28 กันยายน 2565 จะเป็นวันแรกที่ เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (ซีอาร์ซี) จะเปิดตัวค้าปลีกโมเดลใหม่ที่ชื่อว่า "ท็อปส์ คลับ" (Tops CLUB) เมมเบอร์ชิปสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ที่ด้านหลังศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 2 บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร จำหน่ายสินค้านำเข้าคุณภาพพรีเมียมกว่า 3,500 รายการ ในราคาที่คุ้มค่าแบบที่ไม่ต้องบินไปไกล
Ibusiness review มีโอกาสเยี่ยมชมบรรยากาศภายในสโตร์ โดยมี จิตรลดา ณ เชียงใหม่ General Manager ของท็อปส์คลับ พาไปแนะนำ ซึ่งที่นี่เป็นอาณาจักรสินค้านำเข้าแบรนด์ดังจากทั่วโลก ครบครันทั้งของกินของใช้ การันตีคุณภาพและราคาที่ดีที่สุดสำหรับสมาชิก ถือเป็นค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในเมืองไทย เชื่อว่าจะเขย่าวงการค้าปลีกให้คึกคักในปลายปีนี้
จุดเด่นของท็อปส์คลับก็คือ จะมีสินค้านำเข้าจากทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฯลฯ เป็นสินค้าแพ็คใหญ่ ราคาประหยัดกว่าขายปลีก เจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไปทั้งคนไทย รวมทั้งชาวต่างชาติที่พักอาศัยในประเทศไทย (Expat) โดยเน้นไปที่ลูกค้าซื้อไปบริโภคเอง พร้อมจุดชิมสินค้าตัวอย่างกว่า 40 จุด ที่ให้ลูกค้าทดลองชิมก่อนตัดสินใจซื้อ
สินค้าไฮไลต์ของท็อปส์ คลับ ได้แก่ แบรนด์ KIRKLAND ที่นิยมในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ถั่ว, ไอศกรีม KILLINCHY GOLD นำเข้าจากนิวซีแลนด์ 6 รสชาติ, ตุ๊กตาหมีไซส์ยักษ์ สูงกว่า 3 เมตร, แพยางยูนิคอร์น นกฟลามิงโก้ไซส์ยักษ์ 8 ที่นั่ง, เมล็ดกาแฟนำเข้าจากจาเมกา โคลัมเบีย เปรู พร้อมบริการบดฟรี, ชารอยบอส (ROOIBOS) จากแอฟริกาใต้ เป็นต้น
ที่นี่ออกแบบในสไตล์ Warehouse Store แบ่งเป็น 3 โซน 5 ประเภทหลัก ได้แก่ 1. Dry Grocery and Beverage (Non-Alcohol) อาหารแห้ง ของชำ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 2. Fresh food อาหารสด 3. Alcohol เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไวน์ สุรา 4. General Merchandising สินค้าทั่วไป และ 5. Consumable สินค้าที่ใช้แล้วหมดไป เช่น ของใช้ในบ้าน (Household)
ที่ผ่านมาได้เปิดป็อป-อัพสโตร์ไปเมื่อเดือน ก.ค. 2565 ที่เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ เมกา บางนา พบว่าผลตอบรับดี มีผู้สนใจสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมกว่า 12,000 ราย ส่วนมากอายุ 30 ปีขึ้นไป ที่นี่ต่างจากโมเดลค้าส่งรูปแบบอื่น คือ สินค้าที่จำหน่ายจะเป็นสินค้าแพกใหญ่ในราคาประหยัด สำหรับใช้เอง แบ่งกับเพื่อน หรือเป็นของขวัญ ไม่ใช่สินค้าขายยกโหล
ต่างจากห้างค้าส่งรูปแบบอื่นที่จะเป็นสินค้ายกโหล ขายยกหีบ เน้นผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านโชวห่วย ฯลฯ แต่ก็มีกลุ่มลูกค้าร้านอาหาร เช่น ร้านอาหารอิตาลี ที่ต้องการเครื่องปรุงเป็นการเฉพาะ
ที่นี่จะมีทางเข้าและทางออกแยกกันเป็นสัดส่วน เริ่มจากโซนที่ 1 เคาน์เตอร์สมัครสมาชิก เข้าไปแล้วเริ่มแรกจะได้พบเห็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์กลางแจ้ง เต็นท์ เก้าอี้สนามขนาดใหญ่ ชุดเตา-อุปกรณ์ย่างบาร์บีคิว อุปกรณ์กีฬา เครื่องครัว สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ของใช้ในบ้าน เครื่องครัว อุปกรณ์รถยนต์ อุปกรณ์กีฬา เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ
สินค้าไฮไลต์โซนนี้ มีทั้งเก้าอี้เกมมิ่งดีไซน์ล้ำ ตุ๊กตาหมีไซส์ยักษ์ สูง 3 เมตร ของเล่นเด็กปลอดสารพิษ แพยางยูนิคอร์น นกฟลามิงโกไซส์ยักษ์ รองรับได้ 8 คน ซึ่งพบว่ามีผู้ประกอบการโรงแรมให้ความสนใจซื้อไปรับรองลูกค้า อุปกรณ์กลางแจ้งทั้งเต็นท์ เก้าอี้สนามจากแบรนด์ Ozark Trail, เตาบาร์บีคิว Expert Grill, แป้นบาสเกตบอล Lifetime เป็นต้น
มาถึงโซนที่ 2 อาหารแห้ง ของกิน เส้น เครื่องปรุง ลักษณะคล้ายกับห้องเย็น มีจุดชิมสินค้า ซึ่งทั่วสโตร์มีมากกว่า 40 จุด เช่น ชา กาแฟ ที่มีคอฟฟี่บาร์สำหรับชิม สินค้าไฮไลต์ คือ บะหมี่ THE DEVIL OF FIRE จากเกาหลีใต้ ขึ้นชื่อว่าเผ็ดที่สุด, ซอสปรุงรส MASTER สำหรับอาหารจีน, สาหร่ายจากเกาหลี, ถั่ว HARVEST BOX ด้านในจะเป็นตู้แช่ไอศกรีม KILLINCHY GOLD
ถัดจากนั้นจะเป็นตู้แช่ที่ออกแบบพิเศษ จำหน่ายและสต็อกสินค้าไปในตัว มีสินค้าแช่แข็งนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น มีทบอล เนื้อบดเกรดนำเข้า, ผลิตภัณฑ์ติ่มซำระดับภัตตาคาร Chan's Yum Cha at Home และยังมีห้องเย็นแบบ Walk-in Cooler ที่ลูกค้าสามารถสัมผัสความเย็นเข้าไปหยิบผักสด ผลไม้สดได้ด้วยตัวเอง เช่น ส้มนาเวลจากออสเตรเลีย แอปเปิล เบบี้แครอท
โซนที่ 3 อาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเลนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น เนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อปลาแซลมอน หอยนางรม หอยเชลล์ ลอบสเตอร์ ซึ่งจะบรรจุแบบพรีแพค ถัดจากนั้นจะเป็นอาหารพร้อมรับประทาน เบเกอรี อีกด้านหนึ่งจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น สุรา ไวน์ราคาตั้งแต่หลักร้อยถึงเกือบ 5 หมื่นบาท แคชเชียร์ 32 ช่อง ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย จุดบริการสมาชิก
ก่อนถึงแคชเชียร์ฝั่งทางออกจะมี คาเฟ่ ซึ่งมีขนมที่ใช้วัตถุดิบนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา เช่น ฮอตดอกที่เป็นไส้กรอกเนื้อ พายไก่อบ พิซซา พร้อมที่นั่งรับประทานอาหารในร้าน หรือจะซื้อกลับบ้านก็ได้เช่นกัน โซนนี้มีสินค้าไฮไลต์ประเภทขนมก็คือ คุกกี้เดนมาร์คแท้จาก JACOBSENS BAKERY คุกกี้ทำจากเนยแท้ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์ม เหมาะกับเป็นของขวัญในช่วงปีใหม่
เบื้องหลังกว่าจะมาเป็นท็อปส์คลับ ใช้เวลาพัฒนาคอนเซปต์กว่า 2 ปี โดยใช้โมเดลที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศ เช่น คอสต์โค (Costco) จากสหรัฐอเมริกา สำหรับที่นี่จะมีทั้งสมาชิกทั่วไปซึ่งสมัครฟรี และสมาชิกระดับพรีเมียม โดยป้ายราคาจะระบุราคาสมาชิกทั่วไป และสมาชิกพรีเมียมที่ลดแล้ว ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายจะมีหมุนเวียนตลอดทั้งสัปดาห์ และสินค้าตามเทศกาล
เหตุผลสำคัญที่เลือกย่านพระราม 2 เป็นแห่งแรก เพราะจากฐานลูกค้าพบว่ามีกำลังซื้อที่สูง มีที่อยู่อาศัยราคาสูงนับร้อยโครงการ และมีครัวเรือนที่อยู่อาศัยโดยรอบนับล้านคน แต่ก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องอยู่ย่านนี้ คนที่อยู่ย่านอื่นอาจจะเดินทางมาซื้อสินค้าที่นี่ 2-3 เดือนต่อครั้ง ซึ่งสินค้าจะจำหน่ายจะเป็นแบบแพ็คใหญ่ นอกจากราคาประหยัดแล้ว ยังกินหรือใช้งานได้ยาวนานกว่า
การเดินทางจากดาวคะนอง มาตามถนนพระรามที่ 2 ขึ้นสะพานกลับรถเข้าเซ็นทรัล พระราม 2 ตรงไปถึงสามแยก เลี้ยวขวาแล้วเลี้ยวซ้าย หรือถ้ามาจากถนนเอกชัย สามารถเข้าซอยเอกชัย 83/1 ต่อเนื่องพระรามที่ 2 ซอย 54 เลยโรงเรียนนานาชาติเบซิสไปแล้ว เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสำนักงานที่ดินสาขาบางขุนเทียน ท็อปส์คลับจะอยู่ซ้ายมือ มีลานจอดรถและอาคารจอดรถให้บริการ
ส่วนใครที่มามือเปล่า ไม่ได้ขับรถมาเอง มีรถแท็กซี่จอดอยู่ที่ประตูด้านหลัง ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 2 ให้บริการพอดี
(พิกัด GPS คลิก https://goo.gl/maps/B92aRaLaBaZhg4dQ6)
ท็อปส์ คลับ เปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ 10.00-22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 08.00-22.00 น. สมาชิกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ สมาชิกทั่วไป สมัครฟรี และสมาชิกระดับพรีเมียม 999 บาทต่อปี (ช่วงแนะนำถึง 31 ต.ค. 2565 เหลือ 799 บาทต่อปี) รับส่วนลด 5% และเมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่านแอปฯ Tops CLUB ส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถึง 31 ธ.ค. 2566
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค พบกับคอลัมน์ Ibusiness review เป็นประจำทุกเช้ามืดวันพุธ ทางเว็บไซต์ ibusiness.co และเฟซบุ๊ก Ibusiness)