พรีเดเตอร์ (Predator) เป็นแบรนด์เกมมิ่งโน้ตบุ๊กของค่ายเอเซอร์ (acer) ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์จากไต้หวัน ที่มียอดขายอันดับหนึ่งในไทย เจาะกลุ่มเกมเมอร์มืออาชีพมานานกว่า 10 ปี ปัจจุบันในยุคนิวนอร์มัล อาจไม่ได้จำกัดเพียงแค่แล็ปท็อปและอุปกรณ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังก้าวข้ามไปสู่แบรนด์ไลฟ์สไตล์ กับสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ที่มีตลาดกว้างขวางยิ่งขึ้น
เริ่มจากเครื่องดื่มชูกำลัง "พรีเดเตอร์ช็อต" (Predator Shot) ผสมวิตามินเอ ทอรีน และคาเฟอีน จำหน่ายที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 กระป๋องละ 20 บาท แม้จะมีบางคนงงอยู่บ้าง แต่ก็มีผู้บริโภคตอบรับเป็นอย่างดี ถือเป็นเซกเมนต์เครื่องดื่มชูกำลังกลุ่มพรีเมียม เจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะเกมเมอร์ ซึ่งต่างประเทศอย่างที่ไต้หวันก็มีเครื่องดื่มนี้เช่นกัน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 เอเซอร์เปิดตัว เครื่องดื่มผสมวิตามิน Predator Shot Vitamin Drink ได้แก่ แอคทีฟเบอร์รี (Active Berry) ขวดสีแดง กลิ่นผลไม้รวมและมิกซ์เบอร์รี มีวิตามินเอ และวิตามินบีรวม มีกาเฟอีนเล็กน้อย ใกล้เคียงกับชาเขียวพร้อมดื่ม กับ รีเฟรชมุสแคท (Refresh Muscat) กลิ่นองุ่นมุสแคท มีวิตามินเอ วิตามินซี และแอล-ธีอะนีน วางจำหน่ายขวดละ 20 บาท
ถือเป็นการเติมเต็มเครื่องดื่มในเซกเมนต์ยอดนิยม เช่น เครื่องดื่มชูกำลังกลุ่มพรีเมียม ที่แต่ละค่ายปรับกลยุทธ์จากกลุ่มผู้ใช้แรงงานมาเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเครื่องดื่มผสมวิตามิน ที่เติบโตตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ ประกอบกับการใช้ช่องทางการจัดจำหน่าย อย่างร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนับหมื่นแห่งทั่วประเทศ ที่ทำให้แบรนด์พรีเดเตอร์ช็อต เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
สำหรับเครื่องดื่มชูกำลัง พรีเดเตอร์ช็อต เกิดขึ้นมาจากเอเซอร์สำรวจพฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นเกมเมอร์ พบว่าส่วนใหญ่ระหว่างเล่นเกมมักจะบริโภคหมากฝรั่งและเครื่องดื่มชูกำลัง จึงเป็นที่มาของการออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลัง ผสมวิตามินและทอรีน ขนาด 170 มิลลิลิตร ซึ่งในประเทศไทย ได้ บริษัท ชบา บางกอก จำกัด ผู้ผลิตน้ำผลไม้ระดับส่งออกเป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM)
เมื่อแบรนด์เจ้าตลาดเริ่มลงมาทำตลาดกับเกมเมอร์มาได้ระยะหนึ่ง พรีเดเตอร์ช็อตจึงได้จัดแคมเปญทั้งสะสมคะแนนจากรหัสใต้ฝา หรือจัดโปรโมชันลดราคาร่วมกับเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นระยะ ถึงกระนั้น เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน แม้จะได้รับความนิยมในวงการอี-สปอร์ต แต่เมื่อมีความเห็นต่างเรื่องประโยชน์และโทษของเครื่องดื่มชูกำลัง จึงมีผู้บริโภคอยู่ในวงจำกัด
มาถึงการแตกไลน์ไปสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมวิตามิน งานนี้ได้ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตชาเขียวรายใหญ่ เป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM) ซึ่งก่อนหน้านี้ ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ อิชิตัน กรุ๊ป ก็เคยผลักดันน้ำด่างและวิตามินวอเตอร์เป็นของตัวเอง เพราะมองว่าเป็นความหวังของตลาดเครื่องดื่ม เปรียบเหมือนเครื่องดื่มชาเขียวที่เคยฟีเวอร์เมื่อกว่า 10 ปีก่อน
แม้พรีเดเตอร์ช็อตจะไม่ใช่วิตามินวอเตอร์ เพราะมีน้ำรสเบอร์รีรวม และน้ำสมุนไพรรวม กลิ่นองุ่นมุสแคท เป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งพบว่าในชั้นวางของร้านสะดวกซื้อจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับเครื่องดื่มชาเขียว หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ แต่ก็ชูคุณสมบัติทั้งบำรุงสายตา ประสาทและสมอง เพิ่มสมาธิ ขจัดความเหนื่อยล้า เมื่อเป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนต่ำ จึงเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่าย แม้เอเซอร์ยังคงพึ่งพาร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นหลัก แต่ก็เป็นร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังจัดจำหน่ายแบบยกแพ็ค ยกลังในราคาพิเศษผ่าน All Online ห้างใกล้บ้าน สำหรับร้านเกมที่มีตู้แช่ จะรับไปขายต่อให้ลูกค้า หรือเกมเมอร์ที่ต้องการมีไว้ติดตู้เย็น ซึ่งข้อดีก็คือ รอรับสินค้าที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นใกล้บ้านได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผลิตภัณฑ์พรีเดเตอร์ ช็อต ยังเป็นสินค้า Only at 7-Eleven ไม่มีจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดรายอื่น แต่ก็เป็นกรณีศึกษาถึงการก้าวข้ามจากธุรกิจดั้งเดิม ขยายสู่ธุรกิจใหม่ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อาศัยพฤติกรรมของผู้บริโภคมาเป็นกลุ่มเป้าหมาย ไม่ต่างกับสายการบินที่หันมาทำปาท่องโก๋ หรือค่ายเพลงที่หันมาทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในยุคนิวนอร์มัล
อาจมีคนสงสัยว่า ทำไมเอเซอร์ถึงหันมาทำสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ทั้งเครื่องดื่มชูกำลังและเครื่องดื่มผสมวิตามิน ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 20 บาทต่อชิ้น ต้องมีผู้บริโภคซื้อนับพันชิ้น จึงจะเทียบเท่าคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กหนึ่งเครื่อง แต่ความจริงแล้ว คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง ผู้ใช้ 1 คน มีอายุการใช้งานราว 4-5 ปี ขณะที่สินค้าไอทีทั่วโลกประสบปัญหาวัตถุดิบในการผลิตขาดแคลน
ส่วนเครื่องดื่ม เป็นสินค้าที่บริโภคได้ทุกวัน และเกิดการซื้อซ้ำถ้าดีจริง ก่อนหน้านี้ผู้บริหารเอเซอร์อย่าง นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เคยตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี 2565 จะมียอดขายเครื่องดื่มชูกำลัง 1.5-2 ล้านกระป๋อง แต่เมื่อเซเว่นอีเลฟเว่นมีเครือข่ายสาขามากกว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ หากทำการตลาดดีๆ ก็ไม่ยากที่จะทำยอดขายได้ตามเป้า
แต่สำหรับเครื่องดื่มผสมวิตามิน เป็นความท้าทายใหม่ที่ต้องลุ้นกันว่า จะเป็นเครื่องดื่มในใจผู้บริโภคโดยเฉพาะเกมเมอร์หรือไม่
(เกาะกระแสธุรกิจ เศรษฐกิจสดใหม่ เรื่องราวการตลาดที่ใกล้ชิดผู้บริโภค พบกับคอลัมน์ Ibusiness review เป็นประจำทุกเช้ามืดวันพุธ ทางเว็บไซต์ ibusiness.co และเฟซบุ๊ก Ibusiness)