“พาณิชย์” จับมือ กอ.รมน. ตำรวจ กรมศุลกากร และดีเอสไอ จัดทำลายของกลางละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ประจำปี 65 วันที่ 26 ส.ค.นี้ ป้องกันไม่ให้สินค้ากลับเข้าสู่ท้องตลาด และสร้างความเชื่อมั่นแก่คู่ค้าและนักลงทุน
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาและเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กรมศุลกากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นต้น กำหนดจัดพิธีทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ประจำปี 2565 ในวันที่ 26 ส.ค. 2565 ณ ลานอเนกประสงค์ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 7 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญากลับเข้าสู่ท้องตลาด สร้างความเชื่อมั่นแก่คู่ค้าและนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ และสร้างบรรยากาศทางการค้าที่เอื้อต่อการลงทุนภายในประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญต่อการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในทุกช่องทาง เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและถูกต้องตามกฎหมาย เริ่มตั้งแต่การสกัดสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่นำเข้ามาผ่านแนวชายแดน และการป้องกันไม่ให้มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบนช่องทางออนไลน์
สำหรับแนวทางการดำเนินการ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้บูรณาการการทำงานร่วมกับศุลกากร ในการออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออก ห้ามนำเข้า และห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2565 และได้ร่วมมือกับมาร์เกตเพลซเจ้าของแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศกว่า 95% ทั้งช้อปปี้ เจดีเซ็นทรัล และลาซาด้า โดยหากพบสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในมาร์เกตเพลซดังกล่าวสามารถร้องเรียนเพื่อดำเนินการนำออกจากระบบทันที
นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินมาตรการคู่ขนาน สร้างความตระหนักรู้ให้ผู้บริโภคเห็นถึงภัยของการซื้อหรือบริโภคสินค้าปลอมที่อาจมีผลกระทบต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของผู้บริโภค ได้ร่วมมือกับเจ้าของโมเดิร์นเทรดไม่ให้มีการนำสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามาจำหน่ายในพื้นที่ของห้าง และดำเนินการช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อย โดยประสานห้างให้ลดค่าเช่าพื้นที่ รวมทั้งส่งเสริมให้คนไทยนำผลงานทรัพย์สินทางปัญญามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง