SCC กำไรสุทธิปี 65 วูบ 55% มาอยู่ที่ 21,382 ล้านบาท สาเหตุจากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลงและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ขณะที่รายได้จากการขายโตขึ้น 7% มาอยู่ที่ 569,609 ล้านบาท บอร์ดฯ ไฟเขียวปันผลงวดปี 65 หุ้นละ 8 บาท จ่ายระหว่างกาลครึ่งปีแรกแล้ว 6 บาท/หุ้น คงเหลือจ่ายปันผลงวดสุดท้ายหุ้นละ 2 บาท
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยผลการดําเนินงานปี 2565 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขาย 569,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน มาจากธุรกิจแพกเกจจิ้ง และธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ในขณะที่มี EBITDA ลดลง 33% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 61,912 ล้านบาท และมีกําไรสําหรับปีลดลง 55% จากปีก่อนมาอยู่ที่ 21,382 ล้านบาท สาเหตุมาจากส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลงและต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น รวมทั้งส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง
สําหรับปี 2565 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 10,703 ล้านบาท ลดลง 6,840 ล้านบาท หรือ 39% จากปีก่อน โดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจเคมิคอลส์เท่ากับ 4,928 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% ของทั้งหมด ลดลง 6,649 ล้านบาทจากปีก่อน และมีส่วนแบ่งกําไรจากบริษัทร่วมจากธุรกิจอื่นเท่ากับ 5,775 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54% ของทั้งหมด ลดลง 191 ล้านบาทจากปีก่อน
ทั้งนี้ SCC มีเงินปันผลรับในปี 2565 เท่ากับ 17,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,940 ล้านบาท หรือ 50% จากปีก่อน โดยบริษัทยังคงมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง โดยมีเงินสดและเงินสดภายใต้การบริหาร ณ สิ้นปี 2565 เท่ากับ 95,402 ล้านบาท โดยในปี 2565 มีรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุน 52,188 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 4/2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 122,190 ล้านบาท ลดลง 14% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักจากราคาและปริมาณขายสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวลดลงตามความต้องการของตลาดที่ลดลง โดยมี EBITDA เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 10,122 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงที่มีเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมและการลงทุนในธุรกิจอื่น (ธุรกิจยานยนต์) โดยบริษัทมีกําไรสําหรับงวด 157 ล้านบาท ลดลง 94% จากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่มาจากส่วนต่างราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลง และต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ กำไรที่ไม่รวมรายการสำคัญอยู่ที่ 1,070 ล้านบาท ลดลง 66% จากไตรมาสก่อน
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทมีรายได้จากการขายลดลง 14% เนื่องจากราคา และปริมาณขายสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลง โดยมี EBITDA ลดลง 53% และมีกําไรสําหรับงวดลดลง 98% สาเหตุหลักมาจากส่วนต่างราคาขายสินค้าเคมีภัณฑ์ที่ลดลง และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ทั้งนี้ กําไรที่ไม่รวมรายการที่สำคัญลดลง 85% จากปีก่อน
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผล ประจําปี 2565 อัตราหุ้นละ 8 บาท คิดเป็น 45% ของกําไรสําหรับปี โดยบริษัทได้จ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับครึ่งปีแรกอัตราหุ้นละ 6.0 บาท และจะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายในอัตรา 2.0 บาทต่อหุ้น คิดเป็นกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 เมษายน 2566