xs
xsm
sm
md
lg

AIฉลาดล้ำทำคนตกงาน?!? เปิดลิสต์อาชีพสุ่มเสี่ยงจากChatGPT

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


เทคโนโลยี AI สุดล้ำอย่าง ChatGPT อาจเป็นอันตรายต่อบางอาชีพ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ ChatGPT แชตบอตที่อายุแค่ไม่กี่เดือน สามารถสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลกธุรกิจ และอาจเป็นภัยคุกคามต่อบางอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนทำงานออฟฟิศ
นับจากเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ChatGPT ของ OpenAI กลายเป็นผู้ช่วยเขียนจดหมายสมัครงาน ผลิตหนังสือเด็ก เขียนบทความ ช่วยพ่อแม่เขียนเรียงความแทนลูก คิดมุกตลก และอีกมากมาย

วันพุธที่ผ่านมา (1) ยูบีเอสได้เปิดเผยรายงานที่อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์ Similarweb ที่ระบุว่า แชตบอตยอดนิยม ChatGPT อาจมียอดผู้ใช้ที่ใช้งานจริงถึง 100 ล้านรายในเดือนมกราคม และถือเป็นแอปสำหรับผู้บริโภคที่โตเร็วที่สุด ขณะที่ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ ทาวเวอร์ระบุว่า ติ๊กต็อกต้องใช้เวลาถึง 9 เดือนกว่าจะมียอดผู้ใช้แตะ 100 ล้านราย และ 2 ปีครึ่งสำหรับอินสตาแกรม

ChatGPT อาจทรงพลังกว่าที่หลายคนจินตนาการ โดยกูเกิลพบว่า ในทางทฤษฎีนั้น ถ้า ChatGPT มาสอบสัมภาษณ์ บริษัทอาจรับเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานเขียนโค้ดมือใหม่

ขณะเดียวกัน พนักงานแอมะซอนที่ทดลองใช้ ChatGPT บอกว่า แชตบอตนี้ “ทำงานดีมาก” ในการตอบคำถามลูกค้าเกี่ยวกับการสนับสนุน “ยอดเยี่ยม” สำหรับการจัดทำเอกสารฝึกอบรม และ “สตรองมาก” ในการตอบคำถามเกี่ยวกับกลยุทธ์องค์กร

อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเคยออกรายงานฉบับหนึ่งที่ระบุว่า AI หรือปัญญาประดิษฐ์ อาจทำให้ตำแหน่งงาน 47% ในอเมริกาหายไปภายใน 20 ปี และล่าสุด บิสเนส อินไซเดอร์ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญและทำการวิจัย ซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นรายชื่องานที่มีความเสี่ยงที่สุดที่อาจถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี AI อย่าง ChatGPT ที่ยกมาเป็นตัวอย่างบางส่วนดังต่อไปนี้

งานด้านเทคโนโลยี (พนักงานเขียนโค้ด โปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ วิศวกรซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล)

การเขียนโค้ดและโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการ แต่ ChatGPT และเครื่องมือ AI ที่คล้ายกันอาจเติมเต็มช่องว่างนี้ได้ในอนาคตอันใกล้
อานู แมดกาฟคาร์ หุ้นส่วนของแมคคินซีย์ โกลบัล อินสติติวต์ มองว่า งานด้านเทคโนโลยี เช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์ นักพัฒนาเว็บ โปรแกรมเมอร์คอมพิวเตอร์ พนักงานเขียนโค้ด และนักวิจัยข้อมูล เป็นงานที่เทคโนโลยี AI ซึ่งเชี่ยวชาญการคำนวณที่ซับซ้อนสามารถทำได้อย่างง่ายดาย

มาร์ก มูโร นักวิชาการอาวุโสของสถาบันบรูคกิ้งส์ที่ทำการวิจัยผลกระทบจาก AI ต่อแรงงานอเมริกัน ขานรับว่า เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง ChatGPT สามารถเขียนโค้ดได้เร็วกว่ามนุษย์ เท่ากับว่า งานดังกล่าวลุล่วงได้โดยใช้พนักงานน้อยลง
ปัจจุบัน บริษัทเทคโนโลยีบางแห่ง เช่น OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT กำลังพิจารณาใช้ AI แทนวิศวกรซอฟต์แวร์

อย่างไรก็ตาม โอเด็ต เน็ตเซอร์ ศาสตราจารย์จากโคลัมเบีย บิสเนส สกูล คิดว่า AI จะเป็นผู้ช่วยมากกว่ามาแทนที่พนักงานเขียนโค้ด
งานด้านสื่อ (โฆษณา ผลิตเนื้อหา งานเขียนด้านเทคนิค สื่อสารมวลชน)

แมดกาฟคาร์บอกว่า งานด้านสื่อทั้งหมดอาจได้รับผลกระทบจาก ChatGPT และ AI รูปแบบคล้ายกัน เนื่องจาก AI สามารถอ่าน เขียน และเข้าใจข้อมูลในรูปข้อความ รวมทั้งสามารถวิเคราะห์และตีความข้อมูลจำนวนมาก
พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ระบุในบทความพิเศษของนิวยอร์ก ไทมส์ว่า ChatGPT อาจทำงาน เช่น รายงานข่าวและเขียนข่าวได้ดีกว่ามนุษย์

นอกจากนั้น อุตสาหกรรมสื่อยังเริ่มทดสอบเนื้อหาที่สร้างโดย AI เช่น เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี CNET ใช้เครื่องมือ AI ที่คล้ายกับ ChatGPT เขียนบทความออกมานับสิบชิ้น แม้ต้องมีการแก้บ้างก็ตาม และ BuzzFeed ประกาศว่า จะใช้เทคโนโลยีจากผู้พัฒนา ChatGPT สร้างเนื้อหารูปแบบใหม่ๆ
กระนั้น แมดกาฟคาร์แย้งว่า งานส่วนใหญ่ของผู้สร้างคอนเทนต์ไม่สามารถใช้ระบบอัตโนมัติทำแทนได้
งานด้านกฎหมาย (ผู้ช่วยทนายความ ผู้ช่วยด้านกฎหมาย)

เช่นเดียวกับงานสื่อ งานด้านกฎหมายต้องรับผิดชอบข้อมูลจำนวนมาก สังเคราะห์สิ่งที่เรียนรู้ และย่อยเป็นความคิดเห็นหรือข้อสรุปทางกฎหมาย ซึ่งแมดกาฟคาร์บอกว่า แม้เป็นบทบาทที่อิงกับภาษาซึ่งเป็นงานที่ระบบอัตโนมัติถนัด แต่ยังต้องการการวินิจฉัยจากมนุษย์เพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าและนายจ้างต้องการ
ครู

ครูหลายคนกำลังกังวลว่า นักเรียนอาจใช้ ChatGPT ทำการบ้านแทน แต่เผิงเฉิง ฉี ผู้ช่วยคณบดีแผนกวิทยาการคอมพิวเตอร์และสารสนเทศของสถาบันเทคโนโลยีโรเชสเตอร์ เตือนผ่านนิวยอร์ก โพสต์ว่า ครูควรห่วงความมั่นคงในอาชีพของตัวเองด้วย เพราะ ChatGPT สามารถสอนหนังสือได้แล้ว ซึ่งถึงมีบั๊กและความไม่แม่นยำบางอย่าง แต่ก็แก้ไขได้อย่างง่ายดาย
งานด้านการเงิน (นักวิเคราะห์ทางการเงิน ที่ปรึกษาด้านการเงินส่วนบุคคล)

มูโรจากสถาบันบรูคกิ้งส์ชี้ว่า นักวิเคราะห์ทางการเงิน ที่ปรึกษาด้านการเงินส่วนบุคคล และงานอื่นๆ ที่ต้องจัดการข้อมูลตัวเลขจำนวนมากอาจได้รับผลกระทบจาก AI ที่สามารถระบุแนวโน้มในตลาด ไฮไลต์การลงทุนในพอร์ตที่มีผลงานดีและแย่ สื่อสารข้อมูลเหล่านี้ และใช้ข้อมูลรูปแบบอื่นๆ เพื่อคาดการณ์การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีขึ้น
นักบัญชี

ที่ผ่านมา นักบัญชีมักถูกมองว่า เป็นอาชีพที่มั่นคง แต่สำหรับตอนนี้อาชีพนี้อาจมีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน

เบร็ตต์ คาราเวย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากสถาบันการสื่อสาร วัฒนธรรม และเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยโทรอนโต บอกว่า แม้เทคโนโลยีไม่ได้ทำให้ทุกคนถูกปลดจากงาน แต่อาจมีข้อยกเว้นสำหรับบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานทางปัญญาอย่างเช่นทนายความและนักบัญชี ซึ่งน่าติดตามว่า AI จะดิสรัปต์และทำให้เกิดผลกระทบต่อการจ้างงานและการเมืองอย่างไร
กราฟิกดีไซเนอร์

ในโพสต์ของฮาร์วาร์ด บิสเนส รีวิวเมื่อเดือนธันวาคม ศาสตราจารย์ 3 คนลงความเห็นว่า DALL-E เครื่องมือ AI ที่สามารถวาดภาพในเวลาเพียงเสี้ยววินาที อาจเป็นดิสรัปเตอร์ในอุตสาหกรรมกราฟิกดีไซน์

โพสต์ดังกล่าวระบุว่า การยกระดับทักษะคนนับล้านในการสร้างและดัดแปลงภาพจะส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งทางเศรษฐกิจ และแน่นอนว่า เทคโนโลยี AI สุดล้ำจะสร้างความยากลำบากและความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจต่อคนทำงานที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและไม่สามารถปรับตัวได้
ตัวแทนบริการลูกค้า
คุณอาจเคยโทรหรือแชตกับฝ่ายบริการลูกค้าและได้รับคำตอบจากโรบ็อตมาแล้ว ChatGPT และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจะทำให้เทรนด์นี้พัฒนาต่อไป

ทั้งนี้ รายงานจากบริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยี การ์ตเนอร์ ในปี 2022 คาดว่า แชตบอตจะเป็นช่องทางหลักในการให้บริการลูกค้าสำหรับบริษัทราว 25% ภายในปี 2027
กำลังโหลดความคิดเห็น