คนเกาหลีขึ้นแท่นช้อปแบรนด์เนมมากที่สุดในโลก ปีที่ผ่านมามียอดสั่งซื้อสินค้าหรูรวมกว่า 16,000 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 24% มอร์แกน สแตนเลย์ชี้ปัจจัยหนุนมีตั้งแต่อำนาจซื้อที่เพิ่มขึ้น ต้องการอวดสถานะทางสังคม และยังอาจเป็นเพราะบริษัทผู้ผลิตแข่งกันดึงไอดอลแดนกิมจิเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ช่วยสะกดลูกค้า
มอร์แกน สแตนเลย์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่จากวอลล์สตรีท ประเมินว่า ในปีที่ผ่านมา คนเกาหลีช้อปสินค้าหรูเพิ่มขึ้นถึง 24% คิดเป็นมูลค่า 16,800 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 325 ดอลลาร์ต่อคน เทียบกับ 55 ดอลลาร์และ 280 ดอลลาร์สำหรับขาช้อปจีนและอเมริกาตามลำดับ
ขณะเดียวกัน แบรนด์สินค้าหรูป่าวประกาศว่า ยอดขายในเกาหลีใต้ปังสุดๆ อาทิ มงแคลร์ที่เผยว่า รายได้ในประเทศนี้เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเทียบกับช่วงก่อนโควิดระบาด
เช่นเดียวกับริชมอนต์ กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์คาร์เทียร์ที่ประกาศว่า ยอดขายในเกาหลีใต้ปีที่ผ่านมาพุ่งทะยานในอัตราเลขสองหลักเทียบกับทั้งในปี 2020 และ 2021
ขณะที่พราด้าเผยว่า ยอดขายที่แข็งแกร่งในเกาหลีใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วยชดเชยยอดขายในจีนที่ดิ่งลง 7% จากมาตรการล็อกดาวน์
นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนเลย์อธิบายว่า ดีมานด์สินค้าหรูของคนเกาหลีถูกกระตุ้นทั้งจากอำนาจซื้อที่เพิ่มขึ้นและความต้องการอวดสถานะทางสังคม พร้อมสำทับว่า ภาพลักษณ์และความสำเร็จทางการเงินโดนใจผู้บริโภคเกาหลีใต้มากกว่าผู้บริโภคชาติอื่นๆ
การอวดสถานะยังเป็นที่ยอมรับได้ในสังคมเกาหลีใต้มากกว่าประเทศอื่นๆ โดยผลสำรวจของแมคคินซีย์พบว่า มีผู้ตอบแบบสำรวจในเกาหลีใต้เพียง 22% ที่บอกว่า พวกที่ชอบโชว์ของแบรนด์เนมเป็นพวกรสนิยมต่ำ เทียบกับคนญี่ปุ่นถึง 45% และจีน 38% ที่คิดแบบนั้น
ดีมานด์สินค้าหรูยังได้รับการสนับสนุนจากความมั่งคั่งในครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลของธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า ความมั่งคั่งสุทธิในครัวเรือนเพิ่มขึ้น 11% ในปี 2021 และความมั่งคั่งในครัวเรือนราว 76% อยู่ในภาค
อสังหาริมทรัพย์ที่ราคาพุ่งลิ่วนับจากปี 2020
มอร์แกน สแตนเลย์สำทับว่า ผู้ผลิตแบรนด์หรูยังดึงไอดอลในประเทศมาช่วยกระตุ้นดีมานด์ชนิดที่เรียกได้ว่า เซเลบแถวหน้าเกือบทุกคนล้วนเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบริษัทสินค้าหรู เช่น เฟนดิกับพระเอก ลี มิน-โฮ และชาแนลกับแร็ปเปอร์ จี-ดราก้อน
ดิออร์เลือกโรเซ่จากแบล็กพิงค์เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของคอลเล็กชั่น HardWear ซึ่งผลปรากฏว่า ได้รับการต้อนรับดีมากโดยกวาดยอดขายเพิ่มขึ้นสองเท่า
อย่างไรก็ตาม เวยเวย ซิง หุ้นส่วนของบริษัทวิจัยระดับโลก เบน แอนด์ คอมปานี ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีว่า ไม่เห็นด้วยในการใช้อัตราต่อหัวเป็นมาตรวัดการบริโภคสินค้าหรู เพราะตามคำจำกัดความนั้น สินค้าหรูไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ในตลาดมวลชน แต่ควรวิเคราะห์การใช้จ่ายสินค้าหรูทั้งหมดโดยพิจารณาจากจำนวนประชากรในกลุ่มชนชั้นกลางขึ้นไปแทน ซึ่งจะสะท้อนการบริโภคและทัศนคติที่มีต่อสินค้าหรูได้ดีกว่า
ขณะเดียวกัน มอร์แกน สแตนเลย์เสริมว่า ตลาดสินค้าหรูในเกาหลีใต้เป็นพรีวิวอย่างดีสำหรับแนวโน้มตลาดสินค้าหรูของจีนในอนาคต นักวิเคราะห์ของวาณิชธนกิจแห่งนี้ระบุว่า เกาหลีใต้และจีนมีทัศนคติต่อแบรนด์เนมหรูคล้ายกันคือเป็นเครื่องบ่งชี้สถานะทางสังคม โดยขณะนี้คนเกาหลีมีมูลค่าการใช้จ่ายสินค้าหรูต่อคนต่อปีสูงกว่าคนจีนเกิน 6 เท่า
สำหรับทั่วโลกนั้น แมคคินซีย์คาดว่า ตลาดสินค้าหรูจะขยายตัว 5-10% ในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากดีมานด์ในอเมริกาและจีน