xs
xsm
sm
md
lg

บางจาก`ทุ่มกว่า 3 หมื่นลบ. ซื้อกิจการปั๊ม`เอสโซ่`

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



BCP ประกาศทุ่มเงินไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซื้อกิจการ ESSO จำนวน 65.99% พร้อมตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น หรือเทนเดอร์ฯ จากรายย่อยทั้งหมด หวังขึ้นแท่นโรงกลั่นใหญ่สุดของประเทศ เชื่อมั่นธุรกรรมครั้งนี้ถือเป็นการพลิกโฉมสู่บริบทใหม่ของบางจากและประเทศไทย คาดธุรกรรมแล้วเสร็จในครึ่งหลังปี 66

รายงานข่าวจาก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นและทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO โดยทำการเข้าซื้อหุ้นสามัญโดยตรง จำนวน 2,283.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 65.99% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยซื้อจาก บริษัท ExxonMobil Asia Holding Pte.Ltd. โดยได้ทำสัญญาซื้อขายหุ้นเมื่อวันที่ 11 ม.ค.66

ทั้งนี้ บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นที่ซื้อขายทางตรงที่ราคาซึ่งจะมีการปรับเปลี่ยนตามกลไกการปรับราคาที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้น โดยคาดว่าเงื่อนไขบังคับจะเสร็จสมบูรณ์และบริษัททำการซื้อขายหุ้นที่ซื้อขายได้ภายใน 12 เดือน หลังจากวันทำสัญญาซื้อขายหุ้น

หากเงื่อนไขบังคับเสร็จสิ้นและบริษัทและผู้ขายได้โอนหุ้นและชำระราคาตามธุรกรรมการซื้อขายหุ้น โดยมีสมมติฐานผู้ถือหุ้นทุกรายใน ESSO ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด หุ้นสามัญที่บริษัทได้มาจะเท่ากับ 3,460.858 ล้านหุ้น คิดเป็น 100% และคิดเป็นเงินประมาณ 33,312 ล้านบาท(อิงงบการเงิน ณ 30 มิ.ย.65) หรือมูลค่า 30,608 ล้านบาท(อิงงบการเงิน ณ 30 ก.ย.65)

บริษัทมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ ESSO จำนวนไม่เกิน 1,177.108 ล้านหุ้น คิดเป็น 34.01% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด

ทั้งนี้ ราคาซื้อขายในวันที่เข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นขึ้นอยู่กับผลดำเนินงานธุรกิจ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหนี้สินสุทธิและรายการเทียบเท่าหนี้สิน โดยอ้างอิงจากงบการเงินไตรมาสล่าสุดฉบับสอบทาน ก่อนวันที่มีการเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จ ดังนี้

มูลค่ากิจการ (Enterprise Value) ที่ 5.55 หมื่นล้านบาท หักหนี้สินสุทธิและรายการเทียบหนี้สิน บวกรายการปรับปรุงทางการเงินอื่น , การปรับปรุงเงินทุนหมุนเวียนที่เกี่ยวข้อง การปรับปรุงรายการอื่นตามที่กำหนดในสัญญาซื้อขาย คิดเป็นมูลค่าส่วนของผู้ถือหุ้น (Equnity Value)

การทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเป็นไปตามกลยุทธเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัท ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจโรงกลั่นและสถานีบริการน้ำมันชั้นนำของประเทศ โดยมีคลังน้ำมันและสินค้าผลิตภัณฑ์ที่สามารถจัดเก็บน้ำมันได้ 15 ล้านบาร์เรล ช่วยเพิ่มจำนวนเชื้อเพลิงสำรองและความมั่นคงทางพลังงาน มีสถานะเป็นโรงกลั่นขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ มีกำลังการผลิตติดตั้ง 294,000 บาร์เรล/วัน เป็นเจ้าของและผู้ประกอบกิจการโรงกลั่นที่เชื่อมต่อกับทุ่มรับน้ำมันดิบกลางทะเล รองรับการรับเรือขนาด Very Large Crude Carreiers: VLCCs ทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงระบบท่อส่งน้ำมันผลิตภัณฑ์หลักถึง 2 แห่ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานจากการจัดหาและขนส่งน้ำมันดิบผ่านการสั่งซื้อและขนส่งร่วมกัน ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง

หวังเสริมส่วนแบ่งการตลาดค้าปลีกน้ำมัน

ธุรกรรมดังกล่าวส่งเสริมส่วนแบ่งตลาดค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งเชิงปริมาณยอดขายและจำนวนสถานีบริการ โดยเฉพาะพื้นที่สำคัญ ทำให้เกิดมูลค่า Synergy (ก่อนหักภาษี) ประมาณ 1.5-2 พันล้านบาท จากการเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนจากการจัดหาน้ำมันดิบ การประกอบธุรกิจโรงกลั่น การขนส่ง รวมถึงค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจทางอ้อม

การทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นครั้งนี้ไม่รวมการได้มาซึ่งธุรกิจผลิตภัณฑ์หล่อลื่นและการจำหน่ายเคมีภัณฑ์ โดยผู้ขายและ ESSO จะดำเนินการร่วมกันเพื่อให้การโอนกิจการที่ไม่เป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมเป็นไปโดยราบรื่นตามทแนวทางที่ผู้ขายเสนอ ซึ่งอาจรวมถึงการโอน การให้สิทธิ การจำหน่าย การเลิก (รวมถึงการยกเลิกสัญญาต่างๆที่เกี่ยวข้อง) หรือการดำเนินกิจการอื่นใดเพื่อเลิกกิจการที่ไม่เป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

ทั้งนี้ ESSO จะยังสามารถใช้ตราสินค้าสำหรับสถานีบริการต่อไปได้ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 2 ปี เป็นการทั่วไป 

บิ๊กบางจาก มั่นใจพลิกโฉมสู่บริบทใหม่ของบางจาก

ด้านนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP เชื่อมั่นว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้ถือเป็นการพลิกโฉมสู่บริบทใหม่สำหรับบางจากและประเทศไทย โดยการลงทุนครั้้งนี้มีสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง คือ โรงกลั่นน้ำมันกำลังการกลั่น 174,000 บาร์เรล/วัน เครือข่ายคลังน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันทั่วปรเทศกว่า 700 แห่ง ทำให้เกิดการประหยัดเชิงขนาดและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน ทำให้บางจากมีกำลังการลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรล/วัน มีเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,100 แห่ง ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นได้ครบวงจรมากขึ้น จัดหาน้ำมันดิบได้หลากหลายขึ้น

สำหรับมูลค่ากิจการเอสโซ่ 55,500 ล้านบาท มีกลไกการปรับรคาซื้อขายตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้น หากอ้างอิงตามงบการเงินสอบถามในไตรมาส 3/65 จะมีราคาเบื้องต้น 8.84 บาท/หุ้น ซึ่งราคาสุดท้ายจะมีการปรับตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ ส่วนแหล่งทุน บางจากจะใช้เงินทุนทั้งภายนอกและสินเชื่อสถาบันการเงิน และจากกระแสเงินสด

การทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นอยู่ภายใต้การปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจดำเนินการซื้อขายแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปี 66

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น BCP วันนี้ ปิดที่ 34.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ8.66% มูลค่าการซื้อขาย 1.76 พันล้านบาท ส่วน ESSO ปิดที่ 9.20 บาท ลดลง 1.90 บาท หรือ 17.12% มูลค่าการซื้อขาย 2.90 พันล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น