xs
xsm
sm
md
lg

“กาแฟพันธ์ุไทย” รุกแฟรนไชส์-นอกปั๊ม พีทีเล็งเฮลตี้-ลีสซิ่งเสริมนอนออยล์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้จัดการรายวัน 360 - พีทีเสริมแกร่งธุรกิจนอนออยล์ เล็งประกัน เฮลตี้ ลีสซิ่ง ล่าสุดเดินหน้าแผนเชิงรุกกาแฟพันธ์ุไทยเต็มสูบ โหมโมเดลแฟรนไชส์ เป้าปีหน้าเปิดครบ 1,500 สาขา

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือพีทีจี/PTG เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจนอนออยล์ (Non Oil) มากขึ้น เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ ประกัน การเช่าซื้อ เป็นต้น เนื่องจากต้องการสร้างรายได้ให้เติบโตมากขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ มีฐานลูกค้าจำนวนมากกว่า 17 ล้านรายแล้วที่ถือบัตรแม็กซ์การ์ดและบัตรแม็กซ์การ์ดพลัสของบริษัท และคาดว่าจะเป็น 19 ล้านคนในปีหน้า จึงมีข้อมูลพฤติกรรมและความต้องการการใช้จ่ายของสมาชิก
 


ขณะนี้มีการศึกษาไว้บ้างแล้วในแต่ละส่วน โดยรูปแบบการทำธุรกิจมีทั้งการจอยต์เวนเจอร์ การพัฒนาเอง หรือแม้แต่การซื้อกิจการก็เป็นไปได้ โดยสัดส่วนรายได้นอนออยล์ขณะนี้มีประมาณ 10-12% จากรายได้รวมมากกว่า 1 แสน 3 หมื่นกว่าล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว (2564)

สำหรับธุรกิจร้านกาแฟพันธ์ุไทยจากนี้ไปมีนโยบายทำธุรกิจในเชิงรุกมากขึ้นหลังจากที่ดำเนินการมาครบ 10 ปีแล้วและเริ่มมีกำไรเมื่อไตรมาสที่สี่ปีที่แล้ว ซึ่งผลประกอบการครึ่งปีแรกนี้ทำรายได้กว่า 480 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 2 เท่าจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และล่าสุด 2 เดือนแรกของไตรมาสที่ 3/2565 ทำรายได้แล้ว 230 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะเติบโต 120% โดยปีหน้าตั้งเป้าหมายให้แบรนด์อะแวร์เนสขึ้นเป็นอันดับที่สอง จากปีนี้อันดับที่สี่

โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสาขาร้านกาแฟพันธ์ุไทยให้ได้เป็น 1,500 สาขาภายในปีหน้า (2566) และจะเป็น 5,000 สาขาภายใน 5 ปีจากนี้ จากปีที่แล้วที่มี 300 สาขา และขณะนี้มี 500 สาขา และภายในสิ้นปีนี้จะมี 600 สาขา ขณะที่รายได้รวมกาแฟพันธ์ุไทยปีนี้จะมีประมาณ 1,200 ล้านบาท และปีหน้าจะทำรายได้ประมาณ 2,400 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ย 50% ต่อปี ไม่ต่ำกว่า 5 ปี


ขณะที่ตลาดรวมกาแฟนอกบ้านปีนี้มีประมาณ 28,000-29,000 ล้านบาท เติบโต 10% ต่อเนื่องทุกปี จากปัจจัยที่คนไทยยังมีการบริโภคกาแฟน้อย 300 แก้วต่อคนต่อปี เทียบกับประเทศญี่ปุ่นที่ดื่ม 400 กว่าแก้วต่อคนต่อปี เป็นต้น จึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งการแข่งขันของผู้ประกอบการเองที่รุนแรงทำให้ตลาดรวมเติบโตด้วย

กลยุทธ์จากนี้จะใช้งบการตลาดที่ชัดเจนจากเดิมที่ไม่ค่อยได้เน้นการทำตลาด และจะใช้โมเดลขายแฟรนไชส์ทั้งรายเดียว หลายสาขาและซับแอเรียแฟรนไชส์ ซึ่งจะขยายสาขานอกปั๊มพีทีมากขึ้นด้วย จากปัจจุบันมากกว่า 70% ที่เปิดในปั๊มพีทีของเรา จากทั้งหมด 2,200 ปั๊มพีที โดยต้องการสัดส่วนสาขาที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 50%, อีสาน 15% และอื่นๆ ที่เหลือ งบลงทุนแฟรนไชส์ประมาณ 1.25 ล้านบาท และต้องการสัดส่วนสาขาของแฟรนไชส์ประมาณ 80% ภายในปี 2570 จากปัจจุบันที่มีสาขาแฟรนไชส์ประมาณ 40-45% ซึ่งก่อนหน้านี้ขยายสาขาเฉลี่ยเพียง 50-60 สาขาต่อปีเท่านั้น

รวมไปถึงการขยายไลน์สินค้ามากขึ้น ที่ไม่ใช่กาแฟเป็นหลัก เช่น เครื่องดื่มอื่นๆ และขนมหวาน และอาหาร เป็นต้น


นางสาวบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ที่ปรึกษาด้านแบรนดิ้ง กาแฟพันธุ์ไทย กล่าวว่า

  1. การขยายสาขาทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมัน
    เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการให้บริการให้ครอบคลุม
    และให้สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและง่ายในการเข้าถึงลูกค้าของกาแฟพันธุ์ไทยมากขึ้น สำหรับการขยายสาขานอกสถานีบริการน้ำมันพีที เน้นการขยายสาขาใจกลางเมืองในย่านธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล เมืองท่องเที่ยว รวมไปถึงหัวเมืองตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนทำงาน ซึ่งกลยุทธ์ในการขยายสาขาในอนาคต กาแฟพันธุ์ไทยจะมุ่งเน้นในการขยายสาขาโดยการขายแฟรนไชส์ด้วยรูปแบบการลงทุนที่หลากหลายโมเดลเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละทำเลพื้นที่ และงบประมาณการลงทุน


ปัจจุบันร้านกาแฟพันธุ์ไทยมีสาขาเปิดให้บริการกว่า 500 สาขา มีสัดส่วนของสาขาที่ยู่ในสถานีบริการน้ำมัน 70% สาขานอกสถานีบริการน้ำมันอีก 30% ซึ่งภายในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 1,500 สาขาทั่วประเทศ โดยเปิดรับแฟรนไชส์รายใหม่ๆด้วยรูปแบบการลงทุนที่ง่าย คุ้มค่าแก่การลงทุน แม้ไม่มีประสบการณ์ก็เปิดร้านได้ บริษัทฯ มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาและแนะนำไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบริหารจัดการร้าน, วัตถุดิบต่างๆ รวมถึงการควบคุมคุณภาพและรสชาติของเครื่องดื่มและอาหารภายในร้าน โดยลงทุนเริ่มต้นเพียง 1.25 ล้านบาท/สาขา เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถเป็นเจ้าของร้านกาแฟพันธุ์ไทยได้ง่ายๆ ธนาคารที่เป็นพาร์ตเนอร์สำหรับพิจารณาสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษเพื่อการลงทุนโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับผู้ที่ยังไม่มีทำเลที่ตั้ง ทางบริษัทจะนำเสนอทำเลให้ผู้สมัครแฟรนไชส์พิจารณาตามความเหมาะสม ลงทุนก่อนมีสิทธิ์เปิดร้านก่อน และทางบริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้เข้ามาร่วมเป็นเอ็กเซกคลูซีฟแฟรนไชส์ (Sub-Area Franchise) อีกด้ว   ย        


2. การออกสินค้าใหม่ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์แตกต่างจากคู่แข่ง โดยชูวัตถุดิบของไทยรสชาติดี และหาได้ยาก มาทำเป็นเครื่องดื่ม ทั้งน้ำตาลดอกมะพร้าวจากอัมพวา จ.สมุทรสงคราม, ตาลโตนดจาก อ.สทิงพระ จ.สงขลา, ส้มมะปี๊ด จาก จ.จันทบุรี และสินค้าใหม่ล่าสุดอย่าง “ไทยดีเสริฐ” ขนมไทยดื่มได้ ที่ใช้วัตถุดิบ ลอดช่อง จาก จ.เชียงใหม่ และฝอยทองจากอยุธยา นอกจากจะเป็นการสร้างความน่าสนใจของสินค้าของทางพันธุ์ไทยแล้ว บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นและตั้งใจสนับสนุนชุมชน และเกษตรกร ในการเพิ่มมูลค่าผลผลิต สร้างงาน สร้างอาชีพให้ชุมชนและเกษตรกร ให้ “อยู่ดีมีสุข” และเติบโตอย่างยั่งยืน

การวางกลยุทธ์ทางการตลาดและการสื่อสารแบรนด์ผ่านช่องทางดีลิเวอรี โดยเน้นความสะดวกการเข้าถึง (Accessibility) ของลูกค้า เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ (Awareness) และการมองเห็นแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้น (Visibility) ซึ่งส่งผลในปี 2564 ที่ผ่านมายอดขายผ่านช่องทางดีลิเวอรีเติบโตมากขึ้นถึง 4 เท่า
3. การนำข้อมูลลูกค้าจากบัตรสมาชิก Max Card และ Max Card Plus ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 17 ล้านคนทั่วประเทศ มาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพิ่มยอดขาย และเพิ่มทั้งความถี่ของการเข้ามาใช้บริการในร้านกาแฟพันธุ์ไทยให้เพิ่มมากขึ้น

ในครึ่งปีหลังนี้เราจะ refresh แบรนด์ใหม่ผ่านวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่เปรียบเสมือนเป็น “ดาวเหนือ” ในการทำให้แบรนด์กาแฟพันธุ์ไทยเป็นแบรนด์กาแฟของ “คนไทยพันธุ์ใหม่” ที่มีความกล้าคิด กล้าทำ ในสิ่งใหม่ๆ รวมไปถึงการใช้ไอเดียความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ซึ่งเราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าความกล้าที่จะคิดรวมถึงการใช้ชีวิตนอกกรอบ จะสามารถช่วยสร้างสรรค์สิ่งดีๆ และมุมมองใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยของเราอย่างแน่นอน ซึ่งสุดท้ายนี้ภารกิจของเราคือการเปิดและสร้างสรรค์โอกาสให้ผู้คนที่อยากแสดงศักยภาพความเป็นคนไทยพันธุ์ใหม่ให้เกิดขึ้นกับแบรนด์กาแฟพันธุ์ไทย

"เนื่องในโอกาสครบ 10 ปี กาแฟพันธุ์ไทยได้ทุ่มงบกว่า 20 ล้านบาทส่งแคมเปญ “เวลาเป็นไท” แคมเปญที่ได้ใจ “คนทำงาน” ในหลากหลายอาชีพ ได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับแคมเปญ อาทิ การสนับสนุนให้เวลาเป็นไทของพนักงานออฟฟิศ ชวนมาพักผ่อนด้วยการดื่มกาแฟในช่วงเวลาเป็นไท ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก 3 พาร์ตเนอร์ ได้แก่ AP Thailand, SEAC และ Shopee Food ในการร่วมแคมเปญเพื่อมอบเวลาเป็นไทแก่พนักงานทุกคน พร้อมเตรียมยกทัพ “คาราวานพันธุ์ไทย” ส่งมอบเครื่องดื่มคุณภาพจากร้านกาแฟพันธุ์ไทยเพื่อเป็นการขอบคุณบริษัทพาร์ตเนอร์ และมอบรางวัลในช่วงเวลาเป็นไทให้แก่พนักงานทุกท่าน รวมถึงการเปิดอิสระในการสร้างอาชีพให้คนไทยสามารถเป็นเจ้าธุรกิจร้านกาแฟพันธุ์ไทยได้ด้วยตัวเอง พร้อมกับส่งโปรโมชัน ฉลองครบรอบ 10 ปี ในช่วง “เวลาเป็นไท” ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนเป็นต้นไป สั่งเครื่องดื่มจากร้านกาแฟพันธุ์ไทยแก้วที่ 2 ได้ในราคาเพียง 10 บาทเท่านั้น (เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด) พร้อมโปรโมชันพิเศษอีกมากมาย” นางสาวบุณย์ญานุชกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น