xs
xsm
sm
md
lg

เพราะ "เกาหลีเหนือ" เฉยหรือเปล่า FBI จึงโบ้ยว่าเป็นศูนย์กลางแฮ็กเกอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เอเยนซี่ - สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือ FBI เปิดเผยในวันจันทร์ (24 ม.ค.) ที่ผ่านมาว่า กลุ่มเดอะ ลาซารัส (The Lazarus) และ APT38 ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายแฮกเกอร์ ซึ่งจัดเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่และมีเบื้องหลังเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการโจรกรรมเงินมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ จากฐานข้อมูลการสืบค้นย้อนกลับของธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีที่ถูกโจมตีในรอบปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี FBI ยังได้ระบุเพิ่มเติมอีกว่า เดอะ ลาซารัสและ APT38 ได้ท้าทายด้วยการโจมตีและเจาะข้อมูลระบบโฮไรซอน บริดจ์ (Horizon Bridge) ของฮาร์โมนี (Harmony) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนในเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว

ขณะที่ทางด้าน Chainalysis ระบุว่า โฮไรซอนเป็นซอฟต์แวร์ที่บันทึกการทำธุรกรรมเหรียญคริปโตฯ ที่เคลื่อนย้ายระหว่างบล็อกเชนต่าง ๆ โดยสะพานข้ามบล็อกเชนที่มีลักษณะดังกล่าว กลายมาเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ในปีที่แล้ว โดยสินทรัพย์คริปโตฯ มูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์ ถูกขโมยไปในระหว่างรอยต่อสะพานข้ามบล็อกเชนทั้งหมด 13 ครั้ง

นอกจากนี้ FBI ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า ในวันที่ 13 ม.ค. แฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือใช้โปรโตคอลส่วนบุคคลที่เรียกว่า เรลกัน (Railgun) ในการฟอกเหรียญ Ethereum (ETH) มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์ โดย ETH บางส่วนถูกถ่ายโอนไปยังตลาดซื้อขายคริปโตฯ อีกหลายแห่ง จากนั้นจึงแปลงเป็นเหรียญบิทคอยน์

ขณะเดียวกันด้าน จ้าว ฉางเผิง ผู้ก่อตั้งไบแนนซ์ โฮลดิงส์ จำกัด บริษัทผู้ให้บริการซื้อขายคริปโตฯ รายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทได้ช่วยแพลตฟอร์มของหั่วปี้ในการอายัดเงินบางส่วนและกู้คืนบิทคอยน์ได้ทั้งสิ้น 124 เหรียญ จากธุรกรรมที่โดนโจมตีดังกล่าว

ทั้งนี้ ลาซารัส ยังตกเป็นเป้าหมายในการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้แฮ็กระบบสะพานโรนิน (Ronin Bridge) โดยสามารถโจรกรรมเงินไปได้ 600 ล้านดอลลาร์
กำลังโหลดความคิดเห็น