xs
xsm
sm
md
lg

‘เซ็นทรัล’ ปั้น “Tops CLUB” ชูสินค้านำเข้า เป้า 5 ปีผุดรวม 1.7 พันแห่ง-งบ 1.8 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้จัดการรายวัน 360 - เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้ธุรกิจฟูดรีเทลของไทย ครั้งแรกกับการเปิดตัว ‘Tops CLUB’ เมกะโปรเจกต์โมเดลค้าปลีกรูปแบบใหม่ ปักหมุดย่านพระราม 2 ปลายเดือนกันยายนนี้ พร้อมกางแผนขับเคลื่อนธุรกิจ 5 ปี ด้วย 4 กลยุทธ์สำคัญ ตามยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ประกาศทุ่มงบลงทุน 18,000 ล้านบาท มั่นใจกวาดรายได้โต 3 เท่า ขยายฐานลูกค้าเต็มสูบลุยเปิดสาขาครบ 1,700 แห่ง ก้าวสู่ “เบอร์ 1 ธุรกิจฟูดรีเทลในไทย-เวียดนาม” อย่างเต็มภาคภูมิ

นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “กว่า 26 ปี ในฐานะผู้นำธุรกิจซูเปอร์มาร์เกตรายแรกในประเทศไทย ที่เน้นประสบการณ์และความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เราจึงไม่เคยหยุดพัฒนาและมองหาโอกาสในการเติบโต ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าหลากหลายรูปแบบเปิดให้บริการทั่วประเทศทั้งท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ เดลี่, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, และแฟมิลี่มาร์ท จากการเปิดให้บริการรูปแบบร้านที่หลากหลาย บวกกับการนำเสนอความครบครันของสินค้าและช่องทางออมนิแชนเนล ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการให้ลูกค้าที่แตกต่างกันในทุกช่วงเวลา


ทำให้ ‘ท็อปส์’ เป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย โดยได้ต่อยอดความสำเร็จไปอีกขั้นด้วยการนำแบรนด์ ‘ท็อปส์ มาร์เก็ต’ ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำที่ได้รับความนิยมไปขยายในเวียดนาม นอกจากนี้ เพื่อยกระดับธุรกิจค้าปลีกก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 สู่ค้าปลีกยุคใหม่ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง แข็งแกร่ง และยั่งยืน จึงประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ด้วย 4 กลยุทธ์สำคัญ ตามยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ประกาศทุ่มงบลงทุน 18,000 ล้านบาท มั่นใจกวาดรายได้โต 3 เท่า ขยายฐานลูกค้าเต็มที่ วางเป้าหมายเปิดสาขาครบ 1,700 แห่ง ให้บรรลุเป้าหมายแห่งความสำเร็จ คือ

1. ผู้นำร้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เกตทุกฟอร์แมต ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์ โดยเป็นค้าปลีกฟูดรีเทลที่มีร้านหลากหลายรูปแบบตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ทั้งซูเปอร์มาร์เกต และคอนวีเนียนสโตร์ ที่สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าทุกเซกเมนต์และตอบสนองทุกความต้องการ พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ตลอดเวลา เพื่อเป็นสุดยอดเดสติเนชันที่เติมเต็มทุกประสบการณ์ชอปปิ้ง และไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

อีกโปรเจกต์ใหญ่ที่จะมาสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อภาพรวมธุรกิจค้าปลีกด้านอาหาร ครั้งแรกในประเทศไทย กับการพัฒนารูปแบบร้านโมเดลใหม่ระบบสมาชิก ภายใต้ชื่อ ‘Tops CLUB’ ซึ่งถือเป็นอาณาจักรที่รวบรวมสินค้านำเข้า และสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ดังจากทั่วโลกกว่า 3,500 รายการ โดยมากกว่า 70% เป็นสินค้านำเข้า เช่น จากสหรัฐอเมริกา แบรนด์ KIRKLAND Signature, MAINSTAYS, Member’s Mark, จากออสเตรเลีย แบรนด์ DJ&A, SMITH’S, จากนิวซีแลนด์ แบรนด์ Killinchy Gold เป็นต้น ซึ่งหาซื้อได้เฉพาะที่นี่ที่เดียว โดยมีครบทุกกลุ่มสินค้า ได้แก่ อาหารสด, อาหารแห้ง, ขนมขบเคี้ยว, ของใช้ภายในบ้าน, ของตกแต่งบ้าน, ของเล่น, อุปกรณ์สนาม-แคมปิ้ง และอุปกรณ์กีฬา ฯลฯ คัดมาเฉพาะแบรนด์สินค้าชั้นนำยอดนิยม เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ที่ชื่นชอบสินค้านำเข้า คุณภาพดี ในราคาสุดพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน (Exclusive membership price) โดยร้าน Tops CLUB แฟลกชิปสโตร์ จะพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการสาขาแรกปลายเดือนกันยายนนี้ ย่านพระราม 2

พิเศษ! สมัครสมาชิกในราคาเพียง 799 บาท/ปี จากปกติ 999 บาท จำนวนจำกัด ตั้งแต่วันนี้-30 กันยายน 2565 เพื่อรับสิทธิ์ซื้อสินค้าแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟราคาพิเศษก่อนใคร ผ่านช่องทางออนไลน์แอปพลิเคชัน Tops CLUB พร้อมจัดส่งฟรีในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2565 และช่องทางTops CLUB ป็อปอัพสโตร์ ที่เซ็นทรัล พระราม 2 (22 ก.ค.-21 ส.ค.65), เซ็นทรัล เวิลด์ (26 ก.ค.-4 ส.ค. 65), เมกา บางนา (2-31 ส.ค. 65) และ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี (16-30 ส.ค. 65) ทั้งนี้ มั่นใจว่าเมื่อ ‘Tops CLUB’ แฟลกชิปสโตร์ เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในเดือนกันยายนนี้ จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ย่านพระราม 2 ที่เป็น Must Visit Destination ของทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ


2. ซูเปอร์มาร์เกตแพลตฟอร์มออมนิแชนเนลสมบูรณ์แบบที่สุดของไทยภายใต้คอนเซ็ปต์ WHENEVER, WHEREVER

‘ท็อปส์’ มุ่งพัฒนาเป็นที่หนึ่งด้านออมนิแชนเนลเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า นอกจากการซื้อสินค้าผ่านหน้าร้าน ยังมีช่องทางออนไลน์หลากหลาย ที่สามารถมอบประสบการณ์ไร้รอยต่อให้ลูกค้า เสมือนมาเลือกซื้อสินค้าด้วยตนเองที่หน้าร้าน พร้อมมั่นใจในคุณภาพ ความสดใหม่ และสินค้าที่ครบครันผ่าน ‘Tops Online’ ที่อำนวยความสะดวกทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสั่ง การซื้อ และการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน โดยมีทีมงานเลือกสรรสินค้าที่ดีที่สุด พร้อมด้วยทีม Professional Picker ให้ลูกค้าสามารถระบุทุกความต้องการในการสั่งซื้อ

อีกทั้งเพิ่มประสบการณ์ชอปปิ้งและอำนวยความสะดวกให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ และความต้องการเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วย ‘บริการผู้ช่วยชอปส่วนตัว’ (Personal Shopper) ชอปแบบเรียลไทม์ ทั้งโทร. แชต และวิดีโอคอล ซึ่ง ‘ท็อปส์’ ถือเป็นซูเปอร์มาร์เกตรายแรก และรายเดียวที่สามารถส่งมอบประสบการณ์ชอปปิ้งแบบคู่ขนานผสานช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ให้ลูกค้าสามารถเลือกชอปได้หลากหลายช่องทาง สะดวกทุกที่ ทุกเวลา พร้อมบริการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ชอปปิ้งอย่างไร้ขีดจำกัด


3. One Stop Shopping ‘ท็อปส์’ รวมความครบครันสินค้าดีที่สุด มากที่สุดจากทั่วโลก มีจำหน่ายก่อนใคร
หัวใจสำคัญที่ทำให้ ‘ท็อปส์’ เป็นซูเปอร์มาร์เกตที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสินค้าอาหารและเป็นเดสติเนชันที่แท้จริง คือ ความโดดเด่นด้านคุณภาพของสินค้า ความสดใหม่ ความครบครันของสินค้า ที่หลากหลายกว่า 45,000 รายการ รวมถึงการมีทีมงานที่ไม่หยุดนิ่งในการมุ่งเสาะแสวงหาสินค้าคุณภาพจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุด และมีพาร์ตเนอร์จากทั่วทุกมุมโลกทั้งในยุโรป เอเชีย ที่พร้อมคัดสรรและนำเข้าสินค้าที่ดีที่สุดมาจำหน่ายในทุกกลุ่มสินค้าตลอดเวลา รวมไปถึงมีสินค้า Trendy สินค้าใหม่ๆ ที่มีวางจำหน่ายที่แรกก่อนใคร และยังให้ความสำคัญต่อการเลือกสรรสินค้าออร์แกนิกทั้งผัก ผลไม้ สินค้าเพื่อสุขภาพ และความงาม ที่มีจำหน่ายมากที่สุด พร้อมเพิ่มความครบวงจรมากยิ่งขึ้น กับการนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และ Own Brand ที่เป็นแบรนด์สินค้าของ ‘ท็อปส์’ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านสินค้าครบครันในที่เดียวให้แก่ลูกค้าที่เป็นฟูดเลิฟเวอร์อย่างแท้จริง

4. ผู้นำองค์กรขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนในไทย และเวียดนาม
ให้ความสำคัญต่อการขับเคลื่อนองค์กรผ่านเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศด้วยการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรโดยตรง เปิดพื้นที่ให้เกษตรกรนำสินค้ามาจำหน่ายส่งตรงถึงมือผู้บริโภคในตลาด ‘จริงใจ FARMERS’ MARKET’ และยังมอบโอกาสเติบโตทางธุรกิจให้กับ SME ทั่วประเทศ ผ่านแพลตฟอร์ม ‘ ท็อปส์ ท้องถิ่น’ รวมไปถึงการจับมือกับผู้ค้ารายย่อย เพื่อสร้างการเติบโตไปพร้อมกัน พร้อมเชื่อมความสัมพันธ์ที่พึ่งพากันของผู้ผลิตสินค้า โดยนำเข้าและส่งออกสินค้าเพื่อจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เกตทั้งที่ไทย และเวียดนาม นอกจากนั้นยังมีการจัด Business Matching เพื่อให้ผู้ประกอบการ SME ของทั้งสองประเทศได้มีโอกาสเจรจาธุรกิจร่วมกัน รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อโปรโมตสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรทั้งที่ ท็อปส์ มาร์เก็ต ในเวียดนาม และในประเทศไทย เป็นการดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี ควบคู่ไปกับการสร้างความยั่นยืนให้ผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมของทั้ง 2 ประเทศ

"จากกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจทั้งหมด เชื่อมั่นว่า ‘ท็อปส์’ จะเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงใจของผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย ฉีกกฎซูเปอร์มาร์เกตในรูปแบบเดิมๆ เติบโตอย่างมั่นคง แข็งแกร่ง และยั่งยืน เคียงข้างสังคมไทย พร้อมทั้งนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ทันสมัยในการให้บริการ เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่มีความสุขและดีที่สุดสำหรับทุกคน หรือ Central to Life” นายสเตฟานกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น