การประกาศยกเลิกมาตรการกักกันโรคโควิด-19 ของรัฐบาลโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 ถือเป็นการเปิดประเทศของจีนอย่างเต็มรูปแบบ มีการคาดหมายว่านักท่องเที่ยวจีนจะแห่เดินทางท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งประเทศไทยน่าจะเป็นจุดหมายอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวจีน โดยมีการคาดการณ์ว่าในไตรมาสแรก ปี 2566 (ม.ค.-มี.ค.) จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยประมาณ 3 แสนคน หรือคิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน
ด้านกระทรวงสาธารณสุขออกมาประกาศมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวจีนว่า ประเทศไทยจะใช้หลักการแพทย์และสาธารณสุขกับนักท่องเที่ยวจีน ในมาตรฐานเดียวกับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่มีการแบ่งแยกจำเพาะเจาะจงใดๆ
โดยเห็นว่าสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในขณะนี้มีความรุนแรงลดลง และมั่นใจถึงสาธารณสุขของไทย ขณะที่การเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก
@เผย ธ.ค. 65 ผู้โดยสารสนามบิน 6 แห่งของ ทอท.อยู่ในระดับ 70% ของปี 2562
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้เตรียมความพร้อมด้านมาตรการต่างๆ ในการรองรับการเดินทางสำหรับผู้โดยสารจากประเทศจีน ตั้งแต่สนามบิน ซึ่งเป็นประตูของประเทศ และระบบขนส่งทางบก ที่เชื่อมกับสนามบินไปยังสถานที่ต่างๆ ให้เพียงพอ และมีมาตรฐานความปลอดภัย
จากสถิติในปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 พบว่าสนามบิน 6 แห่งของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) มีผู้โดยสารรวมจำนวน 11.9 ล้านคน/เดือน หรือประมาณ 143 ล้านคน/ปี
แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 7.1 ล้านคน/เดือน ผู้โดยสารภายในประเทศ 4.7 ล้านคน/เดือน
ซึ่งเมื่อเดือน ธ.ค. 2565 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 278,454 คน/วัน หรือประมาณ 8.3 ล้านคน/เดือน คิดเป็น 70% ของจำนวนผู้โดยสารในปี 2562
แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 141,155 คน/วัน หรือประมาณ 4.2 ล้านคน/เดือน คิดเป็น 60% ของจำนวนผู้โดยสารในปี 2562, ผู้โดยสารภายในประเทศ 131,298 คน/วัน หรือประมาณ 3.9 ล้านคน/เดือน คิดเป็น 90% ของจำนวนผู้โดยสารในปี 2562
@เปิดสถิติ ปี 62 จีนแชมป์ผู้โดยสารเข้าไทย 38 ล้านคน
นอกจากนี้ หากแยกเป็นผู้โดยสารสัญชาติจีน จะพบว่าในปี 2562 ผู้โดยสารรวมทั้งหมด 143 ล้านคน มีสัญชาติจีนจำนวน 38 ล้านคน หรือ 26%
โดยเดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิมากที่สุด 12 ล้านคน หรือ 19% จากผู้โดยสารรวม 65 ล้านคน
เดินทางผ่านสนามบินดอนเมือง จำนวน 7 ล้านคน หรือ 31% จากผู้โดยสารทั้งหมด 23 ล้านคน
เดินทางผ่านสนามบินภูเก็ต จำนวน 6.3 ล้านคน หรือ 35% จากผู้โดยสารทั้งหมด 18 ล้านคน
เดินทางผ่านสนามบินเชียงใหม่ จำนวน 5.5 ล้านคน หรือ 50% จากผู้โดยสารทั้งหมด 11 ล้านคน
เดินทางผ่านสนามบินเชียงราย จำนวน 1.8 ล้านคน หรือ 72% จากผู้โดยสารทั้งหมด 2.5 ล้านคน
เดินทางผ่านสนามบินหาดใหญ่ จำนวน 1 แสนคน หรือ 3 % จากผู้โดยสารทั้งหมด 3.6 ล้านคน
@ทอท.คาด ปี 66 ผู้โดยสารโดยรวม 67-118 ล้านคน
ทอท.ได้มีการคาดการณ์ผู้โดยสารตลอดปีงบประมาณ 2566 (ต.ค. 65-ก.ย. 2566) ไว้ดังนี้ กรณีดีที่สุด (Best Case) คาดว่ามีผู้โดยสารรวมจำนวน 118 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ จำนวน 64.4 ล้านคน ผู้โดยสารภายในประเทศ จำนวน 54.3 ล้านคน
กรณีปกติ (Base Case) คาดว่ามีผู้โดยสารรวมจำนวน 95.7 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 48.5 ล้านคน ผู้โดยสารภายในประเทศจำนวน 47.2 ล้านคน
กรณีแย่ที่สุด (Worst Case ) คาดว่ามีผู้โดยสารรวมจำนวน 67.7 ล้านคน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 30.3 ล้านคน ผู้โดยสารภายในประเทศจำนวน 37.4 ล้านคน
@ 2 เที่ยวบินจากจีน พร้อมผู้โดยสารประมาณ 500 คน ประเดิมแลนดิ้งสุวรรณภูมิ 9 ม.ค.
รายงานข่าวจาก ทอท.แจ้งว่า วันที่ 9 ม.ค. 2566 จะมี 2 เที่ยวบินจากจีนพร้อมนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยภายหลังจีนเปิดประเทศ โดยเที่ยวบินแรก คือ MF 833 จากเมืองเซี่ยเหมิน (Xiamen) มีผู้โดยสารประมาณ 286 คน กำหนดถึงไทยเวลา 12.50 น. ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน
ขณะที่เที่ยวบินที่ 2 คือ CZ 3081 จากเมืองกว่างโจว (Guangzhou) พร้อมผู้โดยสารประมาณ 252 คน กำหนดถึงไทยเวลาประมาณ 15.00 น.
และในวันที่ 12 ม.ค. 2566 เบื้องต้นจะมี 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน VZ 3527 จากเมืองหนานจิง ถึงไทยเวลา 00.50 น. เที่ยวบิน MF 869 จากเมืองเทียนจิน ถึงไทยเวลา 12.50 น. และเที่ยวบิน MU 9613 จากเมืองคุนหมิง ถึงไทยเวลา 14.55 น.
จากนั้นคาดว่าจีนจะมีการเพิ่มเที่ยวบินจากจีนตามลำดับ ซึ่งปลายปี 2565 จีนประสาน CAAT เพื่อจัดสรรเที่ยวบินระหว่างไทย-จีน เพิ่มจาก 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็น 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ขณะที่ในตารางบินฤดูหนาว 2565/2566 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. 2565 พบว่ามีสายการบินทุกสัญชาติที่ทำการบินขนส่งผู้โดยสารจากประเทศจีนมายังสนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 26 สายการบิน
@ส่องความพร้อม "สุวรรณภูมิ" เร่งแก้แออัด
ที่ผ่านมาสนามบินสุวรรณภูมิแม้ผู้โดยสารจะยังไม่มากเท่าเดิม แต่กลับมีปัญหาความแออัดคับคั่งของผู้โดยสารบริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทาง (ตม.) ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็น Snake Line เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้บริการ
อีกจุดคือ ปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้า เนื่องจากผู้ให้บริการ 2 ราย คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI และ บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟลท์เซอร์วิส จำกัด (BFS) ประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรและอุปกรณ์ ซึ่งเร่งให้ผู้ประกอบการปรับปรุงแก้ไข จัดหาบุคลากรและอุปกรณ์ให้เพียงพอ ขณะที่ ทอท.เร่งหาผู้ประกอบการรายที่ 3 เข้ามาเพิ่ม
@"ดอนเมือง" จ่อใช้ Service Hall อาคารที่เคยถล่ม รับกรุ๊ปทัวร์
สำหรับสนามบินดอนเมือง ซึ่งหากผู้โดยสารจีนเพิ่มมากขึ้นอาจจะมีการพิจารณาเปิดใช้ Service Hall รองรับกรุ๊ปทัวร์ แต่เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 อาคารดังกล่าวเกิดถล่มพังลงขณะมีฝนตกหนักและมีแรงลมปะทะ จนมีการตั้งข้อสังเกต ว่าตัวอาคารไม่สามารถรับแรงปะทะของลมได้ตามมาตรฐาน และฐานรากและโครงสร้างของอาคารอาจมีปัญหาเรื่องความมั่นคงแข็งแรงด้วย
ที่ผ่านมาแม้กระทรวงคมนาคมจะตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่ไม่ได้มีการแจ้งข้อสรุปต่อสาธารณชนแต่อย่างใด จึงมีความหวั่นเกรงและมีข้อสงสัยถึงความปลอดภัยของอาคารฯ หากจะนำมาใช้งานตามวัตถุประสงค์เดิม เพราะหากเกิดเหตุในลักษณะเดิมอีก และเกิดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสาร จะส่งผกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้โดยสารและประเทศอย่างมาก
@หวั่นแท็กซี่ไม่พอ ส่วน "แอร์พอร์ตลิงก์" น่าห่วง "รถน้อย-เสียบ่อย"
สำหรับระบบขนส่งเชื่อมต่อจากสนามบินไปยังสถานที่ต่างๆ ปัจจุบันพบว่าจำนวนรถแท็กซี่ที่ลงทะเบียนให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมืองมีจำนวนลดลงมาก โดยสนามบินสุวรรณภูมิมีสมาชิกแท็กซี่ในระบบจำนวน 4,615 คัน แต่มีรถแท็กซี่เข้ามาวิ่งให้บริการประมาณ 2,940 คัน ซึ่งคาดว่าจะไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ต้องเร่งเพิ่ม
รายงานข่าวแจ้งว่า รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ระบบขนส่งมวลชนที่เชื่อมกับสนามบินสุวรรณภูมิ ค่อนข้างน่ากังวล เนื่องจาก ระบบขัดข้องบ่อย ขบวนรถมีน้อย บนขบวนรถแออัด มีความล่าช้า ที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุขัดข้อง ล่าช้า จนทำให้ผู้โดยสารตกเครื่องบิน
มีการประเมินว่าจากนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มแบบก้าวกระโดด 3-4 เท่า ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าปี 2566 นักท่องเที่ยวจีน จะสูงกว่า 1 ล้านคน กระทรวงสาธารณสุขคาดตัวเลขที่ประมาณ 5 ล้านคน ส่วนกระทรวงคมนาคมและ ทอท.คาดการณ์ว่า จะมีผู้โดยสารสัญชาติจีนเดินทางผ่านสนามบินของ ทอท.ราว 7-10 ล้านคน การที่ไทยเปิดกว้างรับนักท่องเที่ยวจีน เป็นปัจจัยสำคัญกระตุ้นการเดินทาง โดยเฉพาะช่วงไฮซีซัน แต่คงต้องใช้เวลาที่จะให้กลับไปเท่าเดิม...!
