xs
xsm
sm
md
lg

กบร.เคาะขยายมาตรการช่วยแอร์ไลน์อีก 3 เดือน สั่ง กพท.เตรียมพร้อมรับผู้โดยสาร-เที่ยวบินเพิ่มหลังโควิดคลี่คลาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กบร.เห็นชอบขยายมาตรการลดค่าบริการสนามบินและชำระหนี้ ช่วยสายการบินอีก 3 เดือน (ไตรมาส 3/65) ทอท.ลดค่าแลนดิ้ง 50% หลังประเมินโควิดคลี่คลายการบินเริ่มฟื้นตัว แต่ราคาน้ำมันเพิ่ม พร้อมสั่ง กพท.ประสานผู้ประกอบการเตรียมรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่ม ไม่ให้เกิดปัญหาตกค้าง แออัดเหมือนยุโรป และอเมริกา

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบร.ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2565 มีมติเห็นชอบขยายมาตรการบรรเทาผลกระทบสายการบินจาก COVID-19 ออกไปอีกในไตรมาสที่ 3/2565 เพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวและผลักดันการเติบโตอุตสาหกรรมการบินของไทยอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ มาตรการด้านการลดค่าใช้จ่ายของสายการบิน โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ขยายระยะเวลาปรับลดค่าบริการสนามบิน (Landing and Parking Charges) ลงอัตราร้อยละ 50 ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศ และขยายเวลาการยกเว้นการจัดเก็บค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge) ให้แก่สายการบินที่หยุดให้บริการชั่วคราว

และมาตรการทางการเงิน ให้สำนักงานการบินพลเรือน หรือ กพท.(CAAT) ขยายระยะเวลาชำระหนี้ (Credit Terms) ค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศ จาก 15 วันเป็น 90 วัน และยกเว้นเงินเพิ่ม (ค่าปรับ) ให้กับสายการบินที่นำส่งค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกประเทศล่าช้า ขณะที่กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราค่าเช่าสำหรับทุกกิจกรรมในอัตราค่าเช่าไม่ต่ำกว่าที่กรมธนารักษ์กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-31 ธันวาคม 2565

เนื่องจาก กบร.ได้ประเมินสถานการณ์ COVID-19 ที่ยังระบาดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทำให้จำนวนเที่ยวบินรวมถึงจำนวนผู้โดยสารทั้งในและระหว่างประเทศได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม จากนโยบายการผ่อนคลายเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศในไตรมาสที่ 2/2565 ทำให้จำนวนผู้โดยสารทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเริ่มฟื้นตัว แต่ผู้ประกอบการสายการบินยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่น คือ อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และระดับราคาน้ำมันเครื่องบินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของสายการบิน ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่สายการบิน ให้สามารถฟื้นตัวจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และสถานการณ์แวดล้อมอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มของจำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย สถานการณ์การอ่อนค่าของเงินบาทจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐให้เป็นเงินบาทไทยในจำนวนที่มากขึ้น ในขณะเดียวกัน สถิติจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประมาณการโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 20 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวนทั้งหมด 1.08 ล้านคน

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 6 ล้านคน โดยในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 จะมีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นฤดูกาล Low season ของการท่องเที่ยว แต่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากเป็น High season และในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านคน

ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มผู้โดยสารชาวจีน ปัจจุบันรัฐบาลจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศกับไทย แต่ยังคงอนุญาตให้เฉพาะการเดินทางที่จำเป็นในกลุ่มนักธุรกิจ นักเรียนและนักศึกษา โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CAAC) อนุญาตให้สายการบินของไทยและจีนทำการบินแบบประจำรับขนส่งผู้โดยสารระหว่างไทยกับจีนฝ่ายละ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ ช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2565 โดยจากจำนวนเที่ยวบินจะยังไม่ส่งผลมากต่อการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย แต่ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศกับกลุ่มตลาดใหญ่อย่างจีน และเป็นจุดเริ่มต้นให้สายการบินของไทยได้เตรียมความพร้อมตามมาตรการสาธารณสุขของจีนด้วย หากสายการบินของไทยดำเนินการไปได้ด้วยดี ทางการจีนอาจเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้ประเทศไทยต่อไป

@สั่ง กพท.ประสานผู้ประกอบการ เตรียมรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มหลังโควิดคลี่คลาย

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ประสานผู้ประกอบการทุกรายเตรียมความพร้อมเต็มที่เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังพบระบบการขนส่งทางอากาศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาโกลาหลหนักจากการเตรียมรับมือความต้องการเดินทางที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังโควิด-19 คลี่คลายลง

สืบเนื่องจากกรณีสนามบินทั่วยุโรปรวมทั้งในสหรัฐอเมริกา เกิดความโกลาหลอย่างหนักในช่วงนี้ โดยมีผู้โดยสารและสัมภาระตกค้างจากการยกเลิกเที่ยวบินและมีเที่ยวบินล่าช้าจำนวนมากตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 เป็นต้นมา โดยในยุโรปมีการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วเกือบ 100,000 เที่ยวบิน ส่วนในสหรัฐอเมริกาก็มีการยกเลิกเที่ยวบินไปไม่น้อยกว่า 20,000 เที่ยวบินในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่สถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง ทำให้มีปริมาณนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาก

ในขณะที่ทั้งยุโรปและอเมริกาประสบปัญหาเนื่องจากขาดแคลนบุคลากรทางการบิน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับลดพนักงานไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผลพวงจากการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกักตัวจนขาดคนทำงาน นอกจากนั้น ในหลายประเทศยังมีการนัดหยุดงานของบุคลากรในอุตสาหกรรมการบิน ทำให้มีคนทำงานไม่เพียงพอ

ประธาน กบร.จึงสั่งการให้ CAAT เร่งประสานกับทุกภาคส่วนทั้งสายการบิน สนามบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด รวมทั้งผู้ประกอบการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมทุกมิติไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นในระบบการบินของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้

@ ทบทวนแผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

นอกจากนี้ กบร.ได้มีมติเห็นชอบการทบทวนแผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติ ซึ่งเป็นแผนหลักในการพัฒนาระบบห้วงอากาศและโครงสร้างพื้นฐานระบบการเดินอากาศของประเทศไทยให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยได้มีการปรับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งในแง่ของกรอบเวลาและแผนการพัฒนาด้านอื่นๆ ของไทย

รวมไปถึง กบร.ได้มีมติเห็นชอบให้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนให้ผู้ประกอบการที่ยื่นคำขอจำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัทเอเซีย เอวิเอชั่น แอนด์ เทคโนโลยี จํากัด และบริษัทแอร์ อินเตอร์ ทรานสปอร์ต จำกัด รวมทั้งเห็นชอบให้ต่อใบอนุญาตฯ ให้ผู้ประกอบการจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย บริษัทเอเชี่ยน แอโรสเปซ เซอร์วิส จํากัด บริษัทแอ๊ก โกลบอล จํากัด บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด และบริษัทเอ็มเจ็ท จํากัด ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนได้ตรวจสอบคุณสมบัติและพิจารณาให้ความเห็นชอบในเบื้องต้นมาแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น