RS ตั้งเป้าผลักดันมาร์เกตแคปทั้งกลุ่มแตะแสนล้านบาท ภายใน 3 ปีจากนี้ รักษาการเติบโตรายได้ที่ 30-40% ต่อปี ส่วนปีนี้คาดทำรายได้ 5,500 ล้านบาท จากธุรกิจ Commerce และ Media & Entertainment ขณะเดียวกัน เตรียมฟื้นธุรกิจเพลงอีกครั้งในรอบ 15 ปี และเดินหน้า Spin-off 5 กลุ่มธุรกิจเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 5,500 ล้านบาท มาจากธุรกิจ Commerce 3,100 ล้านบาท และธุรกิจ Media & Entertainment 2,400 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 48-50% และอัตรากำไรสุทธิที่ 11-13%
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าผลักดันมาร์เกตแคปทั้งกลุ่มบริษัทให้ได้ 100,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี จาก ณ วันที่ 16 ม.ค.66 อยู่ที่ 16,337.95 ล้านบาท
วางยุทธศาสตร์ดัน 5 บริษัทในกลุ่ม Spin-off เข้าตลาด
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจนั้น นอกจากการวางยุทธศาสตร์หลัก 3 ด้านแล้ว บริษัทยังตั้งเป้าหมายในการผลักดันกลุ่มธุรกิจบริษัท 5 กลุ่มเพื่อเดินหน้าเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ (Spin-off) ภายใน 3 ปี โดยบริษัทที่จะนำเข้าตลาดต่อจากบริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ CHASE ที่คาดว่าจะเข้าตลาดในไตรมาส 1/66 ส่วนบริษัทที่จะนำเข้าตลาดต่อไป คือ RS Connect ซึ่งปัจจุบันได้ตั้งที่ปรึกษาทางการเงินเรียบร้อยแล้ว คือ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) หลังจากนั้นจะเริ่มผลักดัน RS LiveWell และ RS Music ซึ่งจะตั้งที่ปรึกษาทางการเงินภายในปีนี้
เขากล่าวว่า ความท้าทายในปีนี้ตั้งเป้าเป็น Life Enriching มุ่งมั่นในการยกระดับทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้าผ่านทุกธุรกิจในเครือ พร้อมจัดโครงสร้างองค์กรใหม่โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์องค์กร ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งในแนวตั้ง และจะขยายธุรกิจใหม่ๆ ในแนวราบ นับเป็นการสร้างอีโคซิสเต็มของอาร์เอส กรุ๊ป ให้เติบโตยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
"เราเตรียมพร้อมเพื่อ Spin-Off บริษัทในเครือเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และทำให้มาร์เกตแคปแตะ 100,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน ยังจะพยายามรักษาการเติบโตของรายได้ที่ 30-40% ต่อปีด้วย" นายสุรชัย กล่าว
ทั้งนี้ กลยุทธ์ในการผลักดันให้มีมาร์เกตแคปถึง 100,000 ล้านบาท บริษัทได้วางยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ ยุทธศาสตร์แรก คือ การยกระดับทุกมิติของการใช้ชีวิต (Life Enriching) โดยโฟกัสที่การเจาะตลาด Mass และเพิ่ม Accessibility การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นด้วยช่องทางการจำหน่ายและพาร์ตเนอร์ที่หลากหลาย
ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือ การจัดกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วย 6 ธุรกิจ ดังนี้ โดยธุรกิจแรกคือ RS Multimedia คือ ช่อง 8 และ Cool Fahrenheit
กลุ่มบริษัทที่ 2 คือ RS Music มุ่งสู่ธุรกิจเพลงอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปประมาณ 15 ปี โดยจะมีพาร์ตเนอร์ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 1/66 นี้ โดยมองว่าจะเข้ามาช่วยผลักดันรายได้แตะระดับ 1,000 ล้านบาทอีกครั้งภายใน 3 ปี โดยปัจจุบันมี RSIAM, Kemikeze, RoseSound และ 4th apple
กลุ่มบริษัทที่ 3 คือ RS LiveWell ประกอบด้วย RSMall well u, vitanature+, lifemate
กลุ่มบริษัทที่ 4 คือ RS Connect ประกอบด้วย Ulife และ De Beste
กลุ่มบริษัทที่ 5 RS Pet All โดยมีความมุ่งมั่นจะทำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และมีความชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 1/66 นี้
กลุ่มบริษัทที่ 6 คือ R Alliance คือ CHASE คาดว่าจะเข้าตลาดในเร็วๆ นี้
และยุทธศาสตร์ที่ 3 คือ การ Spin-off บริษัทในเครือเพื่อเข้าสู่ตลาดภายใน 3 ปีนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้และการเติบโตของบริษัทในอนาคต
ส่วนแผนการขยายธุรกิจ ในปีนี้มีทั้งในรูปแบบของควบรวมกิจการ (M&A) และร่วมมือกับพันธมิตร (JV) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีความชัดเจน 2-3 ดีล ส่วนงบลงทุนคาดว่าจะใช้ต่อดีลประมาณ 300-600 ล้านบาท ส่วนการลงทุนในแต่ละธุรกิจนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานเป็นหลัก
ด้านนายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน RS กล่าวว่า เป้าหมายการเติบโตของรายได้ของแต่ละธุรกิจในปีนี้นั้นประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจ Commerce เป้าหมายรายได้ 3,100 ล้านบาท ประกอบด้วย RS LiveWell 1,800 ล้านบาท RS Connect 900 ล้านบาท และ RS Pet All 400 ล้านบาท ส่วน Media&Entertainment เป้าหมายรายได้ที่ 2,400 ล้านบาท ประกอบด้วย Rs Multimedia 1,450 ล้านบาท RS Music 400 ล้านบาท และ Concert,Event&Othets 550 ล้านบาท