xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) Cheevit Cheeva บิงซูเกาหลี สไตล์ขนมไทย บุกไต้หวัน ความสำเร็จสาวน้อยในวัย 24ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



Cheevit Cheeva ชีวิต ชีวา ร้านบิงซู ขนมไทยโด่งดัง ที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่เฉพาะคนพื้นที่ในเชียงใหม่เท่านั้น นักท่องเที่ยวเองชื่นชอบร้านนี้เช่นเดียวกัน จนทำให้หลายคนอยากเห็นร้านนี้เปิดในหลายพื้นที่รวมถึงกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ซึ่งเพียงแค่ปีเดียว ความฝันของ สาวน้อยในวัย 24 ปี ในเวลานั้น ที่ฝันอยากจะมีร้านขนมหวานสักร้าน ซึ่งเหมือนเด็กสาวทั่วๆไป แต่เจ้าของ “ชีวิตชีวา” มาได้ไกลเกินกว่าที่เธอตั้งใจ เพราะเพียงแค่ปีเดียวเธอสามารถขยายสาขาในต่างประเทศ ด้วยการนำน้ำแข็งไสบิงซูขนมไทยเข้าไปบุกตลาดไต้หวัน แหล่งน้ำแข็งไสที่ขึ้นชื่อประเทศหนึ่ง สร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ร้านขนมหวาน ไทยในต่างประเทศ


สาวน้อยวัย 24 ปี กับการเปิดร้านบิงซู ขนมไทยในต่างประเทศ

วันนี้ พามารู้จักกับ “แพร- กันติชา สมศักดิ์” เจ้าของร้านบิงซูขนมไทย ชีวิต ชีวา ที่โด่งดังทั้งโลกออนไลน์ และออฟไลน์ในเวลานี้ เพราะหลายคนที่เคยได้ไปชิมบิงซูร้านนี้ นอกจากหน้าตาที่อดไม่ได้ต้องนำมารีวิวกันแล้ว รสชาติก็ยังถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก จนวันที่เปิดสาขาในกรุงเทพฯ มีคนต่อคิว รอกินกันแน่นร้าน เรียกว่าประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับ Cheevit Cheeva ชีวิต ชีวา ร้านขนมหวานบิงซู ผสมผสานระหว่างน้ำแข็งไสบิงซูของเกาหลี กับเมนูขนมหวานแบบไทยได้อย่างลงตัว ไอเดียสร้างสรรค์ ของ “กันติชา” เจ้าของและผู้ก่อตั้ง ร้านขนมหวานชีวิต ชีวา ที่ตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 24 ปี โดยเมื่อ 7 ปี ที่ผ่านมา หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี ที่เชียงใหม่ ไม่ได้คิดอยากจะไปทำงานประจำ แต่เอมีความฝันที่อยากจะมีร้านขนมหวาน และด้วยตัวเองเป็นคนเชียงใหม่ก็เลยคิดว่าจะเปิดร้านเล็กสักร้านที่เชียงใหม่ ร้านขนมหวานที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งส่วนตัวเป็นชอบกินขนมหวาน แต่ที่เชียงใหม่มีร้านขนมหวานเปิดขายกันมากมาย และจะต้องเป็นร้านแบบไหนที่ไม่เหมือนคนอื่น จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการหาร้านขนมหวานอย่างที่เธอชอบ จนมาจบที่ ร้านบิงซูน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลี แต่เสิร์ฟในแบบของขนมไทย


เลือกขนมไทย ที่ได้รับความนิยมมาทำบิงซู

กันติชา เล่าว่า ตนเองได้ออกไปตระเวนดูมาหลายทีว่าจะเปิดร้านขนมหวานแบบไหนดี จึงได้ไปเจอกับบิงซู ร้านน้ำแข็งไสที่ประเทศเกาหลี และนำมาปรับกับขนมไทย ได้ออกมาเป็นบิงซู ขนมไทย ในแบบฉบับของร้าน Cheevit Cheeva มาจนถึงทุกวันนี้ผ่านมากว่า 7 ปี ปัจจุบันมีถึง 11 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในหลายจังหวัด เช่น หาดใหญ่ สงขลา กรุงเทพฯ พิษณุโลก ฯลฯ รวมถึงสาขาในต่างประเทศหนึ่งสาขา ที่ไต้หวัน กรุงไทเป ด้วย และเตรียมแผนที่จะขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์เพิ่มในอนาคต สำหรับคนที่สนใจ

ทั้งนี้ หลังจากที่เปิดร้านขนมหวานชีวิต ชีวา สาขาแรกที่เชียงใหม่ เมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา หลายคนตื่นตาตื่นใจ เพราะไม่เคยเห็นขนมไทยในรูปแบบของบิงซูมาก่อน “กันติชา” บอกว่า ตนเองได้เลือกขนมไทย ที่หลายคนชื่นชอบมาทำ ไม่ว่าจะเป็น บัวลอยไข่เค็ม หลายคนมองว่า บัวลอยไข่เค็มไม่น่าจะไปด้วยกันได้กับบิงซู แต่พอเรามาทำเป็นบิงซูบัวลอย ไข่เค็ม มันไปด้วยกันได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ เมนูขนมไทย อื่นๆ อีกเช่น ลอดช่อง ข้าวเหนียวมะม่วง และเมนูขนมปังสังขยา อื่นๆอีกหลายเมนูที่เป็นผลไม้ตามฤดูกาล ฯลฯ


และหลังจากเปิดสาขาแรกที่เชียงใหม่ จนเป็นที่รู้จักของกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ได้มาชิมเมนูบิงซูร้านชีวิตชีวา ต่างก็ชื่นชอบ และขอให้ “กันติชา” นำร้านบิงซู ชีวิตชีวา เข้าไปเปิดในกรุงเทพฯ และอีกหลายพื้นที่ เธอก็เลยตัดสินใจเปิดขายแฟรนไชส์ และนำชีวิต ชีวา เข้ามาเปิดในกรุงเทพฯ จนถึงปัจจุบัน จากชื่อเสียงของชีวิต ขีวา โด่งดังในเชียงใหม่ เมืองที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ทำให้การขยายสาขาในต่างจังหวัด และแจ้งเกิดได้ไม่ยาก เช่น เดียวกับร้านดังๆ ในเชียงใหม่หลายร้าน ที่นักท่องเที่ยวชอบไปกิน พอมาเปิดที่กรุงเทพฯ ก็ได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็ว เพราะนักท่องเที่ยวก็รอการมาของร้านเหล่านี้ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ


โด่งดังในกลุ่มนักท่องเที่ยว จนเป็นที่มาของการขยายสาขา

ด้วยชื่อเสียงโด่งดังในกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่ไปเที่ยวเชียงใหม่ ทำให้ ชีวิต ชีวา ได้รับอานิสงส์ ในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ อย่างประเทศจีน เพราะมีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ร้านชีวิต ชีวา เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน และนักท่องเที่ยวเหล่านี้ ก็ต้องการให้ ชีวิต ชีวา ไปเปิดที่ประเทศจีนเช่นกัน ก็เลยเป็นที่มาของการขยายสาขาที่ประเทศไต้หวันและจีนในเวลาต่อมา

“ก่อนช่วง COVID มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมาที่ร้านชีวิตชีวา สาขาเชียงใหม่เยอะมาก หลายคนสอบถามว่ามีสาขาที่จีนบ้างไหม เราจึงสนใจจะเข้าไปในตลาดจีน แต่หากจังหวะเวลาและโอกาศไม่ได้สักที จนมาได้พาสเนอร์ ซึ่งเป็นคนไทยทำตลาดในประเทศจีน ก็เลยสนใจซื้อแฟรนไชส์ของเราเข้าไปเปิดที่กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ทำให้เราได้มีโอกาสเปิดสาขาในต่างประเทศ”


ทั้งนี้ การทำตลาดในต่างประเทศ จะมีหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้ ทำให้เราเลือกที่จะขยายไปในรูปแบบของแฟรนไชส์ เพราะไม่ได้มีประสบการณ์ด้านมาร์เก็ตติ้งในต่างประเทศ มาก่อน ไม่รู้ว่าเปิดอย่างไร และขนมของเรา จะถูกใจเค้าไหม และเค้าจะรู้จักขนมไทยของเรามากน้อยแค่ไหน และยังมีเรื่องของการจ้างพนักงาน ที่ต้องมีกฎเกณฑ์มากมาย และยังไม่รู้ว่าแล้วเราจะทำประชาสัมพันธ์ไหม ลูกค้าไม่เหมือนกับในบ้านเราเลย แต่พอขายแฟรนไชส์ไป ทางผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดเขาก็จะดำเนินการเองทั้งหมด เค้าจะรู้ว่าจะปรับเมนูอย่างไรให้ถูกใจคนในประเทศนั้น ๆ และให้ตรงกับฤดูกาลของผลไม้หรือเทศกาลในการกินอาหารของประเทศนั้นๆ ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจกับร้านชีวิต ชีวา การเปิดร้านบิงซูขนมไทยในต่างประเทศ

แพร-กันติชา เล่าถึงการทำร้านชีวิต ชีวา ขนมหวานสไตล์บิงซู ว่า การหลงรักในขนมหวาน เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ และพอคิดว่าจะเปิดร้านได้ลงเรียนคอร์สขนมไทย ก่อนไปเจอบิงซูที่เกาหลี ราดน้ำผลไม้คิดว่าเราจะต้องนำบิงซูที่เกาหลีมาทำแบบของขนมไทย ซึ่งเปิดเพียงแค่ 3 เดือน ตอนแรกคิดว่าเจาะกลุ่มนักศึกษา เชียงใหม่ แต่ประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะมีนักท่องเที่ยวมากินขนมของเราและชื่นชอบ บอกต่อ 3 เดือนแรกเปิดสาขา 2-3 สาขา และมีคนไต้หวัน ได้มากิน และชอบมาก ขอเอาไปเปิดที่ไต้หวัน ซึ่งไต้หวันเป็นแหล่งบิงซู น้ำแข็งไสอยู่แล้ว คิดว่าจะสู้เขาได้อย่างไร แต่พอทางคนไต้หวันได้นำไปเปิดไทเป มีคนชื่นชอบ ซึ่งก็จะมีการปรับสูตรบ้าง แต่หลักๆยังเป็นแบบขนมไทยที่คนไต้หวัน เจ้าของซื้อแฟรนไชส์ซื้อไปเปิดเค้าชื่นชอบ

ติดต่อ FB: cheevitcheevacafe




คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager

กำลังโหลดความคิดเห็น