xs
xsm
sm
md
lg

GMM ดันเพลงไทยสู่ Soft Power

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้จัดการรายวัน 360 - จีเอ็มเอ็มแกรมมี่รุกแผนสร้าง Ecosystem หนุนธุรกิจเพลงให้เติบโตอย่างยั่งยืน ต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมเพลงไทย รวมทั้งนำเพลงไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมดนตรีระดับโลก โดยหวังให้เป็น Soft Power สร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้แก่ประเทศไทย

หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลให้อุตสาหกรรมดนตรีระดับโลกเริ่มฟื้นตัวและกลับมาเติบโตอีกครั้ง ซึ่งเทรนด์ตลาดเพลงโลกในปัจจุบันได้แสดงให้เห็นว่า กระแสเพลงเคป็อป ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ คนเริ่มให้ความสนใจกลับมาฟังเพลงเก่ามากขึ้น รวมไปถึงแพลตฟอร์ม TikTok กลายเป็นสื่อที่ช่วยโปรโมตเพลงผ่านวิดีโอขนาดสั้นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งคอนเสิร์ตและมหกรรมดนตรีต่างๆ เริ่มกลับมาแสดงอีกครั้ง สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าอนาคตของอุตสาหกรรมดนตรีเริ่มที่จะสดใส

จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้ จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ มองเห็นโอกาสในการต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมเพลงไทย รวมทั้งนำเพลงไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมดนตรีระดับโลก โดยหวังให้เป็น Soft Power ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับประเทศไทย


นรมน ชูชีพชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในด้านของอุตสาหกรรมเพลงไทย คนไทยยังนิยมฟังเพลงไทยมากถึง 78% ส่วน 22% เป็นเพลงต่างชาติ โดยมีสัดส่วนประเภทเพลงลูกทุ่งถึง 48% และ 34% เป็นเพลงกระแสหลัก อย่าง ป็อป, ร็อก, เรโทร, เพลงเก่า ที่เหลือ 18% จะเป็นเพลงกระแสใหม่ที่กำลังมาแรงประเภทไอดอล ฮิปฮอป อินดี้

หากพูดถึงมาร์เกตแชร์ของแกรมมี่ในตลาดเพลงไทยตามประเภทแนวเพลง เรามีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% ในทุกประเภท โดยเฉพาะเพลงร็อกเรามีสัดส่วนถึง 91% ส่วนประเภทอื่นๆ อย่างเพลงในกระแส ประเภท ป็อป, เรโทร และเพลงเก่าอยู่ที่ 58% ส่วนเพลงลูกทุ่งอยู่ที่ 63% แสดงให้เห็นว่าธุรกิจเพลงของแกรมมี่ยังได้รับความนิยมและสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราจึงเดินหน้าสร้าง Ecosystem ให้กับธุรกิจเพลงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ดังนี้


1. กระบวนการสรรหา : เปิดรับสมัครออดิชันเฟ้นหาเด็กรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์ไม่ว่าจะเป็น ป็อป ไอดอล ร็อก, อินดี้ ลูกทุ่ง และ ไทดอล นำมาฝึกฝนเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเป็นศิลปินฝึกหัด อีกทั้งเพื่อเสริมกำลังในการพัฒนาคนเข้าสู่วงการเพลงมากขึ้น

2. กระบวนการพัฒนา : ศิลปินฝึกหัดทุกคนจะได้รับการพัฒนาทักษะด้านต่างๆจากสถาบัน สอนวิชาชีพศิลปินด้วยมาตรฐานระดับโลก คือ จีเอ็มเอ็ม อะคาเดมี เพื่อมุ่งสู่การเป็นศิลปินมืออาชีพ ที่ได้มาตรฐานระดับสากล

3. กระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน : เมื่อฝึกฝนจนผ่านมาตรฐาน International Quality Training Program และมีศักยภาพในการเป็นศิลปินมืออาชีพ ซึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินแต่ละคน เรามุ่งดึงศักยภาพและความเป็นตัวตนของศิลปินออกมาทั้งสไตล์เพลง คาแรกเตอร์ จนพร้อมที่จะออกสู่ตลาด เมื่อออกไปแล้วเรายังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นมืออาชีพ เป็นซูเปอร์สตาร์ต่อไป


นอกจากนี้ยังได้มีแผนเปิดตัวค่ายเพลงเพิ่มเติมเพื่อรองรับความหลากหลายทางดนตรีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวค่ายเพลง ไทดอลมิวสิค เพื่อเจาะกลุ่มแฟนคลับ คนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นวัยรุ่นในภาคอีสาน รองรับกระแสลูกทุ่งอีสานเลือดใหม่ที่กำลังมาแรง ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน คือ การสร้างเพลงไทยให้ไปสู่ระดับสากล ดังนั้น เราจึงต้องพัฒนาศิลปินให้มีจุดเด่น ประกอบกับพัฒนาเพลงให้มีความหลากหลายทางดนตรีมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้ปรากฏสู่สายตาทั่วโลกและนำไปสู่การเป็น Soft Power ที่สำคัญของประเทศ ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้าประเทศรวมไปถึงอุตสาหกรรมเพลงไทยได้อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันแกรมมี่ได้สร้างศิลปินเลือดใหม่ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมในหลายเซกเมนต์ โดยแบ่งเป็น ประเภทร็อก ได้แก่ ไททศมิตร, ทรีแมนดาวน์, ทิลลี่เบิร์ด, โจอี้ ภูวศิษฐ์ เจ้าของ เพลงฮิต ดวงเดือน 170 ล้านวิว และเพิ่งสร้างปรากฏการณ์ 100 ล้านวิวยูทูบภายใน 2 สัปดาห์ กับเพลงนะหน้าทอง รวมทั้งวง PAPER PLANES สามารถขึ้นอันดับ 1 ของชาร์ต JOOX ติดต่อกัน 5 สัปดาห์ จากเพลง เสแสร้ง พร้อมยอดวิว 85 ล้านภายในระยะเวลาไม่นาน นอกจากนี้ยังมี วง CLOCKWORK MOTIONLESS กับเพลง ปล่อย ที่ฮอตฮิตทั่วประเทศพร้อมยอดวิว 209 ล้าน และวง ONLY MONDAY วงดนตรีอินดี้ร็อกที่กำลังมาแรง


ประเภทลูกทุ่ง-ไทดอล ที่มีฐานแฟนคลับนับล้านบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้แก่ ลำเพลิน วงศกร ที่มีผู้ติดตามบน Youtube 1.65 ล้านคน และแอปพลิเคชัน TikTok 1.2 ล้านคน เบลล์-นิภาดา ที่มีผู้ติดตามในแอปพลิเคชันTikTok 4.7 ล้านคน และFacebook 1.2 ล้านคน มีนตรา อินทิรา ที่มีผู้ติดตามในแอปพลิเคชันTikTok 1.2 ล้านคน และ Facebook 7.6 แสนคน ยังมี ตรี ชัยณรงค์ เจ้าพ่อพวงมาลัยเงินล้าน, เวียง นฤมล, เบียร์ พร้อมพงษ์, เน็ค นฤพล, ออยเลอร์ เบนซ์ เมืองเลย และ จา สิงห์ชัย

ในส่วนศิลปินประเภทป็อป เริ่มต้นต้อนรับวาระครบรอบ 36 ปี พร้อมเปิดอัลบั้มที่ 22 ของซูเปอร์สตาร์ตลอดกาล เบิร์ด​ ธงไชย แมคอิน​ไตย์ ที่เปิดตัวส่งความสุขอย่างทั่วถึงทุกคนแบบ 720 องศา, ป๊อบ ปองกูล กับเพลง สลักจิต ที่ติดชาร์ตอันดับ 1 Billboard Thailand, อะตอม ชนกันต์ ศิลปินมากฝีมือเจ้าของเพลงฮิตมากมาย รวมถึง meyou ศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรง ที่มีเอกลักษณ์​สไตล์เพลงเฉพาะตัว กับเพลงฮิตโดนใจวัยรุ่นหลายเพลง นอกจากนี้ยังมีศิลปินนิวเจเนอเรชันที่กำลังมาแรง เป็นที่น่าจับตา อย่าง โมนิก้า, มัจฉา และ คิน ธนชัย ที่ได้รับโอกาสให้เป็นพรีเซ็นเตอร์​สินค้า รวมทั้งศิลปินฝึกหัดจาก GMM ACADEMY จำนวน 100 คน

นอกจากนี้ยังได้ร่วมเป็น Media Partner กับสื่อชั้นนำต่างๆ เช่น วีจีไอ (VGI), รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ตั้งอยู่ในแหล่ง landmark สำคัญใจกลางเมือง เช่น สยามสแควร์, อโศก เป็นต้น โดยนำศิลปิน ในเครือแกรมมี่มาสร้าง Interactive ด้วย Content 3D เพื่อเชื่อมต่อศิลปินกับแฟนคลับให้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น อีกทั้งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการพัฒนาสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้มีความสนุกน่าสนใจและสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาการสื่อสารการตลาดผ่านเสียงเพลง (Music Marketing) ให้มีรูปแบบที่แปลกใหม่หลากหลาย น่าสนใจเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนและเข้าถึงมากขึ้น












กำลังโหลดความคิดเห็น