xs
xsm
sm
md
lg

WHAUPลั่นไตรมาส2/65โตต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



WHAUPฟุ้งไตรมาส2/65โตต่อเนื่อง เนื่องจากมียอดขายจากธุรกิจน้ำและไฟฟ้าให้กับลูกค้าทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มสูงขึ้น เผยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาM&Aโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศ ด้านฝั่งไทยเตรียมสรุปโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรในเร็วๆนี้

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานบริษัทในไตรมาส2/2565เติบโตต่อเนื่องทั้งธุรกิจไฟฟ้าและน้ำที่มียอดจำหน่ายน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าไอพีพี หน่วยที่ 3 ของบมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF)เมื่อเมษายนที่ผ่านมา รวมทั้งในต่างประเทศ พบว่ายอดขายน้ำที่เวียดนามก็เพิ่มสูงขึ้นตามฤดูกาล ส่วนธุรกิจไฟฟ้า บริษัทมีการจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น หลังจากมีการรุกธุรกิจให้บริการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ทั้งในและนอกนิคมฯ


ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำในปี2565 รวม 153 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเติบโต 13% จากปีก่อน เป็นการเติบโตของกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ผนวกกับการขยายฐานลูกค้าภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป โดยจำหน่ายทั้งน้ำดิบ หรือน้ำอุตสาหกรรมทั่วไปรวมทั้งน้ำปราศจากแร่ธาตุ (Demineralized Water) และน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) ที่ได้จากกระบวนการนำน้ำเสียมาบำบัด ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็น Product ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าด้วย

โดยโรงผลิตน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง เพื่อป้อนให้กับลูกค้าโรงไฟฟ้า SPP ของกลุ่ม GULF คาดว่าในไตรมาส 3 นี้ จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 1.4 ล้านลบ.ม. ต่อปี รวมทั้งบริษัทหันมาสร้างการเติบโตนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอด้วย ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเซ็นสัญญาร่วมมือกับนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนสำหรับผลิตและจำหน่ายน้ำประเภท Value - Added Product ให้กับลูกค้าที่เป็นโรงงานในนิคมฯเอเชีย โดยเฟสแรกที่มีกำลังการผลิตประมาณ 1 ล้านลบ.ม. ต่อปี คาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 4/2565 และลงทุนในการจัดหาแหล่งน้ำดิบทางเลือกอื่นๆ โดยตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตของแหล่งน้ำดิบทางเลือกอีกอย่างน้อย 11 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี

สำหรับโครงการที่ประเทศเวียดนามนั้น มีการขยายการลงทุนต่อเนื่องทั้งในส่วนของการลงทุนด้านสาธารณูปโภคในเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน เหงะอาน เฟสที่ 2 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาสที่1 ปี 2565 หลังจากเฟสที่ 1 พัฒนาแล้วเสร็จ และพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าภายในเขตอุตสาหกรรมเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับโครงการประปา SDWTP และ Cua Lo ที่จะมีการลงทุนในส่วนของท่อเพิ่มเพื่อขยายการบริการแก่ลูกค้าเช่นกัน


นายสมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า ส่วนธุรกิจไฟฟ้า ในปี2565บริษัทวางเป้าหมายเพิ่มพอร์ตรวมของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะสมแตะ 150 เมกะวัตต์ ซึ่งในจำนวนสัญญารวมดังกล่าว คาดว่าจะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในปีนี้ทั้งสิ้น 115 เมกะวัตต์ และส่วนที่เหลือจะทยอย COD ในปีถัดไป

นอกจากนี้ บริษัทเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ อาทิการพัฒนาแพลตฟอร์มพลังงานอัจฉริยะ เพื่อซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในกลุ่มลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ หรือ ระบบการซื้อขายไฟฟ้าแบบ Peer-to-Peer Energy Trading ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตร จาก บมจ.ปตท. “PTT” และ บริษัท เซอร์ทิส จำกัด “Sertis” เพื่อร่วมพัฒนาระบบ Trading Platform ภายใต้ชื่อว่า “RENEX” โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและอำนวยความสะดวกการซื้อขายพลังงาน ระหว่างผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ERC Sandbox หรือ โครงการทดลองด้านนวัตกรรมพลังงานของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้ายในการทดลองให้บริการซื้อขายเชิงพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขึ้นภายในไตรมาส 3/2565 ซึ่งระบบการซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าว เมื่อพัฒนาเสร็จแล้วเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้พอร์ตพลังงานหมุนเวียนของ “WHAUP” เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยปัจจุบันมีกลุ่มผู้ประกอบการที่เข้าร่วมเป็น Clean Energy Trader ในโครงการทดลองนำร่องดังกล่าวจำนวนมากกว่า 23 ราย

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าว่าในปี 2569 บริษัทฯจะมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินงานปกติแตะระดับ 6,000 ล้านบาท โดยรักษาระดับอัตราผลกำไร EBITDA ในระดับสูงกว่าร้อยละ 50 จากการเติบโตของธุรกิจหลักทั้งน้ำและไฟฟ้า จากการขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเวียดนาม ขณะเดียวกัน บริษัทฯ วางเป้าหมายการให้บริการในธุรกิจ Green Power เพิ่มขึ้น จากที่ผ่านมา WHAUP มีการลงทุนธุรกิจให้บริการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา


นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุนควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และโครงการประเภท Green Field ในต่างประเทศ โดยการนำโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในประเทศไปต่อยอดการลงทุนต่อไป ส่วนประเทศไทย บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมลงทุนกับพันธมิตรคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ เพื่อให้บริษัทฯก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการ Smart Utilities and Green Power Solution

นายประพนธ์ ชินอุดมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงิน WHAUP กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งงบลงทุน 5 ปี (2565 - 2569) ที่ 10,000 ล้านบาท (ไม่รวมการM&AและJV) โดยเป็นงบลงทุนสำหรับปี 2565 ประมาณ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนในธุรกิจน้ำ และไฟฟ้า ประมาณอย่างละครึ่ง โดยแหล่งเงินทุนดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากทั้งเงินกู้จากสถาบันการเงิน และการออกหุ้นกู้ โดยเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2565 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้วงเงินรวม 2,800 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยในจำนวนนี้เป็นหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) จำนวน 1,800 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น