xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ชี้เป้าส่งออก “อาหารกินเล่น” เจาะตลาดชิลี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้เป้าส่งออก “อาหารกินเล่น” เจาะตลาดชิลี เผย “ช็อกโกแลต ไอศกรีม ขนมขบเคี้ยว คุกกี้และสแน็กบาร์จากธัญพืชและผลไม้” มีโอกาสสูง แต่จะต้องให้ความสำคัญต่อสินค้าที่บริโภคแล้วดีต่อสุขภาพ

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้กรมฯ ทำการสำรวจลู่ทางการส่งออกให้กับสินค้าไทยไปยังประเทศต่างๆ ล่าสุดได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี ถึงโอกาสในการขยายการส่งออกสินค้าอาหารกินเล่นของไทยเข้าสู่ตลาดชิลี เพื่อป้อนความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับอาหารกินเล่นที่ได้รับความนิยมในตลาดชิลีมี 4 ประเภทหลัก ได้แก่ 1. ช็อกโกแลต ของหวาน 2. ไอศกรีม 3. ขนมขบเคี้ยว และ 4. คุกกี้และสแน็กบาร์จากธัญพืชและผลไม้ โดยช็อกโกแลต ของหวาน มีมูลค่าตลาดสูงที่สุด รองลงมา คือ ไอศกรีม ขนมขบเคี้ยว คุกกี้และสแน็กบาร์ และบริษัทยูโรมอนิเตอร์ (Euromonitor) ยังคาดการณ์ว่าตลาดอาหารกินเล่นในชิลีปี 2565 จะมีมูลค่า 2,690,589 ล้านเปโซชิลี หรือประมาณ 2.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9% และจะขยายตัวต่อเนื่องปีละประมาณ 5% ไปจนถึงปี 2570

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการบริโภคของชาวชิลีมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยหันมาใส่ใจการบริโภคสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลชิลีได้ออกกฎหมายบังคับให้ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดต้องแสดงเครื่องหมายอาหารเกินเกณฑ์ และโควิด-19 ที่ส่งผลให้คนหันมาบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยลง และบริโภคธัญพืชและผลไม้มากขึ้น

“จากความต้องการที่ตลาดอาหารกินเล่นในชิลีที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นโอกาสที่ดีในการส่งออกสินค้าอาหารกินเล่นของไทยไปยังชิลี เพราะไทยเป็นผู้ผลิตอาหารกินเล่น อาหารขบเคี้ยว สแน็กบาร์ระดับต้นๆ ของโลก เนื่องจากสินค้าไทยมีความหลากหลายและสามารถผลิตโดยใช้ส่วนประกอบจากธรรมชาติ เช่น สาหร่าย งา ข้าว ผลไม้ ธัญพืช มาเป็นส่วนประกอบ ซึ่งตรงตามที่ผู้บริโภคต้องการ จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาหารกินเล่นที่มีคุณค่าทางอาหาร มีกากใยสูง” นายภูสิตกล่าว

ทั้งนี้ กรมฯ ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ที่กรุงซานติอาโกดำเนินการประสานงานไปยังผู้นำเข้ารายสำคัญของชิลีแล้ว และหากผู้นำเข้ารายใดสนใจที่จะนำเข้าสินค้ากลุ่มนี้จากไทย กรมฯ และทูตพาณิชย์จะเร่งจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารกินเล่นของไทยเข้าสู่ตลาดชิลีต่อไป

ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดอาหารกินเล่นในชิลี มีผู้ผลิตรายใหญ่ 5 รายที่ครองตลาดสูงสุด คือ 1. บริษัท Nestle Chile S.A. มีสัดส่วนตลาดร้อยละ 28.4 2. บริษัท Empresas Carozzi S.A. มีสัดส่วนตลาดร้อยละ 19.7 ภายใต้แบรนด์ Ambrosoli 3. บริษัท Evercrisp Snack Productos de Chile S.A. มีสัดส่วนตลาดร้อยละ 9.2 4. บริษัท Industria de Alimentos Trendy S.A. มีสัดส่วนตลาดร้อยละ 5.5 และ 5. บริษัท ICB S.A. มีสัดส่วนตลาดร้อยละ 5.3 และหากพิจารณาตามแบรนด์ พบว่าแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. Costa 2. Savory 3. McKay 4. Ambrosoli 5. Marcho Polo
กำลังโหลดความคิดเห็น