข้าวเหนียวมะม่วงเสิร์ฟคู่กับน้ำมะม่วงปั่นแล้ว ก็ตามมาด้วยเมนูผลไม้ปั่นอื่น เช่น สตรอว์เบอร์รี่ปั่น แตงโม สับปะรด และผลไม้ตามฤดูกาลอื่นๆ แต่ช่วงนี้ ก็จะเน้นไปที่มะม่วงน้ำดอกไม้ปั่นพร้อมกับเสิร์ฟมะม่วงไปให้กินข้างแก้วอีกครึ่งลูก เนื่องจากขายผลไม้ตามฤดูกาล ช่วงไหนมีผลไม้อะไรออกมานำมาทำน้ำปั่น ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะเอาแต่เฉพาะน้ำผลไม้ปั่นไปดื่มอย่างเดียวก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเอาผลไม้สดด้วย ส่วนราคาน้ำผลไม้ขายพ่วงผลไม้ด้วย เริ่มที่ 70 บาท 80 บาท 90 บาท ราคาขึ้นอยู่กับชนิดของผลไม้ และถ้าเป็นเมนูข้าวเหนียวมะม่วงราคา 120 บาท


ยอดขายวันละ 200-300 แก้ว รายได้หลักหมื่นบาทต่อวัน

สำหรับยอดขายของร้าน Mojito & Smoothies ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะเฉลี่ยต่อวันไม่ต่ำกว่า 200 แก้ว รูปร่างหน้าตาที่สวย ชวนให้ยากซื้อ และยากถ่ายรูป ช่วยดันยอดขายได้ดี บวกกับรสชาติที่เจ้าของใส่ใจทุกขั้นตอน ทำให้บางวันสามารถขายได้มากถึง 300 แก้ว และลูกค้าส่วนใหญ่ เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นๆ รวมถึงคนไทยเองก็ชื่นชอบ เจ้าของร้าน บอกว่า ทางร้านให้ความสำคัญกับการเลือกผลไม้ที่นำมาใช้ เพราะน้ำผลไม้ปั่น ถึงสูตรน้ำปั่นจะดีอย่างไร แต่ถ้าผลไม้ไม่สด และรสชาติจะดีได้อย่างไร


สรสิชา เล่าว่า เธอขายน้ำผลไม้ปั่น มากว่า 10 ปี แล้ว หลังจากที่ออกจากงาน มาเปิดร้านขาย น้ำปั่น Smoothies เดิมขายตลาดนัดรถไฟรัชดา ตอนนั้นขายดีมีรายได้เดือนหนึ่ง 50,000-100,000 บาท แต่พอเจอโควิด ก็ต้องหยุดขายไปเพราะตลาดปิด คนเดินไม่มี ก็เลยปิดร้านไปประมาณ 2-3 ปี หันไปทำเบอเกอรี่ขายช่องทางออนไลน์ พอขายได้ มีรายได้เข้ามาพอที่จะอยู่ได้ และพอเจ้าของตลาดนัดรถไฟรัชดา กลับมาเปิดครั้งนี้ ก็เลยมาขอพื้นที่ขาย เราเคยขายมาก่อน ทางเจ้าของตลาดให้เราในมุมทางเข้าตลาด ซึ่งเป็นทำเลที่ดีมาก คนเดินเยอะ ลูกค้าเยอะ ทุกวันนี้ มีรายได้ จากการขายน้ำปั่น หลักแสนบาทต่อเดือน เฉลี่ยรายได้วันละ 20,000-30,000 บาท ต่อเดือน 4-5 แสนบาท


ถ้าไม่กล้าออกนอกรอบ ไม่มีโอกาสจับเงินล้าน

โดยหลังจากเปิดขายน้ำผลไม้ปั่นมาได้เพียงเดือนเดียวก็สามารถคืนทุน แล้ว ทั้งค่าเช่า และค่าอุปกรณ์ ทุกวันรายได้จากการขายน้ำปั่นสามารถดูแลครอบครัวได้ และได้เตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก โดยได้เปิดสาขาที่ 2 ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ตลาดนัดจ๊อดแฟร์แห่งที่ 2 และมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก เพราะมีคนมาถามขอซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งถ้าทุกอย่างลงตัวน่าจะสามารถขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์เพิ่มได้อีก หรือ ใครที่สนใจเรียนทำน้ำปั่น ก็ยินดีที่จะเปิดสอนให้ด้วย


ท้ายสุดนี้ ทาง เจ้าของน้ำปั่น เงินล้าน ถ่ายทอดประสบการณ์ความสำเร็จ ส่วนหนึ่งมาจากความตั้งใจและมุ่งมั่นจะทำออกมาให้ดีที่สุด และถ้าวันนั้นไม่กล้าเดินออกจากกรอบคิดมาสร้างธุรกิจ การทำงานประจำก็คงไม่สามารถทำให้เราสร้างเงินแสน เงินล้าน เพื่อมาดูแลครอบครัวได้ หรือ มีเงินเก็บมาใช้ในยามฉุกเฉินได้ แม้ในช่วงโควิดวิกฤตที่ไม่สามารถหาเงินได้  แต่เราก็ยังพอจะมีเงินเก็บที่นำมาใช้ยามฉุกเฉินได้ อย่างไรก็ดี ช่วงโควิดมองวิกฤตคือโอกาส เพราะยังพอจะยังสามารถหาเงินได้ เพียงแค่คิดจะลงมือทำมัน  แม้จะไม่มากเท่ากับช่วงปกติ แต่กลับกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางใหม่ๆในการหาเงินมาเพิ่ม จริงๆแล้วช่องทางการเงินมันอยู่ทุกที เพียงแค่เราลงมือทำ และทำอย่างตั้งใจ เราจะมีเงินและกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านได้เช่นกัน 

ติดต่อ FB: 1958 Cafe' Dessert & Drinks

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด