อัพเดตพอร์ต เสี่ยยักษ์ - เสี่ยป๋อง เซียนหุ้นแถวหน้าเมืองไทย

นักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายประเทศ รวมถึงไทยต่างต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อหวังจะช่วยผยุงเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาสงครามรัสเซีย - ยูเครน ที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลให้สินทรัพย์เกิดความผันผวน และช่วงที่ผ่านมานักลงทุนรายใหญ่มีการแจ้งต่อ ก.ล.ต. ในการเข้าซื้อ หรือขายออกหุ้นเพื่อเป็นการปรับพอร์ตกันอยู่เป็นระยะ ๆ

ทั้งนี้เลยจะขอพาไปสำรวจอัพเดตพอร์ตของเซียนหุ้นแถวหน้าในเมืองไทย อย่างเสี่ยยักษ์ - วิชัย วชิรพงศ์ และเสี่ยป๋อง วัชระ แก้วสว่าง มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา โดยใช้ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ ณ วันที่ 30 กันยายน 2565

เสี่ยยักษ์ - วิชัย วชิรพงศ์ ปัจจุบันถือหุ้นอยู่ด้วยกัน 5 หลักทรัพย์ มูลค่ารวมกว่า 3,716,087,864.40 ล้านบาท (ไม่รวม PACE)

BEM บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ปรากฎข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 มี.ค.65 ถือลำดับที่ 7 จำนวน 360,458,157 หุ้น หรือ 2.36% คิดเป็นมูลค่า 3,316,215,044.40 บาท (คิดจากราคาปิด ณ 30 ก.ย.65 ราคา 9.20 บาท) ขณะที่ก่อนหน้านี้ปรากฎข้อมูลผู้ถือหุ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 ลำดับที่ 5 จำนวน 386,545,048 หุ้น หรือ 2.53%

บล.เอเซียพลัส เผยว่า เดือน ส.ค.65 การฟื้นตัวเนื่องจาก ผู้ใช้ทางด่วนอยู่ที่ 1.08 ล้านคันต่อวัน หรือคิดเป็น 90% ของช่วงก่อนเกิดโควิด และคาดว่า จะเห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องถึงสิ้นปี จากปัจจัยหนุนหลักการเปิดประเทศ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว การกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศหนุนการเดินทางสู่ภาวะปกติ

BIS บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) ปรากฎข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 25 ส.ค.65 ถือลำดับที่ 7 จำนวน 15,350,000 หุ้น หรือ 4.89% คิดเป็นมูลค่า 149,662,500 บาท (คิดจากราคาปิด ณ 30 ก.ย.65 ราคา 9.75 บาท) โดยเริ่มถือตั้งแต่ IPO วันที่ 28 เม.ย.65 ถือลำดับที่ 8 จำนวน 8,300,000หุ้น หรือ 2.64%

โดย BIS ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% ล่าสุด เดือน ต.ค.นี้ เตรียมเปิดไลน์การผลิตใหม่ “ผลิตอาหารเสริมสารทดแทนน้ำมันสำหรับสัตว์” ซึ่งถือว่าเป็นรายแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายวัตถุดิบกลุ่มพลังงานที่ราคาพุ่งแรงให้ฟาร์มทั่วประเทศ

ETC บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ปรากฎข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 มี.ค.65 ถือลำดับที่ 5 จำนวน 57,998,600 หุ้น หรือ 2.59% คิดเป็นมูลค่า 185,595,520 บาท (คิดจากราคาปิด ณ 30 ก.ย.65 ราคา 3.20 บาท) โดยเริ่มถือตั้งแต่ IPO วันที่ 13 ส.ค.63 ถือลำดับที่ 8 จำนวน 18,000,000 หุ้น หรือ 0.80%

ล่าสุด ETC ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อ ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568 อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ จำนวนเสนอขำยไม่เกิน 500,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาท เสนอขายวันที่ 20-21 และ 25 ต.ค.65 ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท โดยเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่

PACE บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปรากฎข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 16 มี.ค.63 ถือลำดับที่ 15 จำนวน 284,965,300 หุ้น หรือ 1.98% โดยเริ่มถือตั้งแต่ 6 ก.พ. 2560 ลำดับที่ 12 จำนวน 66,975,800 หุ้น หรือ 1.78%

ปัจจุบันอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ ก่อนหน้านี้ ตลาดหลักทรัพย์ ประกาศเพิกถอน PACE เนื่องจากบริษัทยังไม่นำส่งงบการเงินประจำปี 63 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.63 ภายในเวลาที่กำหนด โดยล่าช้าเกินกว่า 6 เดือนนับจากวันที่ 31 มีนาคม 2564 จนกระทั่งปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ ขึ้นเครื่องหมาย SP วันที่ 28 เม.ย.65 และวันที่ 29 เม.ย.65 ขึ้นเครื่องหมาย NP เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นงบการเงินได้

TH บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ปรากฎข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 17 พ.ค.65 ถือลำดับที่ 10 จำนวน 16,153,700 หุ้น หรือ 1.67% คิดเป็นมูลค่า 64,614,800 บาท (คิดจากราคาปิด ณ 30 ก.ย.65 ราคา 4.00 บาท) โดยเริ่มถือตั้งแต่ 14 มี.ค. 2565 ลำดับที่ 6 จำนวน 19,192,400 หุ้น หรือ 1.99%

ขณะที่เสี่ยป๋อง - วัชระ แก้วสว่าง ถือหุ้นตัวเดียวคือ KCC บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ปรากฎข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 25 ส.ค.65 ถือลำดับที่ 8 จำนวน 4,000,000 หุ้น หรือ 1.67% คิดเป็นมูลค่า 35,600,000 บาท (คิดจากราคาปิด ณ 30 ก.ย.65 ราคา 8.90 บาท) เริ่มถือตั้งแต่ 14 มี.ค. 2565 ลำดับที่ 6 จำนวน 19,192,400 หุ้น หรือ 0.65%

KCC ถือว่าเป็นหุ้นรวมนักลงทุนรายใหญ่ที่มีชื่อเสียงแถวหน้าของเมืองไทยไว้ ไม่ว่าจะเป็นเซียนฮง - สถาพร งามเรืองพงศ์ ถือลำดับที่ 4 จำนวน 19,284,900 หุ้น หรือ 3.11%, สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุลถือลำดับที่ 5 จำนวน 10,842,900 หุ้น หรือ 1.75% , สุระ คณิตทวีกุล เจ้าพ่อ COM7 ถือลำดับที่ 6 จำนวน 7,000,000 หุ้น หรือ 1.13%

ด้านโสภิศ แก้วสว่าง ภรรยาของเสี่ยป๋อง เข้าถือหุ้น CHIC บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่เริ่มไอพีโอ 22 พ.ค.65 ถือลำดับที่ 6 จำนวน 7,030,000 หุ้น หรือ 0.52% คิดเป็นมูลค่า 6,467,600 บาท (คิดจากราคาปิด ณ 30 ก.ย.65 ราคา 0.92 บาท)

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีความผันผวน อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนเลย นักลงทุนรายใหญ่อาจจะทำการลดสัดส่วนลงไปบ้าง โดยเฉพาะเสี่ยป๋องเมื่อรวมพอร์ตกับภรรยาแล้ว มีมูลค่ากว่า 42,067,600 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้นับย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 62 - ปี 64 เสี่ยป๋องถือ STARK , STPI , U , PLANB และ ITEL