จากการเปิดเผยข้อมูลของ Glassnode บริษัทวิเคราะห์การลงทุนชื่อดังเมื่อวันจันร์ที่ 20 มิถุนายนผ่านมาว่า จำนวนกระเป๋าเงิน Bitcoin wallet ของนักลงทุนในปัจจุบันส่วนใหญ่มากกว่า +56.2% ยังคงอยู่ในระดับของ “กำไร” และอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับ +45% ถึง +50% ของช่วงที่ตลาดซบเซาในปี 2561
สิ่งที่นักวิวิเคราะห์จาก Glassnode เปิดเผยออกมานั้นสร้างความประหลาดใจให้นักลงทันอย่างมา โดยเฉพาะ ความเห็นในประเด็นการเปรียบเทียบสถิติความเสียหายที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกับในอดีต ซึ่ง Glassnode มองว่า ภาวะตลาดหมีที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ยังไม่รุนแรงเท่ากับที่เกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมา
“ความรุนแรงของตลาดหมีในปัจจุบันที่เกิดขึ้น ไม่ได้รุนแรงเทียบเท่ากับช่วงที่เลวร้ายที่สุดที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยมีเพียง 43% ถึง 45% ของตลาดที่ขาดทุนโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าแรงเทขายที่เกิดขึ้นจำนวนมาก จะสามารถสร้างแรงกดดัน ให้ตลาดพลิกกลับร่วงลงอย่างรุนแรงได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะฉุดให้ตลาดกลับไปสู่จุดเริ่มต้นเหมื่อนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน แต่อาจมีความรุนแรงกว่า"
อย่างไรก็ดีแม้ว่าราคา Bitcoin จะร่วงลงแล้วกว่า -70% จากจุดสูงสุดตลอดกาล แต่กลับพบว่ากว่า 56.2% ของผู้ถือ Bitcoin ยังคงอยู่ในสถานะกำไร และอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันกับช่วงตลาดขาลงในปี 2562 ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี เนื่องจากสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าตลาดอาจดิ่งลึกสุดจนหมดแนวดิ่งและสร้างฐานฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ในไม่ช้า
ทั้งนี้โดยปกติแล้วจุดต่ำสุดของราคา BTC มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเมื่อ Wallet น้อยกว่าครึ่งที่ยังคงเหลือกำไรอยู่ ด้วยแนวคิดนี้แสดงให้เห็นว่าเทรนด์ขาลงในปัจจุบันนั้นใกล้ที่จะจนรอบแล้วก่อนที่จะทยอยปรับตัวขึ้นมาใหม่ หรืออาจร่วงลงแรงจนลงไปกองกับพื้นและอาจใช้ระยะเวลาหลายปีฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง เช่นที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2563 Wallet ที่กำไรลดลงแตะระดับ -41% และก่อนหน้านั้น ตลาดที่เกิดภาวะซบเซาปี 2561 ก็ลดลงต่ำกว่าระดับ -50% ซึ่งในปัจจุบัน Wallet ที่กำไรก็ใกล้จะลดลงต่ำกว่าระดับ -50% แล้วเช่นกัน ต่างกันแค่เพียงช่วงตลาดหมีที่เกิดภาวะซบเซาปี 2561และปี 2563 นั้น FED ยังไม่มีมาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปัญหาเงินเฟ้อยังไม่เกิดขึ้นมา ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกัน แต่ต่างกรรม ต่างวาระกันเท่านั้น
