xs
xsm
sm
md
lg

“แม่โอ๊ะโอ” หมูสะเต๊ะสูตรฮ่องกง โดนใจคนไทยขายวันละ 20,000 ไม้ ตั้งเป้า 1 ล้านไม้/เดือน เบอร์ต้นๆ ได้โกอินเตอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



หมูสะเต๊ะ เมนูปิ้งย่างที่โดนใจหลายคน หมูสะเต๊ะเป็นอาหารที่ไทยได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมการกินมาจากเกาะชวา เกาะสุมาตราประเทศ อินโดนีเซีย ซึ่งจุดกำเนิดจริงอินโดนีเซียน่าจะนำมาจากประเทศอินเดียอีกที่หนึ่ง ปัจจุบัน หมูสะเต๊ะเป็นที่นิยมในหลายประเทศในแถบเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และฮ่องกง ฯลฯ

เดิมหมูสะเต๊ะต้นตำรับจริงใช้เนื้อวัว หรือ เนื้อแพะ แต่ประเทศไทยมีการปรับมาใช้เนื้อหมู เพราะเป็นเนื้อสัตว์หาได้ง่าย และรสชาติถูกปากคนไทยมากกว่าเนื้อวัว หรือเนื้อแพะ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่นิยมกิน สูตรการทำหมูสะเต๊ะของแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไป แต่ที่ได้รับการกล่าวถึงรสชาติความอร่อยของสะเต๊ะ คือที่ ฮ่องกง


หมูสะเต๊ะตำรับฮ่องกง แจ้งเกิดชลบุรี แฟรนไชส์ 40 สาขา

โดยแม่โอ๊ะโอ หมูสะเต๊ะ ได้สูตรต้นตำรับมาจากฮ่องกง ซึ่งเจ้าของสูตรเคยไปทำงานด้านอาหารที่ฮ่องกง จึงได้นำสูตรหมูสะเต๊ะมาทำขายที่ประเทศไทย เปิดร้านเล็กทำกันในเดิมครอบครัว แต่ขายดีมากถูกปากคนไทย ไม่ได้มีแฟรนไชส์ ไม่ได้มีการทำขายส่ง แต่อย่างใด หลังจากที่ “อารดา เกียรติเสรี” เจ้าของหมูสะเต๊ะแม่โอ๊ะโอ ซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวได้ย้ายตามสามีมาอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ได้นำสูตรหมูสะเต๊ะของที่บ้านมาเปิดขายที่จังหวัดชลบุรี

อารดา เล่าว่า ตนเองได้ขายหมูสะเต๊ะมาได้ 15 ปี ซึ่งได้สูตรมาจากครอบครัวซึ่งเป็นหมูสะเต๊ะฮ่องกง ที่ได้มีการนำมาปรับแต่งใหม่ให้ถูกปากคนไทย หลังจากเปิดที่จังหวัดชลบุรีได้ 2 ปี ผลตอบรับดีมาก มีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์ ตัดสินใจเปิดขายแฟรนไชส์เฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันมีประมาณ 40 สาขา และมีส่งร้านอาหาร โรงแรมอีกหลายแห่งในจังหวัดชลบุรี ซึ่งร้านอาหาร โรงแรมเหล่านั้น ก็ติดต่อเข้ามาขอซื้อสะเต๊ะจากเรา เป็นจุดเริ่มต้นของการขายส่งหมูสะเต๊ะ และหมูสะเต๊ะแช่แข็ง


ยอดขายวัน 20,000 ไม้ ส่งออกไปไกลฮ่องกง

โดยในแต่ละวันจะต้องทำหมูสะเต๊ะส่งแฟรนไชส์ ส่งร้านอาหารและโรงแรม จำนวน 20,000 ไม้ ซึ่งหมูสะเต๊ะของ คุณอารดา เธอได้ทำออกมาใน 2 รูปแบบ   แบบแรก แฟรนไชส์นำไปย่างขายเอง โดยเราเตรียมทุกอย่างไปให้พร้อมขาย และแบบที่ สอง เนื่องจากลูกค้าโรงแรม และร้านอาหารไม่สะดวกที่จะปิ้งย่างเอง เพราะต้องก่อเตาและต้องมีคนคอยปิ้งย่างเค้าก็จะไม่สะดวก เราก็จะทำแบบที่สามารถนำไปใส่ในไมโครเวฟแทนการปิ้งย่างบนเตาขึ้นมา โดยที่รสชาติต้องเหมือนหรือใกล้เคียงกันกับการปิ้งย่างบนเตา ซึ่งการเข้าไมโครเวฟจะไม่ได้ความหอมเหมือนการปิ้งย่างเตาถ่าน แต่ที่ได้คือ สะดวกกว่า

นอกจากนี้ เราก็ยังมีสะเต๊ะแช่แข็ง ที่ทำเพื่อส่งให้เทรดเดอร์ที่นำเข้าไปขายที่ฮ่องกง เราเป็นหนึ่งในอาหารแช่แข็ง ที่ตัวแทนจากฮ่องกงเลือกไปขาย 100 ชนิด ซึ่งหมูสะเต๊ะของเราได้รับการตอบรับดีมากในฮ่องกง เราเป็นจ้าวแรก และจ้าวเดียวที่ทำหมูสะเต๊ะแช่แข็งส่งไปขายฮ่องกง ราคาหมูสะเต๊ะที่ขายที่ฮ่องกง มี 2 แบบ พรีเมียมหมูออร์แกนิก กล่องละ 130 บาท ส่วนแบบธรรมดากล่องละ 100 บาท โดยจะวางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตของฮ่องกง 28 สาขา การสั่งก็จะสั่งเป็นรอบๆ เทรดเดอร์สั่งและส่งไปพร้อมกับอาหารแช่แข็งอื่นๆ การจะส่งหมูสะเต๊ะไปขายต่างประเทศ สถานที่ผลิตจะต้องได้มาตรฐานส่งออกอาหารแช่แข็งด้วย


เตรียมพัฒนาเครื่องจักร
รองรับขยายตลาดทั่วประเทศ

อารดา บอกว่า ปัจจุบันการเสียบหมูสะเต๊ะ ต้องใช้คนเสียบอยู่ เพราะไม่มีเครื่องจักร วันหนึ่งต้องใช้คนเสียบไม่ต่ำกว่า 12 คน แต่ปัญหาคือ ถ้าคนใหม่มาจะเสียบไม่เป็นก็จะไม่ยากทำ เราก็ต้องคอยมาฝึกพนักงานใหม่ ทำให้มองหาเครื่องจักรมาช่วยในการเสียบ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาเครื่องจักร คาดว่าน่าจะได้เครื่องจักรมาช่วยเสียบหมูสะเต๊ะในเร็วๆ นี้ โดยนำเครื่องเสียบลูกชิ้นมาต่อยอดและพัฒนาเพิ่มเติม เพราะการเสียบหมูสะเต๊ะไม่ได้ง่ายเหมือนลูกชิ้น การพัฒนาเครื่องมาช่วยต้องใช้เวลา

ทั้งนี้ ที่คุณอารดา ต้องพัฒนาเครื่องมาช่วยครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพราะต้องการจะขยายตลาดหมูสะเต๊ะไปขายในจังหวัดอื่นๆ นอกเหนือจากการขายในจังหวัดชลบุรี “อารดา” บอกว่า เธอตั้งใจที่จะขยายตลาดตั้งแต่เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว แต่ติดสถานการณ์โควิด ทำให้ต้องหยุดชะงักไป แต่เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย วันนี้เตรียมแผนที่จะขยายหมูสะเต๊ะออกไปยังจังหวัดต่างๆ โดยตลาดที่ต้องการจะไป นอกจากในรูปแฟรนไชส์ แล้ว คือ ร้านอาหาร ภัตตาคารและโรงแรม เพราะจากที่ผ่านมา มีร้านอาหารหลายแห่งติดต่อเข้ามาเอง และถ้าเราวิ่งเข้าไปหาลูกค้าเอง เชื่อว่า ความตั้งใจของเราที่จะเพิ่มยอดขายให้ได้เดือนละ 1 ล้านไม้ น่าจะไม่ยาก


ส่วนราคาแฟรนไชส์ เริ่มต้นที่ 20,000 บาท ได้โมเดล เคาน์เตอร์และอุปกรณ์พร้อมขาย ส่วนต้นทุนของหมูสะเต๊ะ พร้อมน้ำจิ้ม อยู่ที่ราคาไม้ละ 5 บาท ส่วนในแบบที่นำไปใส่ไมโครเวฟ ส่งร้านอาหารส่งไม้ละ 6 บาท ส่วนลูกค้านำไปขายไม้ละ 7 บาท และ 8 บาท การสั่งหมูของแต่ละร้านไม่เท่ากัน ถ้าสั่งเยอะมากกว่า 5,000 ไม้ ก็จะได้ส่วนลด เช่น สาขาที่กรุงเทพฯ จะสั่งครั้งละ 5,000 ไม้ การจัดส่งสัปดาห์ละ 2 วัน ลูกค้าเก็บไว้ขายได้โดยการเก็บในตู้เย็น


จากฟาร์มหมู สู่เจ้าของธุรกิจหมูสะเต๊ะ

อารดา บอกว่า เดิมครอบครัวของเธอทำฟาร์มเลี้ยงหมู แต่ไม่ได้ใช้เนื้อหมูจากที่ฟาร์ม เพราะการทำสะเต๊ะใช้หมูในบางส่วน หมูที่ฟาร์มไม่เพียงพอ โดยเนื้อหมูที่สั่งมาทำสะเต๊ะ เลือกจากตัวแทนจำหน่าย โดยตัวแทนจะจัดส่งเนื้อหมูในส่วนที่เราต้องการมาให้ เพราะการทำหมูสะเต๊ะไม่ได้แค่สูตรหมักหมู หรือ น้ำจิ้ม หรือ การปิ้งย่างเท่านั้น แต่เนื้อหมูต้องคุณภาพดีด้วย ไม่ใช่ว่าจะนำเนื้อหมูส่วนไหนมาทำก็ได้

อย่างไรก็ดี แม้ว่าหมูจะราคาเพิ่มขึ้น แต่ทางแม่โอ๊ะโอ หมูสะเต๊ะ ไม่ได้ปรับราคาขึ้นแต่อย่างใด เพราะมีการบริหารจัดการ และขายจำนวน ถ้าขายได้มากรายได้เพิ่มขึ้น แม้ว่ากำไรต่อหน่วยก็อาจจะลดลง ซึ่งลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์ไป สามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 1-2 เดือน และการนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการเสียบหมูสะเต๊ะ นอกจากทำให้เราสามารถควบคุมการผลิตให้ได้มาตรฐานแล้ว ยังสามารถทำได้ทันตามออเดอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นหลังจากที่เตรียมขยายตลาดไปทั่วประเทศ และต่างประเทศ

อารดา เกียรติเสรี
สุดท้ายนี้ จะเห็นได้ว่า การทำอาหารเป็นทางเลือกที่ใครหลายคนมองในช่วงที่กำลังหาอาชีพ แต่การทำธุรกิจอาหารให้ประสบความสำเร็จ มีหลายองค์ประกอบ เช่น หมูสเต๊ะ แม่โอ๊ะโอ รายนี้ หลายคนไม่เคยรู้จัก แต่เขาก็อยู่ได้ เติบโตแบบเงียบภายในพื้นที่ของตนเอง เพียงแค่ต้องทำให้อร่อย รสชาติดี สะอาด ไม่ต้องทำประชาสัมพันธ์อะไร สุดท้ายมีลูกค้าวิ่งเข้าไปขอซื้อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตส่งต่อไปยังทายาทในรุ่นๆต่อไปได้

ติดต่อ โทร.09-5828-7865



อารดา เกียรติเสรี
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager

กำลังโหลดความคิดเห็น