xs
xsm
sm
md
lg

เปิดพื้นที่ กฟผ.แม่เมาะ ต้อนรับ METI ศึกษาศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ร่วมต้อนรับคณะกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น (METI) เยี่ยมชมการดำเนินงานผลิตไฟฟ้า กฟผ.แม่เมาะ และร่วมประชุมหารือศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ในพื้นที่เหมืองแม่เมาะ เพื่อความร่วมมือด้านพลังงานและการผลักดันประเทศก้าวสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น

กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่น นำโดย Mr. Izuru Kobayashi รองอธิบดีฝ่ายนโยบายระหว่างประเทศด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน (Deputy Director-General for International Policy on Carbon Neutrality) คณะผู้บริหารองค์การความมั่นคงด้านโลหะและพลังงาน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมชมพื้นที่เหมืองแม่เมาะ และโรงไฟฟ้าแม่เมาะ กฟผ.จังหวัดลำปาง พร้อมประชุมหารือศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซต์ (Carbon Capture Storage: CCS) ในพื้นที่เหมืองแม่เมาะ โดยมีนายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง กฟผ. คณะผู้บริหาร กฟผ.แม่เมาะ ปตท.สผ. และกรมการพลังงานทหารให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายประจวบ ดอนคำมูล ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ กฟผ. และตัวแทนกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ร่วมให้ข้อมูลโครงการศักยภาพการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) ในพื้นที่เหมืองแม่เมาะ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2566

 


นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง กฟผ. กล่าวว่า การประชุมและเยี่ยมชมพื้นที่ กฟผ.แม่เมาะครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ทั้งสองประเทศได้หารือเรื่องศักยภาพและความเป็นไปได้ของโครงการการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CCS ในพื้นที่เหมืองแม่เมาะ เบื้องต้นคาดว่าโครงสร้างทางธรณีวิทยาของพื้นที่เหมืองแม่เมาะในระดับลึกมีศักยภาพในการเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ในสภาพของเหลวได้ ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นและจำเป็นต้องมีการสำรวจเพิ่มเติมต่อไป หากได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นจะช่วยให้การพัฒนา CCS เป็นรูปธรรมมากขึ้น และผลักดันให้ประเทศไทยและโลกก้าวสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ที่ยั่งยืนต่อไป

ด้านตัวแทนกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น กล่าวว่า ศักยภาพของโครงการพัฒนา CCS ในพื้นที่เหมืองแม่เมาะมีความสำคัญและตอบโจทย์นโยบายการพัฒนาในระดับประเทศ หลังจากสำรวจในเชิงลึกเพิ่มเติมแล้ว ต้องหาโอกาสในเวทีระดับประเทศระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นกับรัฐบาลไทย หารือความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการต่อไป หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมมือกับ กฟผ. ทั้งการพัฒนา CCS และเทคโนโลยีอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้

นอกจากนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุพฤทธิ์ ตั้งพฤทธิ์กุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญและหัวหน้าโครงการวิจัยเรื่องศักยภาพของชั้นหินในเหมืองแม่เมาะสำหรับการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ ได้รายงานความก้าวหน้าการสำรวจแหล่งกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ของแอ่งเหมืองแม่เมาะ แม้เป็นการศึกษาเบื้องต้นจากหินโผล่ (Outcrop) แต่เป็นการศึกษาครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการทดสอบจริงกับตัวอย่างหินสำหรับกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ โดยมีระยะความลึกของชั้นหินกว่า 1 กิโลเมตร เบื้องต้นพบว่า มีความพรุนเหมาะสมและมีหินปิดทับที่สมบูรณ์ ทั้งนี้ อยู่ระหว่างรอผลการศึกษาคุณสมบัติของชั้นหินปิดทับ (Cap Rock) และชั้นหินปิดทับ (Reservoir Rocks) เพื่อสรุปศักยภาพและความเหมาะสมต่อไป

การเข้าเยี่ยมชมและประชุมหารือของกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากการที่กระทรวงพลังงาน (พน.) และรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ประชุมความร่วมมือด้านพลังงาน Japan-Thailand Energy Policy Dialogue (JTEPD) ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 โดยกระทรวงพลังงานเห็นว่าพื้นที่ กฟผ.แม่เมาะมีศักยภาพในการดำเนินโครงการ CCS ซึ่งสอดคล้องกับความร่วมมือภายใต้การนำเสนอข้อมูลโครงการ (White Paper) ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างสองประเทศให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น