xs
xsm
sm
md
lg

ตอบรับดี! การบินไทยพร้อมบิน "เจดดาห์" ซาอุดีอาระเบีย ตั้งเป้า Load Factor 80% ปลายปีจ่อเพิ่มเที่ยวบิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



การบินไทยพร้อมบินเส้นทางใหม่ "กรุงเทพฯ-เจดดาห์" ซาอุดีอาระเบีย ตั้งเป้าผู้โดยสาร 80% ชี้ตลาดมีศักยภาพและหลากหลาย จ่อเพิ่มจาก 4 เที่ยวบินเป็น 7 เที่ยวบินช่วงปลายปี เผยบินตรง สะดวก คาดดึงนักท่องเที่ยวเพิ่ม 10 เท่า จาก 3 หมื่นคนเป็น 3 แสนคน/ปี

นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยมีความพร้อมในการเปิดเส้นทางบินใหม่ "กรุงเทพฯ-เจดดาห์" ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นการกลับมาทำการบินเที่ยวบินเชิงพาณิชย์สู่ซาอุดีอาระเบียในรอบ 32 ปี โดยเริ่มทำการบินเที่ยวบินแรกในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ภายหลังจากที่รัฐบาลไทยได้เดินทางไปเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนให้พี่น้องมุสลิมได้เดินทางแสวงบุญตามกิจสำคัญของศาสนา ซึ่งที่ผ่านมาการบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้สนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการจัดเที่ยวบินพิเศษขนส่งผู้แสวงบุญฮัจญ์ไปยังนครเมกกะ และเมดินะห์ ซาอุดีอาระเบีย มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบันการบินไทยมีสิทธิการบินสู่เจดดาห์ และริยาด 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ โดยช่วงแรกการบินไทยจะเปิดให้บริการเส้นทางบินกรุงเทพฯ-เจดดาห์ 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ซึ่งหากตลาดตอบรับดีจะมีโอกาสเพิ่มเป็น 7 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ในตารางบินฤดูหนาว ซึ่งหลังเปิดให้จองตั๋วโดยสารมีผลตอบรับยอดการจองค่อนข้างดี โดยคาดหมาย Cabin Factor ที่ 80% และมีแนวโน้มที่จะเปิดบินสู่เมืองริยาดเพิ่มในช่วงปลายปีนี้อีกด้วย

นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย เปิดเผยว่า จากการศึกษาเส้นทางบินกรุงเทพฯ-เจดดาห์ เป็นเส้นทางที่มีศักยภาพในด้านผลประกอบการ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของทุกๆ ตลาดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นด้านศาสนา ธุรกิจแรงงาน และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมต่อการเดินทางของผู้โดยสารจากประเทศในกลุ่มภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเดินทางไปยังประเทศในตะวันออกกลางได้อย่างราบรื่นสะดวกสบาย

ทั้งนี้ ประเทศซาอุดีอาระเบียมีเศรษฐกิจที่แข็งแรง จึงตอบโจทย์การท่องเที่ยวไทยที่ต้องการนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ส่วนขาออก ตลาดมีความหลากหลาย ทั้งผู้แสวงบุญ ตลาดแรงงาน ซึ่งไทยมีเครือข่ายเส้นทางเชื่อมกับตลาดอาเซียน รวมถึงตลาดด้านการรักษาพยาบาล ที่จะช่วยให้รายได้ในเส้นทางนี้เติบโต นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษา และมีการเจรจาด้านการขนส่งสินค้า เช่น อาหารฮาลาล โดยมีเจดดาห์เป็นเศูนย์กลางเชื่อมสู่ตลาดประเทศตะวันออกกลางได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้จากการขนส่งใต้ท้องเครื่องบินได้อีกทาง

นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท การบินไทย กล่าวว่า การตลาดเส้นทางเจดดาห์มีหลายมิติ โดยมิติด้านศาสนา เป็นตลาดใหญ่ แต่ละปีมีความต้องการเดินทางของผู้แสวงบุญหลายหมื่นคน โดยปี 2565 การบินไทยได้โควตา ขนส่งผู้แสวงบุญ 2,500 คน และเมื่อเปิดเส้นทางบินอย่างเป็นทางการจะมีโอกาสรองรับผู้แสวงบุญที่ต้องการเดินทางมากกว่า 1 ครั้ง เนื่องจากเป็นการบินตรงที่มีความสะดวก สามารถเชื่อมต่อนครเมกกะ โดยการบินไทยมีเครือข่ายร่วม ไทยสมายล์ ที่เชื่อมโยงเส้นทางภาคใต้ของไทย ทั้งหาดใหญ่ นราธิวาส

สำหรับประเทศซาอุดีอาระเบีย ตลาดมีศักยภาพ ทั้งด้านท่องเที่ยว, กำลังซื้อ, ความต้องการด้านรักษาพยาบาล, การเดินทางของแรงงาน ที่เครือข่ายของการบินไทยสามารถเชื่อมโยงกับประเทศฟิลิปปินส์ได้ รวมถึงเดินทางเพื่อการศึกษา และเพื่อธุรกิจ

"เจดดาห์ เป็นเมืองท่าสำคัญของซาอุดีอาระเบีย เป็นประตูสู่เมกกะ มีความต้องการเดินทางขาเข้าประมาณ 30,000 คนต่อปี ในอดีตมีข้อจำกัดในการเดินทางที่ต้องเข้ามาทางมาเลเซีย ดังนั้น เมื่อเปิดเที่ยวบินตรงมาไทยจะมีความสะดวกมากขึ้น คาดว่าจะช่วยให้ตลาดเติบโตขึ้น 10 เท่าหรือเพิ่มเป็น 3 แสนคน/ปีได้"

การบินไทยทำการบินเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-เจดดาห์ ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง B 787 มีชั้นธุรกิจ 22 ที่นั่ง ชั้นประหยัด 234 ที่นั่ง ให้บริการสัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน โดยทำการบินทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์ เริ่มวันที่ 19 สิงหาคม 2565 คือ เที่ยวบินที่ ทีจี 503 เส้นทางกรุงเทพฯ-เจดดาห์ ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 18.45 น. ถึงเจดดาห์ เวลา 22.40 น. (เวลาท้องถิ่น) และเที่ยวบินที่ ทีจี 504 เส้นทางเจดดาห์-กรุงเทพฯ ออกจากเจดดาห์ เวลา 00.40 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ เวลา 13.10 น.

นอกจากนี้ ในโอกาสเปิดเส้นทางบินดังกล่าว บริษัทฯ ได้มอบสิทธิประโยชน์พิเศษให้แก่ผู้โดยสาร เช่น ผู้โดยสารชั้นประหยัดได้รับน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระเพิ่มเป็น 35 กิโลกรัมต่อเที่ยวบิน และชั้นธุรกิจเพิ่มเป็น 40 กิโลกรัมต่อเที่ยวบิน (สำหรับการเดินทางตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม-31 ธันวาคม 2565) รวมทั้งโปรแกรมสะสมไมล์รอยัล ออร์คิด พลัส มอบโบนัสไมล์พิเศษให้แก่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ 1,000 ไมล์ต่อเที่ยวบิน และชั้นประหยัด 500 ไมล์ต่อเที่ยวบิน (สำหรับการเดินทางตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม-31 ตุลาคม 2565)

ทั้งนี้ วันนี้ (26 กรกฎาคม 2565) บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าวและงานเลี้ยงรับรองการเปิดเส้นทางบินใหม่ “The Magical Journey” สู่เจดดาห์ ซาอุดีอาระเบีย โดยมีนายปิยสวัสดิ์อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการบริษัทการบินไทยฯ เป็นประธาน พร้อมด้วยนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ นายสุวรรธนะ สีบุญเรือง รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทการบินไทยฯ ผู้บริหาร สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน ณ สำนักงานใหญ่การบินไทย ถนนวิภาวดี-รังสิต

การเปิดเส้นทางบินตรงสู่เจดดาห์ในครั้งนี้ การบินไทยพร้อมให้บริการด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และการรับรู้ด้วยหัวใจ เริ่มตั้งแต่ผู้โดยสารสามารถจองบัตรโดยสารและเช็กอินได้รวดเร็วโดยผ่านระบบออนไลน์ ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ สมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส บัตรแพลทินัมและบัตรทอง สามารถสั่งจองอาหารล่วงหน้าด้วยบริการ Pre Select Meal และอิ่มอร่อยกับรสชาติอาหารสุดพิเศษที่ผลิตโดยครัวฮาลาลของการบินไทย ซึ่งมีขั้นตอนการประกอบอาหารเป็นไปตามหลักของศาสนาอิสลาม ได้รับการรับรองมาตรฐาน HAL-Q รวมทั้งเมนูกาแฟสูตรพิเศษ Black Silk Blend จิบคู่กับช็อกโกแลตกานเวลา (KANVELA) ซึ่งให้บริการในชั้นธุรกิจ นอกจากนั้น การบินไทยยังมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น กับโปรแกรมท่องเที่ยวของทัวร์เอื้องหลวง (Royal Orchid Holiday) ที่นำเสนอแพกเกจพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวซาอุดีอาระเบียแบบเจาะลึก รวมทั้งทัวร์ท่องเที่ยวจอร์แดน อียิปต์ รวมถึงประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลางอีกด้วย










กำลังโหลดความคิดเห็น