เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ผู้ประกอบการเดินรถโดยสารประจำทาง ได้ร่วมกับ บริษัท ไวเพย์ จำกัด ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์น้องใหม่ ผ่านแอปพลิเคชัน Wi Wallet ได้ร่วมกันออกบัตรพรีเพดการ์ดที่ชื่อว่า "บัตร บขส. Wi Wallet VISA" ซึ่งเป็นบัตรสมาชิก บขส. รุ่นใหม่ เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับผู้โดยสาร
สิทธิประโยชน์หลัก รับส่วนลดค่าตั๋วโดยสาร 5% เมื่อซื้อตั๋วโดยสารผ่านทางเว็บไซต์ https://tcl99web.transport.co.th พร้อมรับส่วนลดหรือเงินคืนกับร้านค้าที่ร่วมรายการ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ตามร้านค้าต่างๆ ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ รวมถึงรถเมล์ของ ขสมก. รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง และรถไฟฟ้า SRT สายสีแดง เป็นต้น
บัตรดังกล่าวจะผูกกับแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Wi Wallet ดาวน์โหลดได้ที่ App Store และ Google Play Store แล้วสร้างบัญชีใหม่ ใช้เบอร์มือถือ บัตรประชาชน ถ่ายเซลฟี่ยืนยันตัวตน จากนั้นให้เติมเงินก่อนใช้บัตร ขั้นต่ำ 100 บาท สูงสุด 49,999 บาทต่อรายการ ผ่านแอปฯ SCB Easy, K PLUS, Bangkok Bank Mobile Banking, KMA, Krungthai NEXT และ ttb touch
ขณะนี้เปิดให้ประชาชนที่สนใจสมัครบัตรได้ฟรี โดยไม่ต้องใช้เอกสารสมัครใดๆ ที่เว็บไซต์ https://transport-visa-card-web.wipay.tech กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน จากนั้นรอรับอีเมลแจ้งการจัดส่งบัตรไว วอลเล็ท บขส. วีซ่า แล้วรอรับบัตรส่งทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในขั้นตอนการลงทะเบียน ภายใน 5-7 วันทำการ แล้วเปิดบัตรผ่านแอปพลิเคชัน Wi Wallet
สำหรับบัตร บขส. Wi Wallet VISA เป็นบัตรเติมเงิน (Prepaid Card) หน้าบัตรเป็นรูปการ์ตูนรถบัส 99 และมีโลโก้ Wi Wallet อยู่ด้านบน ด้านหลังจะระบุข้อมูลบัตร โดยบัตรใบนี้มีอายุการใช้งาน 5 ปี ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี ผู้ใช้ต้องทำการเติมเงินก่อนใช้จ่ายผ่านบัตร ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้ สามารถรูด แตะ จ่าย ที่เครื่องรับชำระ (EDC) ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA
การจองซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์ บขส. ให้เข้าไปที่ https://tcl99web.transport.co.th/Home ระบุรหัสผู้ใช้และรหัสผ่านตามอีเมลที่ส่งไป จากนั้นค้นหาเที่ยวรถ และเลือกเที่ยวรถ กรอกรายละเอียดแบบฟอร์ม การจองตั๋วรถ แล้วทำการชำระเงินโดยใช้บัตร บขส. Wi Wallet VISA จากนั้นให้พิมพ์ตั๋วผ่านเว็บไซต์ด้วยตนเอง และเดินทางตามกำหนดการ
บัตรนี้สามารถเปิด-ปิดบัตรด้วยตัวเองผ่านแอปฯ Wi Wallet ในเมนู "บัตรของฉัน" สามารถแสดงข้อมูลบัตรเพื่อใช้แทนบัตรพลาสติกได้ โดยต้องมียอดเงินคงเหลือ 50 บาทขึ้นไป สามารถซื้อสินค้าและชำระค่าบริการออนไลน์ทั้งไทยและต่างประเทศ แต่ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนสกุลเงินสำหรับการชำระเงินที่ร้านค้าหรือเว็บไซต์ต่างประเทศเท่ากับ 3.5% ของราคาสินค้าและบริการ
ส่วนการเติมเงิน หากเติมเงินผ่านแอปฯ ธนาคารโดยตรงจะไม่มีค่าธรรมเนียม แต่มีข้อควรระวังก็คือ หากใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ด PromptPay QR เพื่อรับเงิน กรณีรับเงินโอนจากบัญชีที่ไม่ใช่ Wi Wallet จะคิดค่าธรรมเนียม 2.5% จากยอดโอน ขั้นต่ำ 5 บาท สูงสุด 15 บาท เพื่อไม่ให้ถูกหักค่าธรรมเนียม แนะนำเติมเงินผ่านแอปฯ ธนาคารตามที่ไวเพย์กำหนดจะดีกว่า
กรณีที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานบริการลูกค้าได้ที่หมายเลข 02-0266679 หรือ แอดไลน์ @wi_wallet ตั้งแต่เวลา 09.00 - 24.00 ทุกวันจันทร์-วันอาทิตย์
ก่อนหน้านี้ บขส. ได้จัดทำระบบสมาชิกมาตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้โดยสารที่มีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ผ่านช่องทางจุดจำหน่ายตั๋ว ของสถานีเดินรถ บขส.ทุกแห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สมาชิกจะได้สิทธิส่วนลด 5% จากราคาหน้าตั๋วโดยสารสำหรับการเดินทางกับรถโดยสารของ บขส. ทุกมาตรฐาน ทุกเส้นทาง ยกเว้นเส้นทางระหว่างประเทศ
การที่ บขส. ร่วมมือกับไวเพย์ ผู้ให้บริการอี-วอลเลตน้องใหม่ครั้งนี้ นอกจากไวเพย์จะได้ขยายฐานลูกค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการใช้ระบบ EMV กับการคมนาคมขนส่งอีกทางหนึ่ง เพราะสามารถใช้บัตรได้กับระบบขนส่งมวลชนอย่างรถเมล์ ขสมก. รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง และรถไฟฟ้าสายสีแดง รวมทั้งทางพิเศษที่มีเครื่อง EDC
ถือเป็นบัตรพรีเพดการ์ดที่สมัครฟรี ส่งบัตรฟรีทางไปรษณีย์ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี อีกใบหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้โดยสารที่ใช้บริการรถโดยสารประจำทาง บขส. เป็นประจำ
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค พบกับคอลัมน์ Ibusiness review เป็นประจำทุกเช้ามืดวันพุธ ทางเว็บไซต์ ibusiness.co และเฟซบุ๊ก Ibusiness)
