ฤกษ์งามยามดี 12.12 วันที่ 12 ธันวาคม 2565 บริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด ได้เปิดระบบชำระค่าโดยสารด้วยบัตรฮ็อป (Hop Card) บนรถที่มีการให้บริการเครื่องแตะบัตร นำร่อง 3 เส้นทางของสาขาพระประแดง ได้แก่ สาย 4-1 (สาย 6 เดิม) ท่าเรือพระประแดง-บางลำพู, สาย 4-3 (สาย 17 เดิม) พระประแดง-อนุสาวรีย์ชัย และสาย 4-34 วงกลมเคหะธนบุรี-พระประแดง
โดย บัตรฮ็อป (HOP Card) เป็นบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์แบบเติมเงิน สำหรับใช้ชำระค่า รถโดยสารพลังงานไฟฟ้าของไทยสมายล์บัส และ เรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไมน์ สมาร์ท เฟอร์รี่ ในอนาคตสามารถนำไปใช้จ่ายในระบบขนส่งสาธารณะอื่นได้ด้วย นำมาใช้ครั้งแรกกับเรือไมน์ สมาร์ท เฟอร์รี่ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เติมเงินได้สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อบัตร
เมื่อวันก่อน Ibusiness review ทดลองใช้บริการรถเมล์ไฟฟ้าไทยสมายล์บัส สาย 4-1 (สาย 6 เดิม) ท่าเรือพระประแดง-บางลำพู พบว่ามีการติดตั้งเครื่องแตะบัตรเพื่อตัดเงินอัตโนมัติแล้ว แม้จะขัดข้องทางเทคนิคเล็กน้อย แต่ก็ได้รับคำอธิบายการใช้งานจากบัสโฮสเตส (พนักงานเก็บค่าโดยสาร) จึงนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดให้ใช้บริการ
การนำบัตรฮ็อปมาใช้กับรถเมล์ไทยสมายล์บัส จะมีเครื่องแตะบัตรเพื่อตัดเงินอัตโนมัติ 2 จุด ได้แก่ ประตูหน้า 1 จุด และประตูกลาง 1 จุด ผู้โดยสารจะต้องแตะบัตรที่เครื่องประตูหน้าก่อน 1 ครั้ง โดยจะจัดเก็บค่าโดยสารสูงสุด (25-27 บาท) หลังจากนั้นเมื่อถึงปลายทางให้แตะบัตรที่เครื่องประตูกลางอีก 1 ครั้ง เพื่อปรับปรุงยอดค่าโดยสารตามจริง ก่อนจะลงจากประตูรถ
ปัจจุบัน ไทยสมายล์บัสกำลังทยอยติดตั้งอุปกรณ์ชำระเงินสำหรับใช้ในรถเมล์ 2 ประเภท ได้แก่ เครื่อง EDC เพื่อจำหน่าย E-Ticket และเครื่องแตะบัตรเพื่อตัดเงินอัตโนมัติ อีกด้านหนึ่ง จะมีการจำหน่ายบัตรฮ็อป กับบัสโฮสเตส (พนักงานเก็บค่าโดยสาร) สำหรับใช้กับเครื่องแตะบัตรฯ ใบละ 100 บาท มีวงเงินในบัตร 100 บาท เท่ากับว่าได้บัตรฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม
แม้ว่าอัตราค่าโดยสารที่กำหนดโดยกรมการขนส่งทางบกจะสูง แต่ในอนาคตจะมีการคิดค่าโดยสารแบบ Single Price หรือเหมาจ่ายราคาเดียวตลอดวัน ด้วยเครือข่ายรถเมล์และเรือไฟฟ้ามากกว่า 120 เส้นทางทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพียงพอที่จะให้เดินทางไป-กลับในราคาประหยัด พร้อมกับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกับการเดินทางแบบไร้มลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
หมายเหตุ : คอลัมน์ Ibusiness review ขอหยุดตีพิมพ์เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และจะกลับมาพบกับคุณผู้อ่านอีกครั้ง ประมาณวันพุธที่ 11 มกราคม 2566
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค พบกับคอลัมน์ Ibusiness review เป็นประจำทุกเช้ามืดวันพุธ ทางเว็บไซต์ ibusiness.co และเฟซบุ๊ก Ibusiness)
