xs
xsm
sm
md
lg

“สยามคูโบต้า” ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 7% อยู่ที่ 6.7 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“สยามคูโบต้า” ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 6.7 หมื่นล้านบาท โตขึ้น 7% จากปีก่อนที่มียอดขาย 6.3 หมื่นล้านบาท หลังรัฐส่งเสริมการทำเกษตรสมัยใหม่ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาบริหารจัดการ ทำให้ภาพรวมตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรโตขึ้น
 
นายจูนจิ  โอตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2566 สยามคูโบต้าได้ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ 67,000 ล้านบาท ซึ่งจะเติบโตเพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 63,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนในประเทศ 60% ต่างประเทศ 40% สืบเนื่องจากนโยบายจากภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการทำเกษตรสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต รวมทั้งการออกสินค้ารุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งทางเทคโนโลยีและเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและสังคม


“จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากภาวะโลกร้อนในขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบรุนแรงต่อผลผลิตอาหารทั่วโลก และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามร่วมแก้ไขปัญหา สยามคูโบต้าดำเนินตามนโยบาย Global Major Brand (GMB) คูโบต้าคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตรสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยตั้งเป้าให้การสนับสนุนภาคเกษตรของไทย ในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทัดเทียมกับนานาประเทศในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า บริษัทคู่ค้าทางธุรกิจ ตลอดจนพนักงาน พร้อมเร่งสนับสนุนภาคเกษตรไทยให้เป็น Net Zero ในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ” นายจูนจิ โอตะ กล่าว


นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์ภาคการเกษตรของไทยในปีที่ผ่านมาว่า สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยส่งผลให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกและทำการผลิตมากขึ้น อีกทั้งราคาผลผลิตอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรสนใจซื้อเครื่องจักรสำหรับเพาะปลูกและบำรุงดูแลรักษามากขึ้น รวมถึงสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลาย ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว

นอกจากนี้ นโยบายของภาครัฐมีการส่งเสริมยกระดับเกษตรกรไทยสนับสนุน Smart Farming ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาบริหารจัดการ จึงทำให้ภาพรวมของตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยเพิ่มขึ้น 11% และ GDP ภาคการเกษตรมีการขยายตัว 2.5% ในขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรในกัมพูชา และ สปป.ลาว ก็เติบโตเพิ่มขึ้น 8% อันเป็นผลจากรัฐบาลส่งเสริมการผลิตพืชผลการเกษตรเพื่อส่งออกมากขึ้น

สยามคูโบต้าจึงได้กำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2566 เพื่อมุ่งพัฒนาสินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มพืช, ขยายธุรกิจบริการด้านนวัตกรรมการเกษตรยุคใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า โดยร่วมมือกับ บริษัท เกษตรอินโน จำกัด และกลุ่ม Startup มหาวิทยาลัย ตลอดจนภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งขยายตลาดใหม่และร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาภาคการเกษตรให้ยั่งยืน มุ่งพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนด้วยนโยบาย ESG และ Net Zero Emission


นายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ กล่าวว่า เทรนด์การเกษตรสมัยใหม่มีการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำเกษตรมีประสิทธิภาพดีและสะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้สยามคูโบต้าเตรียมรุกตลาดภายใต้ 2 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1. กลยุทธ์เน้นขยายตลาดใหม่ คือ กลุ่ม Non Farmer (เกษตรกรมือใหม่) เจาะกลุ่มผู้ที่กำลังเริ่มต้นสนใจการเกษตรได้ทดลองใช้งานเครื่องจักรฯ กลุ่มพืชมูลค่าสูง (High Value Crop) นำเสนอประสิทธิภาพในรูปแบบทำน้อยแต่ได้มาก รองรับการขยายตัวของกลุ่มพืชที่สูงถึง 16% และ 2. กลยุทธ์สร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนเกษตรกร ส่งเสริมให้เกิดเป็น Smart Farmer ที่เข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตรได้อย่างทั่วถึงทดแทนการใช้แรงงาน ภายใต้โครงการ “คูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ” ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนไปแล้ว 168 กลุ่ม และเปิดโอกาสให้สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการเกษตร และการบริหารจัดการเครื่องจักรฯ การนำไปรับจ้างเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน
กำลังโหลดความคิดเห็น