xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ถกสหรัฐฯ ขอปลดไทยพ้นบัญชี WL ด้านทรัพย์สินทางปัญญา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“จุรินทร์” ถกผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ขอปลดไทยออกจากบัญชี WL ด้านทรัพย์สินทางปัญญา ในการพิจารณาเดือน เม.ย. 66 ย้ำไทยมีพัฒนาการดีขึ้นในระดับดีมาก ด้านสหรัฐฯ ชมไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปกได้ยอดเยี่ยม ขอร่วมมือในเวทีอินโด-แปซิฟิก และเตรียมนัดประชุม TIFA โดยเร็ว หลังหยุดไปเพราะโควิด-19 ตั้งแต่ปี 62

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนางแคทเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative : USTR) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า ประเด็นสำคัญที่ไทยได้หยิบยกมาหารือ คือในเดือน เม.ย. 2566 สหรัฐฯ จะพิจารณาในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง (WL) ซึ่งได้ขอให้สหรัฐฯ พิจารณาปลดไทยออกจากบัญชีนี้ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันไทยให้ความสำคัญต่อทรัพย์สินทางปัญญาในทุกด้าน ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นในระดับที่ดีมาก สหรัฐฯ รับทราบ และขณะนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญายังทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอที่ขอให้ปลดไทยออกจากบัญชี WL ซึ่งท่านรับไปพิจารณา

ทั้งนี้ ในปัจจุบันประเทศที่ยังติดบัญชี WL มีด้วยกัน 19 ประเทศ มีไทยอยู่ในนั้น หากสหรัฐฯ พิจารณาปลดออกจากบัญชีนี้จะทำให้สถานะประเทศไทยด้านการให้ความสำคัญต่อทรัพย์สินทางปัญญาดูดีขึ้น และมีภาพลักษณ์ทางการค้า ทางเศรษฐกิจ การลงทุนที่ดีขึ้นสำหรับหลายประเทศในโลกในอนาคต

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ทางสหรัฐฯ หยิบยกขึ้นมาหารือ คือการประชุมเอเปกที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ท่านแสดงความชื่นชมประเทศไทยที่ทำหน้าที่เจ้าภาพได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งปีหน้าสหรัฐฯ จะรับไม้ต่อจากไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกตนได้ให้ความมั่นใจว่าสหรัฐฯ จะทำหน้าที่เจ้าภาพได้ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกันกับประเทศไทยในปีนี้

ส่วนกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework : IPEF) มีความร่วมมือที่ได้กำหนดไว้ 4 เสาหลัก ได้แก่ 1. การค้า 2. ห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain 3. พลังงานสะอาด 4. ปราศจากการทุจริต เพื่อสร้างเศรษฐกิจที่เป็นธรรมให้เกิดขึ้น โดยทั้ง 4 เสาหลักนี้ไทยแสดงความจำนงเข้าร่วมก่อนหน้านี้แล้ว และได้เน้นย้ำอีกครั้ง เพราะในการพบกันในการประชุมครั้งที่แล้ว ตอนที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจเอเปกได้มีโอกาสพบกับท่าน ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งท่านขอบคุณไทยที่แจ้งความจำนงเข้าร่วม

รายละเอียดในการเข้าร่วม เช่น เสาการค้า กระทรวงพาณิชย์จะเป็นกระทรวงหลักในการรับผิดชอบ อาจจะมีเรื่องสิ่งแวดล้อม แรงงาน และเรื่องใหม่ที่จะเป็นประเด็นหารือต่อไป เช่น ดิจิทัลเทรด การอำนวยความสะดวกทางการค้าหรือความร่วมมือด้านเทคโนโลยีทางการค้า และความร่วมมือด้านเทคนิคต่างๆ ด้านการค้าและเศรษฐกิจ เป็นต้น โดยไทยจะร่วมหารือในรายละเอียดต่อไป

นอกจากนี้ สหรัฐฯ ได้แลกเปลี่ยนความเห็นในความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ในทางการค้า ซึ่งปัจจุบันไทยกับสหรัฐฯ มีกรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ (Trade and Investment Framework Agreement : TIFA) โดยเห็นตรงกันว่าควรได้มีการจัดการประชุมที่สหรัฐฯ ในครั้งถัดไป เพราะครั้งล่าสุดไทยเป็นเจ้าภาพมาแล้ว โดยมีการประชุมเมื่อปี 2562 แต่ที่หยุดไป เพราะสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่เอื้ออำนวย คาดว่าจะเร่งให้เจ้าหน้าที่สรุปโดยเร็วโดยสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น