xs
xsm
sm
md
lg

“ศักดิ์สยาม” ผนึกทีมไทยแลนด์ 7 กระทรวง ลุยแผนเชื่อมขนส่งสินค้า "ไทย-ลาว-จีน"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“ศักดิ์สยาม” นั่งหัวโต๊ะผนึก 7 กระทรวง “ทีมไทยแลนด์” แก้คอขวด เชื่อมต่อการขนส่งสินค้าระหว่างไทย-ลาว-จีนด้วยรถไฟ พร้อมเร่งพัฒนาสถานีหนองคายเป็นพื้นที่เปลี่ยนถ่ายสินค้าในระยะเร่งด่วน เตรียมยกทีมดูพื้นที่จริง 30 ส.ค.-1 ก.ย.นี้

วันนี้ (4 สิงหาคม 2565) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานของคณะกรรมการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน ครั้งที่ 2/2565 ณ ห้องประชุม 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา เกียกกาย โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ร่วมหารือ และรายงานความก้าวหน้าเพื่อขับเคลื่อนดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย

นายศักดิ์สยามเปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ได้แก่ กระทรวงคมนาคมพิจารณาให้กรมทางหลวง (ทล.) เร่งรัดการของบประมาณเพื่อศึกษาแนวทางการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ทั้งในรูปแบบสะพานรถไฟและรถยนต์

และให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง ความร่วมมือไทย-จีน ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคายให้แล้วเสร็จตามแผนของกระทรวงคมนาคม รวมถึงการเสนอโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณา และเร่งรัดการพัฒนาสถานีหนองคายเป็นพื้นที่เปลี่ยนถ่ายสินค้าในระยะเร่งด่วน และการศึกษาและวิเคราะห์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) สถานีนาทาเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าในอนาคต พร้อมจัดทำ Action Plan เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างปริมาณความต้องการกับปริมาณความจุที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตามแผนงานระยะเร่งด่วน และระยะยาว รวมถึงพิจารณาอัตราค่าขนส่ง และต้นทุนด้านเวลา เพื่อหารือแนวทางการปฏิบัติที่จะส่งเสริมให้ระบบรางเป็นทางเลือกหลักในการขนส่งระหว่างไทย ลาว และจีน

2. ให้กระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากรเร่งรัดการจัดหา Mobile X-ray System เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการตรวจสอบสินค้า ณ ด่านพรมแดนหนองคายในอนาคต และการดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้พื้นที่บริเวณสถานีรถไฟหนองคายสามารถปฏิบัติพิธีการนำเข้า ส่งออก และผ่านแดนได้ทุกมิติของการขนส่งสินค้า

3. ให้กระทรวงการต่างประเทศรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาในฝั่งลาว เพื่อแลกเปลี่ยนและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ใช้ประกอบการวางยุทธศาสตร์เพื่อส่งเสริมการส่งออกของไทย และอำนวยความสะดวกให้ฝ่ายไทย สามารถใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงในภูมิภาคได้เต็มประสิทธิภาพ และหยิบยกการหารือระดับสูงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของลาวและจีน เพื่อติดตามความคืบหน้าและผลักดันการเชื่อมต่อรถไฟลาว-จีน กับระบบรางของไทย

4. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการเจรจาร่วมกับฝ่ายจีน เพื่อเปิดด่านทางบกภายใต้พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนฉบับใหม่ ให้ครบทั้ง 6 ด่านใหม่

5. ให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์การค้าไทย-จีน ด้านจังหวัดหนองคาย และการใช้ประโยชน์จากรถไฟลาว-จีน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทย รวมถึงการเจรจาร่วมกับฝ่ายลาว ในการอำนวยความสะดวกสินค้าไทยที่ใช้บริการรถไฟลาว-จีน

6. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดการก่อสร้างและพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอุดรธานีเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าผ่านเส้นทางรถไฟจากลาวและจีน

7. ให้กระทรวงสาธารณสุขอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระที่ติดตัวผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟ และตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพนำเข้าให้เป็นไปตามระบียบกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กำหนดให้ Team Thailand ลงพื้นที่ และหารือเกี่ยวกับโครงการเชื่อมต่อทางรถไฟ ช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม-1 กันยายน 2565 เพื่อศึกษาสภาพและศักยภาพของพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางของโครงการเพื่อนำมาประเมินอุปทานด้านการคมนาคม และจัดทำแผนการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศไทยต่อไป

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ในปัจจุบันประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเพียงพอที่จะรองรับการขนส่งข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าระหว่างไทย-ลาว-จีน ด้วยรถไฟขนาดทาง 1 เมตร อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงทั้งภายในและภายนอกที่จะช่วยขยายความครอบคลุมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจออกไปให้ได้ประโยชน์ในทุกมิติ จึงจำเป็นต้องมีการประชุมหารือร่วมกันเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการร่วมกันบูรณาการดังกล่าวของแต่ละหน่วยงานในฐานะทีม Thailand ต่อไป

ซึ่งเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญของการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟระหว่างสามประเทศเพื่อรองรับการเดินทางและขนส่งที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าโลก และเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาในระดับอนุภูมิภาคและภูมิภาคที่ยั่งยืน จึงได้มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการร่วมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะรองประธานกรรมการพิจารณาการบูรณาการการเชื่อมโยงโครงข่ายทางรถไฟระหว่างไทย ลาว และจีน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพระบบโลจิสติกส์ไทยด้วยการขนส่งผ่านระบบรางที่จะช่วยลดต้นทุนทางด้านเวลา และด้านโลจิสติกส์








กำลังโหลดความคิดเห็น