บ้านปู เพาเวอร์ชี้ครึ่งหลังปี 65 เติบโตต่อเนื่อง เหตุรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม กำลังผลิตรวม 65 เมกะวัตต์จากเวียดนาม โครงการโรงไฟฟ้า Temple l จากสหรัฐฯ และโครงการ M&A โรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติม โดยเตรียมเม็ดเงินลงทุนไว้ 500-700 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อดันสู่เป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 2568
นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BPP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปี 2565 คาดว่าเติบโตขึ้น เนื่องจากไตรมาส 3/2565 จะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซูง็อก (Chu Ngoc) กำลังผลิต 15 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ฮาติ๋ญ (Ha Tinh) กำลังผลิต 50 เมกะวัตต์รวมแล้ว 65 เมกะวัตต์ที่เวียดนามเริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ในสหรัฐอเมริกา และการเข้าไปดำเนินงานในตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรีในสหรัฐฯ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้บริษัทฯ ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Combined Heat and Power: CHP) ทั้ง 3 แห่งในจีนคาดว่าไตรมาส 4 นี้มีปริมาณการขายและราคาขายไอน้ำเพิ่มขึ้นกว่าไตรมาส 3 เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว รวมถึงการรับรู้รายได้จากการ M&A โรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติมด้วย
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหวินเจา (Vinh Chau) ระยะที่ 1 ในเวียดนาม กำลังผลิต 30 เมกะวัตต์ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมการเดินเครื่อง (pre-commissioning) เพื่อให้สามารถจำหน่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้เมื่อมีการเรียกกระแสไฟฟ้าจากผู้รับซื้อไฟ (EVN)
นายกิรณกล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนประมาณ 500-700 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับใช้ใน 1-2 ปีนี้เน้นการลงทุนซื้อหรือควบรวมกิจการ (M&A) ในสินทรัพย์หรือโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเพื่อให้สามารถรับรู้รายได้ได้ทันที ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ การประเมินทรัพย์สิน ตลอดจนหนี้สิน (Due diligence) โรงไฟฟ้าหลายโครงการ มีทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 2-3 ดีลที่ต้องใช้เวลา และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาด 30-50 เมกะวัตต์หลายโครงการที่คาดว่าจะปิดดีลได้เร็ว โดยครึ่งแรกปี 2565 บริษัทใช้งบลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทได้เจรจากับพันธมิตรเพื่อลงทุนโครงการพลังงานใหม่ในประเทศจีนจำนวน 2-3 โครงการ รวมทั้งแสวงหาโอกาสในการเพิ่มเมกะวัตต์จากการดำเนินธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปตอบสนองนโยบายสนับสนุนการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของรัฐบาลท้องถิ่นในมณฑลเจิ้งติ้ง ในประเทศจีนอีกด้วย
สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 8,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 208% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 3,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รวม 5,083 ล้านบาท โตขึ้น 112% สะท้อนถึงความสามารถในการรักษาเสถียรภาพการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทุกแห่ง รวมทั้งสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงด้านต้นทุนพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีกระแสเงินสดมั่นคง บริษัทฯ ยังคงมุ่งขยายพอร์ตธุรกิจตามกลยุทธ์ Greener & Smarter เพิ่มการลงทุนทั้งในธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในประเทศเวียดนาม และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานในประเทศไทย พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตในมือราว 3,272 เมกะวัตต์
เมื่อเร็วๆ นี้ บ้านปู เน็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่บ้านปู เพาเวอร์ร่วมถือหุ้นกับ บมจ.บ้านปู (BANPU) ได้ลงนามความร่วมมือกับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ และดูราเพาเวอร์ สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในไทย ตั้งเป้ากำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ภายในปี 2569 เพื่อป้อนแบตเตอรี่ให้กับรถ E-Bus ของเชิดชัยฯ
